'วิวัฒน์' ยื้อ "2 มหาลัยดัง" ฮุบพื้นที่ ส.ป.ก. กว่า 600 ไร่ สั่งทำแผน

20 ก.ค. 2561 | 12:21 น.
"วิวัฒน์" สั่งทำแผน 2 มหาวิทยาลัย "เกษตร-เทคโนโลยีสุรนารี" กว่า 600 ไร่ ขีดเส้น 1 เดือน ส่งการบ้าน มอบนโยบาย ส.ป.ก. ปรับกฎหมาย นโยบายการบริหารใหม่ เพื่อให้เหมาะสมกับงาน รับมือเกษตรกรเข้าสู่สูงอายุ

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2561 ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน การประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) ครั้งที่ 2 เปิดเผยภายหลังการประชุม เรื่อง : การขออนุญาตใช้ที่ดินเพื่อกิจการสาธารณูปโภคและกิจการอื่น ๆ ในเขตปฏิรูปที่ดิน จำนวน 2 เรื่อง คือ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขออนุญาตใช้ที่ดินเพื่อสร้างสถานีวิจัยลพบุรี สังกัดศูนย์วิจัยและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร คณะเกษตร ในเขตปฏิรูปที่ดิน จ.ลพบุรี ต.ยางราก อ.โคกเจริญ จ.ลพบุรี เนื้อที่ 357-1-96 ไร่ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ขออนุญาตใช้ที่ดินเพื่อสร้างสถานีวิจัยและพัฒนาเกษตรกร และศูนย์พัฒนาอาชีพและการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ในเขตปฏิรูปที่ดิน จ.นครราชสีมา ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เนื้อที่ 349-1-19 ไร่ นั้น

"ขอให้มหาวิทยาลัยฯ ทำแผนมาดูว่า การจะใช้ที่ดินของ ส.ป.ก. ตั้งสถาบันวิจัย โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินจะได้ประโยชน์อย่างไร อยากให้นำไปเป็นปัญหาในการวิจัย โดยในที่ ส.ป.ก. นั้น ต้องเน้นพืชผสมผสาน ไม่ใช่พืชเชิงเดี่ยว ขอให้ศึกษารายละเอียด เพื่อทำแผนกลับมานำเสนอภายใน 1 เดือน ประเทศชาติต้องได้ประโยชน์ เกษตรกรต้องได้ประโยชน์ และมหาลัยต้องได้ประโยชน์ เช่นกัน"

 

[caption id="attachment_299619" align="aligncenter" width="503"] ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์[/caption]

รมช.กษ. กล่าวเพิ่มเติมว่า มีเรื่องที่น่าสนใจอยู่ 3 เรื่อง ได้แก่ (1) ระบบบริหารการปฏิรูปที่ดิน ขณะนี้ ส.ป.ก. มีพื้นที่กว่า 40 ล้านไร่ มีเกษตรกร 2.8 ล้านครัวเรือน ซึ่งที่ดินที่มีอยู่นั้น ได้เสื่อมสภาพลงไปตามกาลเวลาและสภาพการใช้ประโยชน์ที่ดิน ส.ป.ก. จะต้องปฏิรูปการใช้ประโยชน์ในที่ดิน และปฏิรูปเกษตรกรอย่างจริงจัง เนื่องจากที่ดินมีเท่าเดิม แต่เกษตรกรมีอายุมากขึ้น คนรุ่นใหม่ไม่อยากทำการเกษตร ตลาดสินค้าเปลี่ยน การศึกษาจะเปลี่ยน

ส.ป.ก. จะต้องคิดและวางแผนว่าจะปรับเปลี่ยนอย่างไรบ้าง เพื่อให้ทันต่อสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป และ (2) การปรับกฎหมายที่บังคับใช้กับ ส.ป.ก. ต้องปรับเปลี่ยนตามสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน และสุดท้าย (3) กองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ที่มีวงเงินอยู่ประมาณ 3,500 ล้านบาท จะปรับการบริหาร ปรับโครงสร้าง ปรับคนอย่างไร เพื่อให้กองทุนฯ มีศักยภาพในการปฏิรูปงานปฏิรูปที่ดินได้ เป็นเรื่องที่ ส.ป.ก. จะต้องปรับเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ทั้งนี้ ส.ป.ก. ได้รายงานความก้าวหน้าโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล และความก้าวหน้า การดำเนินงานพื้นที่ยึดคืนตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 36/2559 รายงานความก้าวหน้าการรับคำขอความยินยอม หรือ ขออนุญาตใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน ตามกฎกระทรวง และรายงานผลความก้าวหน้ากรอบแผนงานและงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ 2562 เป็นต้น


……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
สำเร็จ ส.ป.ก. ยึดคืนพื้นที่ “สหไทยน้ำมันพืช” กว่า 6 พันไร่ เตรียมแจกเกษตรกร
นายเหมืองเปิดเกมรุกยื่นข้อเสนอรมว.เกษตรฯเปิดพื้นที่ส.ป.ก.ทำเหมือง


e-book-1-503x62