"เรนเจอร์-เอเวอเรสต์" หัวหอกดันยอดขาย 'ฟอร์ด' เติบโต

'ฟอร์ด' ประกาศผลการดำเนินงานปี 61 โกยยอดขายกว่า 66,064 คัน เติบโต 18% โดยมีกระบะ 'เรนเจอร์' และรถเอสยูวีขนาดกลาง 'เอเวอเรสต์' เป็นหัวหอก


นายวิชิต ว่องวัฒนาการ กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า ผลประกอบการประจำปี 2561 พบว่า ฟอร์ดมียอดขายที่เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับปีก่อน ด้วยยอดจำหน่ายรวม 66,064 คัน โดยความสำเร็จของ 'เรนเจอร์' และ 'เอเวอเรสต์' ช่วยผลักดันให้ผลการดำเนินงานของฟอร์ดและส่วนแบ่งทางการตลาดเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2561

โดยยอดขายเรนเจอร์ในปี 2561 เพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า หรือคิดเป็นจำนวน 55,389 คัน ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดของเรนเจอร์เพิ่มขึ้น 0.2 จุด เมื่อเทียบจากปีก่อน เป็น 12.4% และเรนเจอร์ครองตำแหน่งรถกระบะที่ขายดีที่สุดเป็นอันดับ 3 ในประเทศไทย

สำหรับ "ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่" มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลทั้ง 2 แบบ คือ เครื่องยนต์เทอร์โบคู่ 2.0 ลิตร และเครื่องยนต์เทอร์โบ 2.0 ลิตร รวมถึงเครื่องยนต์ดีเซลดูราทอร์ค โดย "ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่" ที่จำหน่ายในประเทศไทยมีทั้งหมด 20 รุ่น ได้แก่ ไวล์ดแทรค XLT XLS XL รวมถึงรุ่นใหม่ 'ลิมิเต็ด' (Limited) และ "เรนเจอร์ แร็พเตอร์" รถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูงรุ่นแรกและรุ่นเดียวในเอเชียแปซิฟิก




ในส่วนของ "ฟอร์ด เอเวอเรสต์" รถเอสยูวีขนาดกลาง มีผลประกอบการที่ดีที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2561 ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้น 19% หรืออยู่ที่ 9,756 คัน ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 1.3 จุดเป็น 15.1%




นายวิชิต กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ ฟอร์ดยังได้ยกระดับบริการและประสบการณ์ลูกค้าในปี 2561 อย่างต่อเนื่อง ด้วยการแต่งตั้งผู้จำหน่ายอะไหล่ฟอร์ดอย่างเป็นทางการ เพื่อมาช่วยต่อยอดเสริมความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายผู้จำหน่ายฟอร์ด 155 โชว์รูมทั่วประเทศ ซึ่งโครงการนี้จะช่วยกระจายอะไหล่ฟอร์ดไปยังร้านขายชิ้นส่วนอะไหล่ อู่รถยนต์ ศูนย์ซ่อมตัวถังและสีรถยนต์ ที่ได้รับการรับรองรวมกว่า 2,000 รายทั่วประเทศ เพื่อเสริมศักยภาพในการจัดสรรอะไหล่แท้ของฟอร์ดให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ