IRPC เล็งดึงทุน 7.3 หมื่นล้าน! จี้คลอดเขตส่งเสริมพิเศษใน 'อีอีซี' รับต่างชาติ "3 กลุ่มอุตฯ"
'ไออาร์พีซี' รอลุ้น 'อีอีซี' ไฟเขียวจัดตั้งเขตส่งเสริมพิเศษต้นปีหน้า หวังดึงนักลงทุน 3 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ทั้งหุ่นยนต์ การบิน และยานยนต์สมัยใหม่ เข้ามาลงทุนบนพื้นที่ 1.4 พันไร่ ก่อให้เกิดเม็ดเงินลงทุนกว่า 7.3 หมื่นล้านบาท
แหล่งข่าวจาก บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ขณะนี้บริษัทได้ยื่นเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เพื่อขอจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมระยอง ในพื้นที่ 2,037 ไร่ บริเวณ ต.หนองบัว และ ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เนื้อที่ 2,037 ไร่ เป็นเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อกิจการอุตสาหกรรมตาม พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพื่อรองรับการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น อุตสาหกรรมหุ่นยนต์เพื่อการอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ และอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ โดยคาดว่าจะได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในช่วงต้นปี 2562
ทั้งนี้ ในการจัดตั้งเขตส่งเสริมดังกล่าว จากผลการศึกษาพบว่า ในการดำเนินงานของโครงการได้แบ่งพื้นที่สำหรับรองรับโรงงานอุตสาหกรรมและกิจกรรมที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรม 3 กลุ่มเป้าหมาย ประมาณ 1,404 ไร่ และพื้นที่สำหรับระบบสาธารณูปโภคและพื้นที่อื่น ๆ 747 ไร่
โดย "อุตสาหกรรมหุ่นยนต์เพื่อการอุตสาหกรรม" ทางบริษัทคาดว่าจะมีผู้ประกอบการเข้ามาผลิตหุ่นยนต์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตและผู้ผลิตหุ่นยนต์เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งจากการประมาณการใช้พื้นที่ราว 561 ไร่ คาดว่าจะรองรับการลงทุนได้ 51.24 ล้านบาทต่อไร่ หรือก่อให้เกิดเม็ดเงินลงทุนเป็นมูลค่ามากกว่า 28,791 ล้านบาท
ขณะที่ "อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่" ที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง รวมถึงการผลิตแบตเตอรี่และระบบขับเคลื่อนรถไฟฟ้า คาดว่าจะมีผู้ประกอบการผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้า ผู้ผลิตแบตเตอรี่ ผู้ผลิตชิ้นส่วนระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ซึ่งจากการประมาณการใช้พื้นที่ราว 561 ไร่ จะรองรับการลงทุนได้ 59.82 ล้านบาทต่อไร่ หรือจะก่อให้เกิดเม็ดเงินลงทุนคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 33,612 ล้านบาท
ส่วน "อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์" ซึ่งผลการศึกษาเน้นไปที่อุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน อุตสาหกรรมการซ่อมบำรุงชิ้นส่วนและการซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ จากการประมาณการใช้พื้นที่ 280 ไร่ จะรองรับการลงทุนได้ 36.66 ล้านบาทต่อไร่ หรือจะก่อให้เกิดเม็ดเงินลงทุนคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 10,299 ล้านบาท
ดังนั้น เมื่อประมาณการลงทุนรวมทั้ง 3 กลุ่มอุตสาหกรรมแล้ว จะก่อให้เกิดการลงทุนนิคมอุตสาหกรรมระยอง (บ้านค่าย) ราว 72,702 ล้านบาท ซึ่งจะก่อให้เกิดการกระจายรายได้ไปสู่ห่วงโซ่ของธุรกิจการลงทุนที่เกี่ยวข้องอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งมูลค่าเงินลงทุนดังกล่าวนี้ยังไม่รวมถึงมูลค่าการลงทุนในส่วนของการพัฒนานิคมแห่งนี้อีก
[caption id="attachment_362480" align="aligncenter" width="335"]
[/caption]
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า สำหรับการยกระดับพื้นที่นิคมฯแห่งนี้เป็นเขตส่งเสริมฯ เมื่อได้รับการอนุมัติจาก กพอ. แล้ว ทางบริษัทจะมีการจัดตั้งกองทุนรักษาสิ่งแวดล้อมขึ้นมาดูแล โดยจะมีเงินเริ่มต้นที่ 5 แสนบาท และทุนสมทบในแต่ละปีจำนวน 1% ของมูลค่าที่ดินที่ขายได้ในแต่ละปีด้วย ซึ่งประโยชน์ที่ได้จากโครงการนี้จะทำให้ดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในพื้นที่ คิดเป็นมูลค่าราว 7.3 หมื่นล้านบาท ก่อให้เกิดการจ้างงานในกลุ่มอุตสาหกรรมจำนวนมาก สร้างความรู้และทักษะด้านหุ่นยนต์ การบินและโลจิสติกส์ และยานยนต์สมัยใหม่ เป็นต้น
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,428 ระหว่างวันที่ 20-22 ธันวาคม 2561
แหล่งข่าวจาก บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ขณะนี้บริษัทได้ยื่นเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เพื่อขอจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมระยอง ในพื้นที่ 2,037 ไร่ บริเวณ ต.หนองบัว และ ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เนื้อที่ 2,037 ไร่ เป็นเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อกิจการอุตสาหกรรมตาม พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพื่อรองรับการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น อุตสาหกรรมหุ่นยนต์เพื่อการอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ และอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ โดยคาดว่าจะได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในช่วงต้นปี 2562
ทั้งนี้ ในการจัดตั้งเขตส่งเสริมดังกล่าว จากผลการศึกษาพบว่า ในการดำเนินงานของโครงการได้แบ่งพื้นที่สำหรับรองรับโรงงานอุตสาหกรรมและกิจกรรมที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรม 3 กลุ่มเป้าหมาย ประมาณ 1,404 ไร่ และพื้นที่สำหรับระบบสาธารณูปโภคและพื้นที่อื่น ๆ 747 ไร่
โดย "อุตสาหกรรมหุ่นยนต์เพื่อการอุตสาหกรรม" ทางบริษัทคาดว่าจะมีผู้ประกอบการเข้ามาผลิตหุ่นยนต์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตและผู้ผลิตหุ่นยนต์เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งจากการประมาณการใช้พื้นที่ราว 561 ไร่ คาดว่าจะรองรับการลงทุนได้ 51.24 ล้านบาทต่อไร่ หรือก่อให้เกิดเม็ดเงินลงทุนเป็นมูลค่ามากกว่า 28,791 ล้านบาท
ขณะที่ "อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่" ที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง รวมถึงการผลิตแบตเตอรี่และระบบขับเคลื่อนรถไฟฟ้า คาดว่าจะมีผู้ประกอบการผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้า ผู้ผลิตแบตเตอรี่ ผู้ผลิตชิ้นส่วนระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ซึ่งจากการประมาณการใช้พื้นที่ราว 561 ไร่ จะรองรับการลงทุนได้ 59.82 ล้านบาทต่อไร่ หรือจะก่อให้เกิดเม็ดเงินลงทุนคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 33,612 ล้านบาท
ส่วน "อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์" ซึ่งผลการศึกษาเน้นไปที่อุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน อุตสาหกรรมการซ่อมบำรุงชิ้นส่วนและการซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ จากการประมาณการใช้พื้นที่ 280 ไร่ จะรองรับการลงทุนได้ 36.66 ล้านบาทต่อไร่ หรือจะก่อให้เกิดเม็ดเงินลงทุนคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 10,299 ล้านบาท
ดังนั้น เมื่อประมาณการลงทุนรวมทั้ง 3 กลุ่มอุตสาหกรรมแล้ว จะก่อให้เกิดการลงทุนนิคมอุตสาหกรรมระยอง (บ้านค่าย) ราว 72,702 ล้านบาท ซึ่งจะก่อให้เกิดการกระจายรายได้ไปสู่ห่วงโซ่ของธุรกิจการลงทุนที่เกี่ยวข้องอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งมูลค่าเงินลงทุนดังกล่าวนี้ยังไม่รวมถึงมูลค่าการลงทุนในส่วนของการพัฒนานิคมแห่งนี้อีก
[caption id="attachment_362480" align="aligncenter" width="335"]
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า สำหรับการยกระดับพื้นที่นิคมฯแห่งนี้เป็นเขตส่งเสริมฯ เมื่อได้รับการอนุมัติจาก กพอ. แล้ว ทางบริษัทจะมีการจัดตั้งกองทุนรักษาสิ่งแวดล้อมขึ้นมาดูแล โดยจะมีเงินเริ่มต้นที่ 5 แสนบาท และทุนสมทบในแต่ละปีจำนวน 1% ของมูลค่าที่ดินที่ขายได้ในแต่ละปีด้วย ซึ่งประโยชน์ที่ได้จากโครงการนี้จะทำให้ดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในพื้นที่ คิดเป็นมูลค่าราว 7.3 หมื่นล้านบาท ก่อให้เกิดการจ้างงานในกลุ่มอุตสาหกรรมจำนวนมาก สร้างความรู้และทักษะด้านหุ่นยนต์ การบินและโลจิสติกส์ และยานยนต์สมัยใหม่ เป็นต้น
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,428 ระหว่างวันที่ 20-22 ธันวาคม 2561
