'เอ็กซอน' เสนอไทย "ถมทะเล" แลกลงทุน 2 แสนล้าน!!

17 ม.ค. 2562 | 06:29 น.
170162-1252

ยักษ์มะกัน 'เอ็กซอนโมบิล' จี้รัฐบาล เร่งหาข้อสรุปพื้นที่สร้างโรงงานปิโตรเคมี มูลค่า 2 แสนล้าน ยื่นข้อเสนอรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ถมทะเลย่านท่าเรือโรงกลั่นเอสโซ่ ศรีราชา ขู่เบนเข็มไปเวียดนาม 'กอบศักดิ์' คาดกลางปีได้ข้อสรุป

ปัญหาการจัดหาพื้นที่เพื่อรองรับลงทุนสร้างโรงงานปิโตรเคมีขนาดใหญ่ในพื้นที่ภาคตะวันออก วงเงิน 1.6-2 แสนล้านบาท ของกลุ่มบริษัท เอ็กซอนโมบิล คอร์ปอเรชั่นฯ ยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจน้ำมันจากสหรัฐอเมริกา กำลังท้าทายต่อการตัดสินใจทางนโยบายครั้งสำคัญของรัฐบาลไทย


558000002096702-1

หลังจาก นายแจ็ก พี.วิลเลียมส์ รองประธานอาวุโส บริษัท เอ็กซอนโมบิลฯ ได้เข้าหารือกับ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เมื่อปี 2561 ได้แสดงเจตนารมณ์จะลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี)

อย่างไรก็ตาม รองประธานอาวุโสของเอ็กซอนโมบิล ได้ยื่นเงื่อนไขว่า ต้องการให้ทางรัฐบาลไทยจัดหาที่ดินราว 600-700 ไร่ และห่างจากท่าเรือแหลมฉบังและโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ในรัศมีไม่เกิน 5 กิโลเมตร เพื่อดำเนินการตั้งโรงงานปิโตรเคมี ลงทุนราว 1.6-2 แสนล้านบาท และให้ได้ข้อสรุปภายในกลางปี 2561


P1-INFO-3436

โดยมอบหมายให้ท่าเรือแหลมฉบัง การนิคมอุตสาหกรรมฯ และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ไปจัดหาพื้นที่ให้ได้ตามเงื่อนไขดังกล่าว ร่วมกับการพิจารณาของเอ็กซอนโมบิล ซึ่งได้มีแนวทางในการจัดหาพื้นที่ไว้ ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่ของท่าเรือแหลมฉบัง พื้นที่ของ บริษัท ยูนิไทยชิปยาร์ด แอนด์ เอนจิเนียริ่ง จำกัด ซึ่งเช่าพื้นที่อยู่ในท่าเรือแหลมฉบัง พื้นที่ป่าไม้อยู่บริเวณติดกับโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ รวมถึงการจะถมทะเลบริเวณหน้าท่าเรือของโรงกลั่นเอสโซ่

 

[caption id="attachment_375878" align="aligncenter" width="500"] 'เอ็กซอน' เสนอไทย "ถมทะเล" แลกลงทุน 2 แสนล้าน!! เพิ่มเพื่อน [/caption]

➣ แต่ละพื้นที่ติดปัญหา

แต่ผลการพิจารณาของพื้นที่ดังกล่าว ล้วนแต่ติดปัญหา ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งมีพื้นที่ว่าง แต่เป็นแปลงขนาดเล็กและไม่อยู่ติดกัน ขณะที่ พื้นที่ในนิคมแหลมฉบังก็มีการลงทุนเต็มพื้นที่แล้ว ส่วนพื้นที่ของ บริษัท ยูนิไทยชิปยาร์ดฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเหมาะสมตั้งโรงงานฯ ยังติดสัญญาเช่าถึงปี 2563 การจะบอกเลิกสัญญานำที่ดินมาใช้ทันทีจะมีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้นได้ และการจะใช้พื้นที่ป่าไม้ ซึ่งเป็นภูเขา ก็เป็นพื้นที่ไม่มีความเหมาะสม ส่วนการจะถมทะเล ก็ต้องใช้เวลานานและเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานในการขออนุญาต และต้องทำรายงานศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม กินระยะเวลานาน
เมื่อพื้นที่ดังกล่าวติดเงื่อนไขทั้งหมด จนเกือบจะครบ 1 ปี การจัดหาพื้นที่ก่อสร้างก็ยังไม่มีความคืบหน้า จนมีกระแสข่าวออกมาว่า ทางเอ็กซอนโมบิลเตรียมที่จะย้ายการลงทุนไปที่ประเทศเวียดนามแทน เนื่องจากทางรัฐบาลไม่สามารถจัดหาพื้นที่ตั้งโรงงานปิโตรเคมีตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ได้


ยัน! เอ็กซอนฯ ไม่หนีไทย

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"
ว่า จากการหารือกันมาอย่างต่อเนื่อง ทางเอ็กซอนโมบิลยังแสดงท่าทีที่จะลงทุนในประเทศไทย เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค แม้ว่าการจัดหาพื้นที่ก่อสร้างโรงงานปิโตรเคมีในช่วงที่ผ่านมาจะเกิดความล่าช้า แต่ทางรัฐบาลก็พยายามที่จะดึงการลงทุนขนาดใหญ่นี้ให้อยู่ในประเทศไทย ซึ่งได้ตั้งทีมงานขึ้นมาศึกษาพื้นที่ที่มีความเหมาะสมร่วมกับทางเอ็กซอนโมบิล

 

[caption id="attachment_375883" align="aligncenter" width="503"] กอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี[/caption]

ทั้งนี้ การจะจัดหาพื้นที่ให้ได้ตามเงื่อนไขในรัศมี 5 กิโลเมตร จากโรงกลั่นเอสโซ่นั้นก็พยายามดำเนินการอยู่ ว่า มีพื้นที่ตรงไหน โดยเฉพาะการถมทะเลบริเวณท่าเรือรับน้ำมันดิบของโรงกลั่นเอสโซ่นั้น มีความเหมาะสมหรือเป็นไปได้หรือไม่ ซึ่งต้องมาพิจารณาอย่างรอบคอบ


➣ ช่วยหนุนการลงทุนในอีอีซี

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า การตั้งโรงงานปิโตรเคมีของกลุ่มเอ็กซอนโมบิลไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการลงทุนใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ในพื้นที่อีอีซี เนื่องจากผลิตภัณฑ์หรือเม็ดพลาสติกที่ผลิตออกมายังเป็นปิโตรเคมีขั้นพื้นฐาน ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง หรือเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษ รวมถึงไม่ก่อให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีตามวัตถุประสงค์ของอีอีซีที่ตั้งไว้ หากเอ็กซอนโมบิลมาลงทุน ประเทศก็จะได้เพียงมีเม็ดเงินขนาดใหญ่เข้ามาในประเทศเท่านั้น เพราะผลิตภัณฑ์ที่ผลิตได้จะส่งออกไปต่างประเทศเป็นหลัก

ในส่วนนี้ขอชี้แจงว่า จากที่เอ็กซอนโมบิลเสนอโครงการมา มีผลิตภัณฑ์หลายชนิดและเป็นผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกที่มีมูลค่าเพิ่มหรือมีความแข็งแรงเป็นพิเศษ สามารถนำไปรองรับหรือต่อยอดไปใช้ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายของไทยได้ ซึ่งจะเป็นการตอบโจทย์การพัฒนาอีอีซีได้อีกทางหนึ่ง

 

[caption id="attachment_375884" align="aligncenter" width="503"] ©esso.co.th ©esso.co.th[/caption]

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการตั้งโรงงานปิโตรเคมีเป็นโครงการที่ใหญ่ การดำเนินงานจึงจำเป็นต้องใช้เวลา โดยเฉพาะการจัดหาพื้นที่ก่อสร้าง ที่คาดว่าจะให้ได้ข้อสรุปประมาณกลางปีนี้ ซึ่งหากผลการศึกษาออกมาแล้วไม่สามารถดำเนินการตามเงื่อนไขรัศมี 5 กิโลเมตร จากโรงกลั่นเอสโซ่ได้ หรือไม่สามารถถมทะเลได้ ก็ต้องมาหาทางออกร่วมกันว่าจะปรับไปเป็นพื้นที่อื่นที่ไกลออกไปได้หรือไม่


ต้องการพื้นที่ถมทะเล

แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กล่าวว่า หลังจากที่เอ็กซอนโมบิลทราบแนวทางการจัดหาพื้นที่ในรัศมี 5 กิโลเมตร จากโรงกลั่นไม่สามารถดำเนินการได้ ในช่วงเดือน ต.ค. 2561 จึงได้เข้าพบ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.) เพื่อเสนอแนวทางในการถมทะเลเป็นทางออก โดยขอให้รัฐบาลช่วยสนับสนุนการดำเนินงานให้มีความรวดเร็วและลดอุปสรรคในการดำเนินงาน โดยเฉพาะการขออนุญาตต่าง ๆ ที่มีหลายหน่วยงานเกี่ยวข้อง ขอให้รวมเป็นศูนย์แบบเบ็ดเสร็จในที่เดียว เพื่อให้เกิดความสะดวกในการดำเนินงาน

 

[caption id="attachment_375885" align="aligncenter" width="503"] อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.) อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.)[/caption]

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา มีขอถกเถียงถึงการลงทุนของเอ็กซอนโมบิลครั้งนี้ ว่า โครงการดังกล่าวนี้ ประเทศไทยจะได้อะไร นอกจากเม็ดเงินลงทุนขนาดใหญ่ หากผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีหรือเม็ดพลาสติกที่ผลิตได้ ยังเป็นผลิตภัณฑ์แบบเดิม ๆ ซึ่งขัดกับนโยบายของการพัฒนาพื้นที่อีอีซีที่ต้องการให้เกิดอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงในการสร้างนวัตกรรม หรือ เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยี


➣ จี้รัฐบาลเร่งหาข้อสรุป

แหล่งข่าวจาก บริษัท เอ็กซอนโมบิล จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเอ็กซอนโมบิลยังรอดูความชัดเจนของรัฐบาล ว่า จะสามารถจัดหาสถานที่ก่อสร้างโรงงานปิโตรเคมีได้หรือไม่ โดยเฉพาะการถมทะเลบริเวณท่าเรือของโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ ที่ศรีราชา ว่า จะมีทางออกสำหรับเรื่องนี้อย่างไร เพราะหากให้เอกชนมาดำเนินงานเองจะเป็นเรื่องยาก เพราะต้องใช้เวลานานและต้องขออนุญาตหลายหน่วยงาน ทำให้เกิดความยากลำบาก หากทางรัฐบาลสามารถดำเนินการให้เป็นการบริการแบบเบ็ดเสร็จ หรือ วันสต็อปเซอร์วิส น่าจะทำให้โครงการนี้เดินหน้าได้เร็ว

ทั้งนี้ ทางเอ็กซอนโมบิลอยากเห็นความชัดเจนโดยเร็ว ส่วนจะย้ายการลงทุนไปประเทศอื่นหรือไม่นั้น คงต้องให้โอกาสรัฐบาลทำงานก่อน และหลังจากนั้นถึงจะมาตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป หากไม่สามารถถมทะเลได้จริง


……………….

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,436 วันที่ 17-19 ม.ค. 2562 หน้า 01-02

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ปิโตรฯ 2 แสนล้าน ไม่คืบ! เอ็กซอนโมบิลหาที่ 600 ไร่ เจอทางตัน-ลั่นขอเวลาเจรจา
ปมที่ดินขวาง 'เอ็กซอน'! ตั้ง รง.ปิโตรเคมีแหลมฉบังส่อสะดุด - รอชี้ขาด 2 เดือน


เพิ่มเพื่อน
บาร์ไลน์ฐาน