เทศบาลแม่สอดเยือน‘เมียวดี’ สานท้องถิ่นสัมพันธ์ข้ามชาติ
แม่สอดกับเมียวดีเป็นเพื่อนบ้านบนเส้นพรมแดน 2 ประเทศ นอกจากความสัมพันธ์ 2 ประเทศผ่านกลไกราชการส่วนกลางของแต่ละฝ่ายแล้ว สายสัมพันธ์ของผู้คน 2 ฝั่งผูกพันเสมือนเป็นเมืองพี่เมืองน้อง (Sister City) มีมายาวนาน
เมื่อเร็วๆ นี้นายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีนครแม่สอด นำคณะผู้บริหาร ไปประชุมร่วมกับคณะผู้บริหารเทศบาลเมืองเมียวดี โดยมีนายอูตานส่วย (อูกะลา) นายกเทศมนตรีเมืองเมียวดี และคณะให้การต้อนรับ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเทอดเกียรติยกเรื่องการท่องเที่ยวขึ้นหารือว่า เทศบาลนครแม่สอดจะเปิดศูนย์บริการนักท่องเที่ยวขึ้น ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องจะประสานข้อมูลด้านการท่องเที่ยวระหว่างกัน ส่วนด้านการบรรเทาสาธารณภัย เช่น การฝึกอบรมหน่วยผจญเพลิง การใช้อุปกรณ์เครื่องมือสมัยใหม่ มีความจำเป็นเพิ่มขึ้น เนื่องจากทั้งแม่สอดและเมียวดีขยายตัวรวดเร็ว มีตึกสูงเพิ่มขึ้น จำเป็นต้องมีรถดับเพลิงที่ทันสมัย สามารถดับเพลิงบนอาคารสูงได้ มีความเห็นร่วมที่จะช่วยเหลือต่อกัน
ขณะที่การแลกเปลี่ยนด้านกีฬา โดยเฉพาะประเภทฟุตบอลและตะกร้อที่ฝ่ายเมียนมาสนใจมาก ตลอดจนการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรม ประเพณี ภาษา การศึกษา ก็เห็นตรงกันว่ามีความจำเป็น เพราะเป็นจุดแข็งถือเป็นทุนทางสังคมของ 2 ท้องถิ่่น ที่จะร่วมแลกเปลี่ยนและพัฒนาไปพร้อมกัน โดยทางเทศบาลนครแม่สอดกำลังผลักดันตั้งมหาวิทยาลัยนานาชาติขึ้น ควบคู่ไปกับการแลกเปลี่ยนในระดับอุดมศึกษาต่อไป
จากนั้นคณะของเทศบาลนครแม่สอด ได้ไปศึกษาดูงานการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย งานดับเพลิง- สนามกีฬา บ่อขยะ ฯลฯ เพื่อช่วยกันทำงานและแก้ไขปัญหา เพื่อการเดินหน้าไปพร้อมกันของคนท้องถิ่น ซึ่งนายอูตานส่วย นายกเทศมนตรีเมืองเมียวดี แสดงความหนักใจกับปัญหาขยะ ที่มีมากขึ้นถึงวันละเกือบ 100 ตัน ซึ่งนายกเทศมนตรีนครแม่สอด กล่าวว่า ขยะหากปล่อยทิ้งไว้นานเกินจะเป็นปัญหาใหญ่ และแก้ไขลำบาก ต้องรีบแก้ตั้งแต่ตอนนี้ ซึ่งทางเทศบาลนครแม่สอด พร้อมจะให้คำปรึกษาและข้อแนะนำในการแก้ปัญหา
การพบปะในระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ของแม่สอด-เมียวดี เป็นอีกมิติที่ช่วยทำให้คนท้องถิ่น และผู้บริหารท้องถิ่นร่วมเดินไปด้วยกัน ช่วยกัน ร่วมมือกัน เอาความผูกพันความสัมพันธ์ในท้องถิ่นไปกระชับความสัมพันธ์ระดับประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ นครแม่สอดและเมือง เมียวดี ได้จัดตั้งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษของทั้ง 2 ประเทศ จึงร่วมกันพัฒนา ทั้งเศรษฐกิจ สังคมการท่องเที่ยว การศึกษา ระบบสาธารณูปโภค ไฟฟ้า ประปา การสื่อสาร ฯลฯ การจัดตั้งศูนย์ท่องเที่ยวและวัฒนธรรม=ศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัย โดยเชื่อมต่อทางสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่นํ้าเมย แห่งที่ 1 และแห่งที่ 2 ที่จะเปิดบริการในปี 2562 โดยหารือถึงกิจกรรมร่วม อาทิ งานมหาสงกรานต์ หรือโครงการจักรยานมิตรภาพไทย-เมียนมา Thai-Myanmar Bike 2019 : 20th Year Anniversary วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2562 นี้ จากแม่สอดข้ามสะพานมิตรภาพไปเมืองเมียวดี ต่อไปถึงบ้านห้วยส้าน หมู่บ้านคนไทยในฝั่งเมียนมา เป็นต้น
หน้า 9 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,436 วันที่ 17-19 มกราคม 2562
เมื่อเร็วๆ นี้นายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีนครแม่สอด นำคณะผู้บริหาร ไปประชุมร่วมกับคณะผู้บริหารเทศบาลเมืองเมียวดี โดยมีนายอูตานส่วย (อูกะลา) นายกเทศมนตรีเมืองเมียวดี และคณะให้การต้อนรับ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเทอดเกียรติยกเรื่องการท่องเที่ยวขึ้นหารือว่า เทศบาลนครแม่สอดจะเปิดศูนย์บริการนักท่องเที่ยวขึ้น ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องจะประสานข้อมูลด้านการท่องเที่ยวระหว่างกัน ส่วนด้านการบรรเทาสาธารณภัย เช่น การฝึกอบรมหน่วยผจญเพลิง การใช้อุปกรณ์เครื่องมือสมัยใหม่ มีความจำเป็นเพิ่มขึ้น เนื่องจากทั้งแม่สอดและเมียวดีขยายตัวรวดเร็ว มีตึกสูงเพิ่มขึ้น จำเป็นต้องมีรถดับเพลิงที่ทันสมัย สามารถดับเพลิงบนอาคารสูงได้ มีความเห็นร่วมที่จะช่วยเหลือต่อกัน
ขณะที่การแลกเปลี่ยนด้านกีฬา โดยเฉพาะประเภทฟุตบอลและตะกร้อที่ฝ่ายเมียนมาสนใจมาก ตลอดจนการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรม ประเพณี ภาษา การศึกษา ก็เห็นตรงกันว่ามีความจำเป็น เพราะเป็นจุดแข็งถือเป็นทุนทางสังคมของ 2 ท้องถิ่่น ที่จะร่วมแลกเปลี่ยนและพัฒนาไปพร้อมกัน โดยทางเทศบาลนครแม่สอดกำลังผลักดันตั้งมหาวิทยาลัยนานาชาติขึ้น ควบคู่ไปกับการแลกเปลี่ยนในระดับอุดมศึกษาต่อไป
จากนั้นคณะของเทศบาลนครแม่สอด ได้ไปศึกษาดูงานการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย งานดับเพลิง- สนามกีฬา บ่อขยะ ฯลฯ เพื่อช่วยกันทำงานและแก้ไขปัญหา เพื่อการเดินหน้าไปพร้อมกันของคนท้องถิ่น ซึ่งนายอูตานส่วย นายกเทศมนตรีเมืองเมียวดี แสดงความหนักใจกับปัญหาขยะ ที่มีมากขึ้นถึงวันละเกือบ 100 ตัน ซึ่งนายกเทศมนตรีนครแม่สอด กล่าวว่า ขยะหากปล่อยทิ้งไว้นานเกินจะเป็นปัญหาใหญ่ และแก้ไขลำบาก ต้องรีบแก้ตั้งแต่ตอนนี้ ซึ่งทางเทศบาลนครแม่สอด พร้อมจะให้คำปรึกษาและข้อแนะนำในการแก้ปัญหา
การพบปะในระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ของแม่สอด-เมียวดี เป็นอีกมิติที่ช่วยทำให้คนท้องถิ่น และผู้บริหารท้องถิ่นร่วมเดินไปด้วยกัน ช่วยกัน ร่วมมือกัน เอาความผูกพันความสัมพันธ์ในท้องถิ่นไปกระชับความสัมพันธ์ระดับประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ นครแม่สอดและเมือง เมียวดี ได้จัดตั้งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษของทั้ง 2 ประเทศ จึงร่วมกันพัฒนา ทั้งเศรษฐกิจ สังคมการท่องเที่ยว การศึกษา ระบบสาธารณูปโภค ไฟฟ้า ประปา การสื่อสาร ฯลฯ การจัดตั้งศูนย์ท่องเที่ยวและวัฒนธรรม=ศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัย โดยเชื่อมต่อทางสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่นํ้าเมย แห่งที่ 1 และแห่งที่ 2 ที่จะเปิดบริการในปี 2562 โดยหารือถึงกิจกรรมร่วม อาทิ งานมหาสงกรานต์ หรือโครงการจักรยานมิตรภาพไทย-เมียนมา Thai-Myanmar Bike 2019 : 20th Year Anniversary วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2562 นี้ จากแม่สอดข้ามสะพานมิตรภาพไปเมืองเมียวดี ต่อไปถึงบ้านห้วยส้าน หมู่บ้านคนไทยในฝั่งเมียนมา เป็นต้น
หน้า 9 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,436 วันที่ 17-19 มกราคม 2562
