ต่อจากนั้น ดร.สุทธิพล ได้เข้าพบกับผู้บริหารของบริษัท Munich Re ณ สำนักงานใหญ่ของบริษัท เมืองมิวนิค สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เพื่อประชุมหารือเกี่ยวกับแนวทางการประกอบธุรกิจประกันภัยต่อในประเทศไทย และรับฟังมุมมองของบริษัทต่อธุรกิจประกันภัยในประเทศไทย ผู้บริหารของบริษัท Munich Re ได้แสดงความสนใจที่จะเพิ่มบทบาทของบริษัทและขยายการประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยจะขอศึกษาข้อมูลต่างๆเพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินการต่อไป
นอกจากนี้ บริษัท Munich Re ยังได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การรับประกันภัยต่อผลิตภัณฑ์พืชผล ที่ประสบความสำเร็จในประเทศต่างๆ เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา อินเดีย โดยยกตัวอย่างของ Multi Peril Crop Insurance ที่คุ้มครองภัยที่เกิดขึ้นกับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร โดยอาศัยข้อมูลจากยอดรวมของผลผลิตในปีก่อนๆ ว่ามีปริมาณประมาณการเท่าใด และหากในปีปัจจุบันผลผลิตมีการลดต่ำลงมาแล้ว กรมธรรม์ประกันภัยก็จะเข้าไปให้ความคุ้มครอง รวมถึงการใช้ข้อมูลด้าน weather index และ area yield สำหรับการประกันภัยในรูปแบบของ parametric insurance ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุงเกณฑ์การกำหนดค่าสินไหมทดแทน กรณีการประกันภัยข้าวนาปีของประเทศไทย และบริษัท Munich Re ได้นำเสนอเกี่ยวกับ Innovation Framework ของบริษัท ที่เปิดโอกาสให้กลุ่มธุรกิจ Start up ที่มีแนวคิดที่จะพัฒนาด้าน InsurTech ได้เข้ามาเสนอโครงการ
หากบริษัทใด มีแนวคิดที่น่าสนใจจะเชิญให้เข้ามาทดลองแนวคิดดังกล่าวใน Digital Lab ของบริษัท ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญทำหน้าที่ coaching และให้ความรู้ทางด้านการประกันภัยแก่กลุ่ม Start up เพื่อเป็นพื้นฐานในการพัฒนาโครงการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันภัยต่อไป รวมถึงการจับคู่ธุรกิจระหว่าง Start up และบริษัทประกันภัย ซึ่ง Munich Re มีข้อได้เปรียบของการเป็นบริษัทประกันภัยต่อในการพัฒนาด้าน digital lab เนื่องจากบริษัทประกันภัยต่อมีการประสานงานกับหลายบริษัทประกันภัย ทำให้เห็นภาพได้ว่าบริษัทประกันภัยใดมีลักษณะผลิตภัณฑ์หรือบริการในรูปแบบไหน อันจะสามารถทำให้จับคู่กับโครงการของกลุ่มธุรกิจ Start up ที่เกี่ยวข้องได้โดยง่าย
“จากการศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในครั้งนี้ ได้เห็นภาพของธุรกิจประกันค่อนข้างครบ ตั้งแต่การเข้าศึกษาดูงานสมาคมผู้กำกับดูแลธุรกิจประกันภัยนานาชาติ (International Association of Insurance Supervisors: IAIS) ซึ่งเป็นผู้กำหนดมาตรฐานธุรกิจประกันภัยระดับโลก ทำให้เห็นทิศทางในการกำกับดูแล และ ข้อห่วงใยที่มีในธุรกิจประกันภัยทั่วโลก และเมื่อศึกษาดูงาน ณ สำนักงานใหญ่บริษัท Allianz ทำให้เห็นแนวปฏิบัติที่ดีภาพของการดำเนินธุรกิจประกันภัย ที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อรองรับยุคดิจิทัล รวมถึงการได้เข้าศึกษาดูงานบริษัทประกันภัยต่อระดับโลกอีกสองแห่ง ได้แก่ Swiss Re และ Munich Re ทำให้เห็นแนวทางการจัดการด้านความเสี่ยง ในรูปแบบของ parametric insurance ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุงเกณฑ์การกำหนดค่าสินไหมทดแทนกรณีการประกันภัยข้าวนาปีของประเทศไทย หรือมาประยุกต์ใช้ในเรื่องของมหันตภัยในประเทศได้ นอกจากนี้ แนวคิดเกี่ยวกับ Innovation Framework ของบริษัท Munich Re ที่เปิดโอกาสให้กลุ่มธุรกิจ Start up เข้ามารับฟังความรู้เกี่ยวกับการประกันภัย เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดและสามารถสร้างแอพพลิเคชั่น และ/หรือ แพลทฟอร์ม ที่เกี่ยวข้องกับประกันภัย โดยสำนักงาน คปภ.จะได้นำแนวคิดนี้มาประยุกต์ใช้ผ่านทางศูนย์ CIT เช่นกัน”ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ กล่าวในตอนท้าย