ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 199.62 จุด รับความหวัง "ปธน.ทรัมป์-สีจิ้นผิง" คลายข้อพิพาทการค้า

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (30 พ.ย. 61) โดยนักลงทุนมีความหวังว่า การหารือระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นอกรอบการประชุม G20 ในช่วงสุดสัปดาห์ (30 พ.ย. - 1 ธ.ค. 61) จะเป็นไปด้วยดี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,538.46 จุด บวก 199.62 จุด หรือ +0.79% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,760.17 จุด เพิ่มขึ้น 22.41 จุด หรือ +0.82% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,330.54 จุด เพิ่มขึ้น 57.45 จุด หรือ +0.79%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (30 พ.ย. 61) ได้รับแรงหนุนจากการแสดงความเห็นที่เป็นบวกของ นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ที่แสดงความหวังว่า การเจรจาแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในปลายสุดสัปดาห์ (30 พ.ย. - 1 ธ.ค. 61) จะประสบผลสำเร็จ คำกล่าวของนายไลท์ไฮเซอร์หนุนดาวโจนส์ดีดตัวขึ้น หลังจากที่ลดลงไปถึง 72 จุด ในช่วงเปิดตลาด

ขณะเดียวกัน นายนีล แคชแครี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขามินเนอาโพลิส กล่าวว่า เฟดไม่ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่งและอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยเตือนว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป มีความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เผชิญภาวะถดถอย

โดยนายแคชแครียังเห็นสอดคล้องกับความเห็นของ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด และนายริชาร์ด แคลริดา รองประธานเฟด ที่ว่าอัตราดอกเบี้ยเฟดกำลังเข้าใกล้ระดับที่เป็นกลาง