กกร. ชี้! ศก. ครึ่งปีแรกแข็งแกร่ง ลุ้น "วิกฤตตุรกี/เวเนซุเอลา" เป็นปัจจัยเสี่ยง
กกร. ชี้ภาวะเศรษฐกิจ 6 เดือนแรก ยังแข็งแกร่ง ได้อานิสงส์จากการส่งออก การท่องเที่ยว การบริโภค และภาคเกษตรขยายตัวสูงขึ้น ขณะที่ ครึ่งปีหลังอาจเจอความเปราะบางของเศรษฐกิจจากวิกฤตตุรกีและเวเนซุเอลา
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยหลังการประชุม กกร. ประจำเดือน ก.ย. 2561 ว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 2 ปีนี้ ขยายตัวสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักมาจากการส่งออก การท่องเที่ยว การบริโภคภาคเอกชน และการผลิตภาคเกษตร ที่ขยายตัวสูง ประกอบกับในช่วงไตรมาสแรกบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีแรกยังสามารถรักษาแรงส่งการเติบโตที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง โดยเติบโตประมาณ 4.8% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่า ในไตรมาสต่อไปอาจมีการชะลอตัวจากการส่งออกและการท่องเที่ยว
โดยข้อมูลล่าสุด ในเดือน ก.ค. สะท้อนว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แม้บางเรื่องในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเริ่มชะลอลง อย่าง จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ภูเก็ต เฉพาะกรุ๊ปทัวร์ แต่สำหรับผู้เดินทางท่องเที่ยวเองยังคงเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งดัชนีราคาสินค้าเกษตรที่ยังคงหดตัวมากขึ้น
ทั้งนี้ กกร. มองว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง เศรษฐกิจไทยอาจเติบโตผ่อนแรงลง จากการขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงของการส่งออก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเปรียบเทียบกับฐานที่สูงในปีก่อน รวมทั้งต้องติดตามการเดินหน้านโยบายด้านการค้าของสหรัฐอเมริกา ซึ่งอาจจะกระทบต่อสินค้าส่งออกของไทยไปยังสหรัฐฯ ได้ นอกจากนี้ ยังต้องติดตามผลกระทบจากสถานการณ์น้ำต่อผลผลิตภาคเกษตรด้วย ส่วนการท่องเที่ยว ยังคาดว่าจะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น
สำหรับประเด็นความเปราะบางของเศรษฐกิจเกิดใหม่ ทั้งตุรกีและเวเนซุเอลานั้น แม้เป็นปัญหาที่เฉพาะตัวของแต่ละเศรษฐกิจ แต่ก็อาจจะสร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดความผันผวนต่อทิศทางค่าเงินบาทได้
โดยรวมแล้ว แม้จะยังคงมีหลายปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามทั้งในและต่างประเทศ แต่ กกร. ประเมินว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจยังเป็นไปตามกรอบที่วางไว้ ไม่ว่าจะเป็น การขยายตัวของจีดีพีที่ 4.3-4.8% การส่งออกขยายตัว 7.0-10.0% และอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 0.9-1.5%
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● “ม.หอการค้า-กกร.”ชี้ส่งออกเเละศก.ไทยครึ่งปีหลังขยายตัว
● กกร.ขานรับอีอีซี ช่วยดันจีดีพี 3 จังหวัดโตกว่า10%
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยหลังการประชุม กกร. ประจำเดือน ก.ย. 2561 ว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 2 ปีนี้ ขยายตัวสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักมาจากการส่งออก การท่องเที่ยว การบริโภคภาคเอกชน และการผลิตภาคเกษตร ที่ขยายตัวสูง ประกอบกับในช่วงไตรมาสแรกบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีแรกยังสามารถรักษาแรงส่งการเติบโตที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง โดยเติบโตประมาณ 4.8% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่า ในไตรมาสต่อไปอาจมีการชะลอตัวจากการส่งออกและการท่องเที่ยว
โดยข้อมูลล่าสุด ในเดือน ก.ค. สะท้อนว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แม้บางเรื่องในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเริ่มชะลอลง อย่าง จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ภูเก็ต เฉพาะกรุ๊ปทัวร์ แต่สำหรับผู้เดินทางท่องเที่ยวเองยังคงเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งดัชนีราคาสินค้าเกษตรที่ยังคงหดตัวมากขึ้น
ทั้งนี้ กกร. มองว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง เศรษฐกิจไทยอาจเติบโตผ่อนแรงลง จากการขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงของการส่งออก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเปรียบเทียบกับฐานที่สูงในปีก่อน รวมทั้งต้องติดตามการเดินหน้านโยบายด้านการค้าของสหรัฐอเมริกา ซึ่งอาจจะกระทบต่อสินค้าส่งออกของไทยไปยังสหรัฐฯ ได้ นอกจากนี้ ยังต้องติดตามผลกระทบจากสถานการณ์น้ำต่อผลผลิตภาคเกษตรด้วย ส่วนการท่องเที่ยว ยังคาดว่าจะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น
สำหรับประเด็นความเปราะบางของเศรษฐกิจเกิดใหม่ ทั้งตุรกีและเวเนซุเอลานั้น แม้เป็นปัญหาที่เฉพาะตัวของแต่ละเศรษฐกิจ แต่ก็อาจจะสร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดความผันผวนต่อทิศทางค่าเงินบาทได้
โดยรวมแล้ว แม้จะยังคงมีหลายปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามทั้งในและต่างประเทศ แต่ กกร. ประเมินว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจยังเป็นไปตามกรอบที่วางไว้ ไม่ว่าจะเป็น การขยายตัวของจีดีพีที่ 4.3-4.8% การส่งออกขยายตัว 7.0-10.0% และอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 0.9-1.5%
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● “ม.หอการค้า-กกร.”ชี้ส่งออกเเละศก.ไทยครึ่งปีหลังขยายตัว
● กกร.ขานรับอีอีซี ช่วยดันจีดีพี 3 จังหวัดโตกว่า10%
