'อาลีบาบา' จี้ไทยเกาะขบวน! ค้าปลีกออนไลน์จีน - ชิงตลาด 6 ล้านล้านดอลล์

24 ก.ย. 2561 | 04:31 น.
"ทีมอลล์" เครืออาลีบาบา ชี้ช่องผู้ประกอบการไทยรุกตลาดค้าออนไลน์ในจีน ชี้! ศักยภาพสูงกลุ่มคนรุ่นใหม่-คนชั้นกลางแห่ช็อป คาดปี 2563 มูลค่าตลาดค้าปลีกแดนมังกรโต 6 ล้านล้านดอลล์ ระบุ 4 กลุ่มสินค้าไทย ศักยภาพสูง

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2561 Tmall แพลตฟอร์มค้าออนไลน์ (อี-คอมเมิร์ซ) ธุรกิจสู่ผู้บริโภค (B2C) ที่ใหญ่ที่สุดของจีน และหน่วยธุรกิจของอาลีบาบา ได้เปิดตัวแคมเปญ "ทีมอลล์ดิสคัฟเวอรี่" เพื่อส่งเสริมการขายสินค้าเครื่องดื่มรังนกบรรจุขวดของผู้ประกอบการไทย ใน 3 แบรนด์ชั้นนำ บนแพลตฟอร์มของ Tmall สู่ผู้บริโภคชาวจีน ที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น เฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่กำลังมาแรง ประกอบด้วย แบรนด์ BRAND’S, Ninest และ Twin Lotus


TP8-3403-A

ทั้งนี้ นายนิวัติ สุธีมีชัยกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยว่า จีนมีการบริโภคเครื่องดื่มรังนกมากกว่า 140 ล้านขวดต่อปี คิดเป็นมูลค่า 9.5 หมื่นล้านบาท ปัจจุบัน ไทยส่งรังนกดิบไปจีนได้ 110 ล้านบาทต่อปี ยังเป็นรองมาเลเซียและอินโดนีเซีย หากไทยแก้ไขกฎหมายให้สามารถนำรังนกบ้าน (รังนกนางแอ่นที่อาศัยอยู่ตามบ้าน) มาขายได้ หรือเป็นวัตถุดิบในการผลิตเครื่องดื่มรังนกบรรจุขวดได้ จะช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์รังนกไทยไปจีนได้อีกเป็นหลักหมื่นล้านบาทในอนาคต

นายวิลเลี่ยน เจ้า กรรมการอาวุโส ด้านพัฒนาธุรกิจเอเชีย ทีมอลล์ โกลบัล เผยว่า ในปี 2560 ตลาดค้าปลีกในจีนถือเป็นตลาดค้าปลีกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีมูลค่าตลาด 5.69 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยในจำนวนนี้ ธุรกิจค้าปลีกออนไลน์มีส่วนแบ่งตลาดปริมาณ 18% และในปี 2563 คาดค้าปลีกออนไลน์จะมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 33% จากมูลค่าตลาดค้าปลีกในจีน จะเพิ่มขึ้นเป็น 6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือมีมูลค่าราว 1.98 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ผลจากคนชั้นกลางและมีกำลังการบริโภคสูง คาดจะเกิน 300 ล้านคน ขณะชาวจีน ณ ปัจจุบันสัดส่วน 40% หรือกว่า 731 ล้านคน เคยซื้อสินค้าต่างประเทศผ่านออนไลน์

"ปัจจุบัน มีสินค้าไทยหลายพันรายการและเป็นพันแบรนด์ที่ขายผ่านทีมอลล์ แบ่งเป็น 4 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่ 1.เครื่องสำอางและความงาม เช่น มิสทิน มียอดขายในปีที่ผ่านมากว่า 20 ล้านหยวน , 2.อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ , 3.หมอนยางพารา และ 4.ของสด เช่น ผลไม้ ซึ่งนอกจากสินค้ารังนกที่เปิดตัวล่าสุดแล้ว มีสินค้าไทยอีกหลายรายการที่มีศักยภาพขายผ่านออนไลน์ในตลาดจีน เช่น พวกเครื่องหอม บอดี้แคร์ เครื่องนวดและสปา หากได้รับความนิยมและชื่นชอบจากชาวจีนแล้ว โอกาสขายสินค้าผ่านออนไลน์ก็มีอีกมาก"

ด้าน นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการส่งเสริมสินค้าข้าวและผลไม้ไทยผ่านช่องทางการค้าออนไลน์ในจีน โดยร่วมมือกับเว็บไซต์ Tmall.com ในเครืออาลีบาบากรุ๊ป ว่า ในส่วนของสินค้าข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าว หลังจากได้เปิดตัว Thai Rice Flagship Store บนเว็บไซต์ Tmall.com เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2561 ปัจจุบันมีสินค้า 161 รายการ จาก 12 แบรนด์ มียอดขายรวมกว่า 100 ล้านบาท (ข้อมูล ณ 24 สิงหาคม 2561)

ในสินค้าผลไม้ ได้เปิดเป็นแคมเปญตามฤดูกาลและใช้ช่องทางซูเปอร์มาร์เก็ตของ Tmall กว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศจีน ในการโปรโมต โดยเมื่อวันที่ 17-19 เมษายน 2561 ได้เปิดโครงการนำร่องจำหน่ายทุเรียนหมอนทองล่วงหน้า (Pre-Order) มีคำสั่งซื้อกว่า 70,000 คำสั่งซื้อ ปริมาณทั้งสิ้น 1.3 แสนลูก หรือ 350 ตัน (ราคาขายเฉลี่ยกิโลกรัมละ 200 บาท) เป็นเงิน 70 ล้านบาท โดยซื้อตรงจากผู้ประกอบการไทยและชาวสวนผู้ผลิตกว่า 100 สวน และได้ส่งมอบทุเรียนทั้งหมดถึงมือผู้บริโภคแล้วตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม 2561

"เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2561 ในงานไทยเฟ็กซ์ ได้จัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่าง Tmall และเกษตรกรไทย/ผู้ประกอบการ เพื่อหาคู่ค้าที่มีศักยภาพและคัดเลือกสินค้าไทยไปจำหน่ายเพิ่มเติม และมีแผนจัดกิจกรรมพิเศษส่งเสริมการขายสินค้าข้าวของไทย ในงาน Tmall Super Selection Day World’s Best Rice ในวันที่ 9 ตุลาคม 2561 ณ เมืองหังโจว"


หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,403 วันที่ 23-26 กันยายน 2561

23626556-10 (1)