ก.พ.ร. เปิด "ศูนย์รับคำขออนุญาต" ยื่นขอทำธุรกิจผ่านระบบออนไลน์
วันที่ 3 ต.ค. 2561 - ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) มีพิธีเปิดให้บริการของ "ศูนย์รับคำขออนุญาต" ภายใต้คอนเซ็ป "ยื่นที่เดียวครบ จบทุกเรื่อง" โดยมีตัวแทนจาก ก.พ.ร. , สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.) , สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ , บริษัท เนชั่นแนล ดิจิทัลไอดี จำกัด , ผู้ประกอบการ และประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม
นางอารีย์พันธ์ เจริญสุข รองเลขาธิการ ก.พ.ร. กล่าวว่า ศูนย์รับคำขออนุญาต ตั้งอยู่ชั้น 1 ตึกสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (ตึกสำนักงาน ก.พ. เดิม) ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล ตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 ซึ่ง ก.พ.ร. ได้ออกแบบการให้บริการของศูนย์รับคำขออนุญาต ทำหน้าที่รับเรื่อง ส่งต่อไปยังหน่วยงานอนุญาตโดยเร็ว รวมทั้งกำกับและติดตามสถานะคำขอ ยื่นคำขอทาง ผ่านระบบ Biz Portal ที่เว็บไซต์ศูนย์กลางบริการภาครัฐเพื่อธุรกิจ "biz.govchannel.go.th"
"ก.พ.ร. ร่วมกับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) พัฒนาระบบนี้ขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้มาขอรับบริการเดินทางไปติดต่อยังสถานที่ราชการน้อยที่สุด ยื่นเอกสารที่เดียว แบบฟอร์มเดียว เอกสารชุดเดียว และติดตามได้ทุกใบอนุญาต ในปัจจุบันเปิดให้บริการสำหรับ 4 เรื่อง การเริ่มต้นธุรกิจ ขอใช้สาธารณูปโภค เปิดร้านอาหาร และเปิดร้านค้าปลีก แต่รวมทั้งหมด 24 งานอนุญาต โดยดำเนินการผ่านระบบ Biz Portal ได้เบ็ดเสร็จ จำนวน 12 งานบริการ และยื่นคำขอผ่านระบบ e-Service ของหน่วยงานอีก 12 งานบริการ ทั้งนี้ ผู้มาขอรับบริการสามารถติดต่อสอบถามและติดตามสถานะการขออนุญาต ได้ทาง Chat Board ของระบบ Biz Portal และทาง Line @goodgov4u ที่มีเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ให้บริการ"
รองเลขาธิการ ก.พ.ร. กล่าวอีกว่า ในเดือน ม.ค. 2562 ศูนย์รับคำขออนุญาตจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ พร้อมขยายงานให้บริการใน 10 ธุรกิจ 39 ใบอนุญาต เช่น ร้านกาแฟ รีสอร์ตขนาดเล็ก สปา ฟิตเนส และคาร์แคร์ ฯ ทั้งหมดนี้เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการ และตอบสนองความต้องการจากประชาชนได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) และบริษัท เนชั่นแนล ดิจิทัลไอดี จำกัด (NDID) ในการทดลองระบบยืนยันตัวตนแบบใหม่ในการใช้บริการ เพื่อให้การบริการภาครัฐออนไลน์เป็นมาตรฐานสากล มีความปลอดภัย เป็นที่น่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
ด้าน นางไอรดา เหลืองวิไล รองผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล กล่าวว่า เราต้องเข้าใจตรงกันก่อนว่านี่เป็นการเปลี่ยนวิธีการทำงานของภาครัฐ ตั้งแต่ตัวหน่วยงาน เปลี่ยนกระบวนการการทำงานรองรับการบริการดิจิทัล ซึ่งการปรับปรุงหมายถึงการปรับปรุงข้อมูล ความรู้ ต้องมีความพร้อมในรูปแบบดิจิทัลในการเชื่อมโยงไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ดังนั้น ต้องเตรียมการในภาครัฐให้มีความพร้อมในมิติต่าง ๆ เพื่อให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นางอารีย์พันธ์ เจริญสุข รองเลขาธิการ ก.พ.ร. กล่าวว่า ศูนย์รับคำขออนุญาต ตั้งอยู่ชั้น 1 ตึกสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (ตึกสำนักงาน ก.พ. เดิม) ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล ตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 ซึ่ง ก.พ.ร. ได้ออกแบบการให้บริการของศูนย์รับคำขออนุญาต ทำหน้าที่รับเรื่อง ส่งต่อไปยังหน่วยงานอนุญาตโดยเร็ว รวมทั้งกำกับและติดตามสถานะคำขอ ยื่นคำขอทาง ผ่านระบบ Biz Portal ที่เว็บไซต์ศูนย์กลางบริการภาครัฐเพื่อธุรกิจ "biz.govchannel.go.th"
"ก.พ.ร. ร่วมกับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) พัฒนาระบบนี้ขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้มาขอรับบริการเดินทางไปติดต่อยังสถานที่ราชการน้อยที่สุด ยื่นเอกสารที่เดียว แบบฟอร์มเดียว เอกสารชุดเดียว และติดตามได้ทุกใบอนุญาต ในปัจจุบันเปิดให้บริการสำหรับ 4 เรื่อง การเริ่มต้นธุรกิจ ขอใช้สาธารณูปโภค เปิดร้านอาหาร และเปิดร้านค้าปลีก แต่รวมทั้งหมด 24 งานอนุญาต โดยดำเนินการผ่านระบบ Biz Portal ได้เบ็ดเสร็จ จำนวน 12 งานบริการ และยื่นคำขอผ่านระบบ e-Service ของหน่วยงานอีก 12 งานบริการ ทั้งนี้ ผู้มาขอรับบริการสามารถติดต่อสอบถามและติดตามสถานะการขออนุญาต ได้ทาง Chat Board ของระบบ Biz Portal และทาง Line @goodgov4u ที่มีเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ให้บริการ"
รองเลขาธิการ ก.พ.ร. กล่าวอีกว่า ในเดือน ม.ค. 2562 ศูนย์รับคำขออนุญาตจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ พร้อมขยายงานให้บริการใน 10 ธุรกิจ 39 ใบอนุญาต เช่น ร้านกาแฟ รีสอร์ตขนาดเล็ก สปา ฟิตเนส และคาร์แคร์ ฯ ทั้งหมดนี้เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการ และตอบสนองความต้องการจากประชาชนได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) และบริษัท เนชั่นแนล ดิจิทัลไอดี จำกัด (NDID) ในการทดลองระบบยืนยันตัวตนแบบใหม่ในการใช้บริการ เพื่อให้การบริการภาครัฐออนไลน์เป็นมาตรฐานสากล มีความปลอดภัย เป็นที่น่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
ด้าน นางไอรดา เหลืองวิไล รองผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล กล่าวว่า เราต้องเข้าใจตรงกันก่อนว่านี่เป็นการเปลี่ยนวิธีการทำงานของภาครัฐ ตั้งแต่ตัวหน่วยงาน เปลี่ยนกระบวนการการทำงานรองรับการบริการดิจิทัล ซึ่งการปรับปรุงหมายถึงการปรับปรุงข้อมูล ความรู้ ต้องมีความพร้อมในรูปแบบดิจิทัลในการเชื่อมโยงไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ดังนั้น ต้องเตรียมการในภาครัฐให้มีความพร้อมในมิติต่าง ๆ เพื่อให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
