"ทีมอลล์" เครืออาลีบาบา ชี้ช่องผู้ประกอบการไทยรุกตลาดค้าออนไลน์ในจีน ชี้! ศักยภาพสูงกลุ่มคนรุ่นใหม่-คนชั้นกลางแห่ช็อป คาดปี 2563 มูลค่าตลาดค้าปลีกแดนมังกรโต 6 ล้านล้านดอลล์ ระบุ 4 กลุ่มสินค้าไทย ศักยภาพสูง
เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2561 Tmall แพลตฟอร์มค้าออนไลน์ (อี-คอมเมิร์ซ) ธุรกิจสู่ผู้บริโภค (B2C) ที่ใหญ่ที่สุดของจีน และหน่วยธุรกิจของอาลีบาบา ได้เปิดตัวแคมเปญ
"ทีมอลล์ดิสคัฟเวอรี่" เพื่อส่งเสริมการขายสินค้าเครื่องดื่มรังนกบรรจุขวดของผู้ประกอบการไทย ใน 3 แบรนด์ชั้นนำ บนแพลตฟอร์มของ Tmall สู่ผู้บริโภคชาวจีน ที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น เฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่กำลังมาแรง ประกอบด้วย แบรนด์ BRAND’S, Ninest และ Twin Lotus
ทั้งนี้ นายนิวัติ สุธีมีชัยกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยว่า จีนมีการบริโภคเครื่องดื่มรังนกมากกว่า 140 ล้านขวดต่อปี คิดเป็นมูลค่า 9.5 หมื่นล้านบาท ปัจจุบัน ไทยส่งรังนกดิบไปจีนได้ 110 ล้านบาทต่อปี ยังเป็นรองมาเลเซียและอินโดนีเซีย หากไทยแก้ไขกฎหมายให้สามารถนำรังนกบ้าน (รังนกนางแอ่นที่อาศัยอยู่ตามบ้าน) มาขายได้ หรือเป็นวัตถุดิบในการผลิตเครื่องดื่มรังนกบรรจุขวดได้ จะช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์รังนกไทยไปจีนได้อีกเป็นหลักหมื่นล้านบาทในอนาคต
นายวิลเลี่ยน เจ้า กรรมการอาวุโส ด้านพัฒนาธุรกิจเอเชีย ทีมอลล์ โกลบัล เผยว่า ในปี 2560 ตลาดค้าปลีกในจีนถือเป็นตลาดค้าปลีกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีมูลค่าตลาด 5.69 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยในจำนวนนี้ ธุรกิจค้าปลีกออนไลน์มีส่วนแบ่งตลาดปริมาณ 18% และในปี 2563 คาดค้าปลีกออนไลน์จะมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 33% จากมูลค่าตลาดค้าปลีกในจีน จะเพิ่มขึ้นเป็น 6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือมีมูลค่าราว 1.98 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ผลจากคนชั้นกลางและมีกำลังการบริโภคสูง คาดจะเกิน 300 ล้านคน ขณะชาวจีน ณ ปัจจุบันสัดส่วน 40% หรือกว่า 731 ล้านคน เคยซื้อสินค้าต่างประเทศผ่านออนไลน์
"ปัจจุบัน มีสินค้าไทยหลายพันรายการและเป็นพันแบรนด์ที่ขายผ่านทีมอลล์ แบ่งเป็น 4 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่ 1.เครื่องสำอางและความงาม เช่น มิสทิน มียอดขายในปีที่ผ่านมากว่า 20 ล้านหยวน , 2.อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ , 3.หมอนยางพารา และ 4.ของสด เช่น ผลไม้ ซึ่งนอกจากสินค้ารังนกที่เปิดตัวล่าสุดแล้ว มีสินค้าไทยอีกหลายรายการที่มีศักยภาพขายผ่านออนไลน์ในตลาดจีน เช่น พวกเครื่องหอม บอดี้แคร์ เครื่องนวดและสปา หากได้รับความนิยมและชื่นชอบจากชาวจีนแล้ว โอกาสขายสินค้าผ่านออนไลน์ก็มีอีกมาก"
ด้าน
นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการส่งเสริมสินค้าข้าวและผลไม้ไทยผ่านช่องทางการค้าออนไลน์ในจีน โดยร่วมมือกับเว็บไซต์ Tmall.com ในเครืออาลีบาบากรุ๊ป ว่า ในส่วนของสินค้าข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าว หลังจากได้เปิดตัว Thai Rice Flagship Store บนเว็บไซต์ Tmall.com เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2561 ปัจจุบันมีสินค้า 161 รายการ จาก 12 แบรนด์ มียอดขายรวมกว่า 100 ล้านบาท (ข้อมูล ณ 24 สิงหาคม 2561)
ในสินค้าผลไม้ ได้เปิดเป็นแคมเปญตามฤดูกาลและใช้ช่องทางซูเปอร์มาร์เก็ตของ Tmall กว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศจีน ในการโปรโมต โดยเมื่อวันที่ 17-19 เมษายน 2561 ได้เปิดโครงการนำร่องจำหน่ายทุเรียนหมอนทองล่วงหน้า (Pre-Order) มีคำสั่งซื้อกว่า 70,000 คำสั่งซื้อ ปริมาณทั้งสิ้น 1.3 แสนลูก หรือ 350 ตัน (ราคาขายเฉลี่ยกิโลกรัมละ 200 บาท) เป็นเงิน 70 ล้านบาท โดยซื้อตรงจากผู้ประกอบการไทยและชาวสวนผู้ผลิตกว่า 100 สวน และได้ส่งมอบทุเรียนทั้งหมดถึงมือผู้บริโภคแล้วตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม 2561
"เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2561 ในงานไทยเฟ็กซ์ ได้จัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่าง Tmall และเกษตรกรไทย/ผู้ประกอบการ เพื่อหาคู่ค้าที่มีศักยภาพและคัดเลือกสินค้าไทยไปจำหน่ายเพิ่มเติม และมีแผนจัดกิจกรรมพิเศษส่งเสริมการขายสินค้าข้าวของไทย ในงาน Tmall Super Selection Day World’s Best Rice ในวันที่ 9 ตุลาคม 2561 ณ เมืองหังโจว"
หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,403 วันที่ 23-26 กันยายน 2561