3 แรงส่งเศรษฐกิจโตไม่ห่วงปัจจัยภายนอก

28 ก.ค. 2561 | 04:30 น.
3 แรงส่งเศรษฐกิจโตไม่ห่วงปัจจัยภายนอก

สัมภาษณ์
ภาพรวมเศรษฐกิจเดินมาถึงครึ่งทาง หลายสำนักเริ่มออกมาปรับตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจและการส่งออกใหม่ โดยเฉพาะคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้ปรับคาดการณ์ส่งออกใหม่ไปก่อนแล้วจากเดิมเติบโต 5-8% เป็น 7-10% ด้านกระทรวงพาณิชย์เตรียมที่จะปรับเป้าหมายส่งออกใหม่ทั้งปี 2561 จากเดิมที่ตั้งเป้าเติบโต 8% แนวโน้มการส่งออกไทยทั้งปี มีโอกาสเติบโตมากกว่า 8% (รอกระทรวงพาณิชย์ปรับเป้าใหม่ในเร็วๆ นี้) สอดคล้องกับ มุมมองจาก สมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้สัมภาษณ์ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจตลอดปี 2561 ที่ยังมั่นใจว่า มีหลายปัจจัยเป็นแรงส่งสำคัญ และไม่อ่อนไหวกับปัจจัยภายนอกที่เกิดขึ้นเป็นระยะ

7063
ยังมีแรงหนุนดี

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มองว่าสำหรับปีนี้เศรษฐกิจภาพใหญ่จะเติบโต 4-5% เป็นอย่างตํ่าโดย มองจากเหตุผลที่มาจากปัจจัยภายใน 3 ส่วน ล้วนเป็นแรงส่งสำคัญประกอบด้วย

1.ดัชนีการบริโภคของประชาชนสูงขึ้นโดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ ที่เติบโตราว 4% เศษ ไตรมาส 2 ก็ยังสูงถึง 5% 2.เห็นการลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลโดยเฉพาะการลงทุนใน 11 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย เฉพาะสถิติการขอรับการส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอในพื้นที่อีอีซีไตรมาสแรก มีจำนวนทั้งสิ้น 66 โครงการ มีมูลค่า 165,430 ล้านบาท ตัวเลขเพียงไตรมาสเดียวมีสัดส่วนสูงถึง 55.14% ของเป้าหมายส่งเสริมลงทุนในพื้นที่อีอีซีที่ตั้งเป้าไว้ที่ 300,000 ล้านบาท โดยอุตสาหกรรมที่ได้รับความสนใจ เช่น ทุนญี่ปุ่น สนใจเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ สมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์ นักลงทุนยุโรปสนใจอุตสาหกรรมเคมี อากาศยาน ทุนอเมริกา สนใจ ดิจิตอล อากาศยานและยานยนต์ ส่วนจีนสนใจเข้ามาลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรม เป็นต้น

3.การลงทุนภาครัฐด้านโครงสร้างพื้นฐานได้เริ่มต้นแล้ว ก็ทำให้เอกชนมั่นใจและเริ่มลงทุนได้ โดยเฉพาะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ในพื้นที่ อีอีซี ที่จะเป็นการส่งเสริมฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง นับตั้งแต่ที่เริ่มมีการประกาศเขตส่งเสริมต่างๆ ที่เน้นการยกระดับขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมในประเทศไทยให้สูงขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การส่งเสริมในเรื่องเมืองการบินภาคตะวันออกในพื้นที่ 6,500 ไร่ บริเวณสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา เพื่อยกระดับให้เป็นศูนย์กลางการบินรองรับผู้โดยสารใน 5 ปีข้างหน้า ที่จะมีมากถึง 15 ล้านคนต่อปี และเพิ่มเป็น 35 ล้านคน ในอีก 10 ปี และเป็น 60 ล้านคน ในอีก 15 ปีข้างหน้า หรือเรื่องเขตส่งเสริมนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจ ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณวังจันทร์วัลเล่ย์ จ.ระยอง พื้นที่ 3,000 ไร่ รวมถึงพื้นที่อุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ ที่ศรีราชา จ.ชลบุรี คลุมพื้นที่ 120 ไร่ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมชุมชนด้วยการพัฒนา วิจัยและนวัตกรรม หรือเรื่องการส่งเสริมนวัตกรรมดิจิทัล ที่ศรีราชา จ.ชลบุรี บนเนื้อที่ 709 ไร่ เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางข้อมูล(Data Hub) ของอาเซียน   รวมไปถึงการอนุมัติโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งที่สำคัญทั้งระบบราง ที่เชื่อมโยง 3 สนามบิน การพัฒนาท่าเรือนํ้าลึก 3 แห่ง(ท่าเรือมาบตาพุดระยะที่ 3, ท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 และท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ) เป็นต้น

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6

กำลังซื้อเกิดขึ้นจากไหน

นอกจากแรงส่งที่เกิดจาก 3 ปัจจัยดังกล่าวแล้ว ยังมองอีกว่าเวลานี้เกิดกำลังซื้อจาก 3 ส่วนหลักด้วยคือ จาก ดัชนีรายได้เกษตรกรโดยเฉพาะในช่วง 2-3 เดือนแรกปีนี้ แม้สินค้าบางตัวราคาลดลงแต่ก็อยู่ในเกณฑ์ดี และจากการนำเข้าสินค้าเพื่อการบริโภคที่มีมากขึ้น อีกทั้งยังเห็นบรรยากาศที่คนไทยไปท่องเที่ยวต่างประเทศขยับตัวสูงขึ้น
ไม่ห่วงปัจจัยภายนอก

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ยังตั้งข้อสังเกตถึงปัจจัยภายนอกอีกว่า ไม่น่าห่วงเหมือนที่หลายคนกังวลกัน เพราะเวลานี้ถ้าดูเป็นด้านๆไปจะพบว่า 1. ค่าบาทในขณะนี้เอื้อต่อการส่งออกยังอยู่ในระดับ 32-33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ว่าบางช่วงจะสวิงบ้างแต่เฉลี่ยทั้งปีน่าจะเป็นผลบวกต่อการส่งออก 2.เศรษฐกิจโลกหนุนส่งออกหลังจากที่สินค้าไทยเริ่มได้รับการปลดล็อกจากข้อผูกพันทางการค้า 3.คาดว่าราคานํ้ามันจะไม่สวิงลงไปอีกหรือไม่ขยับสูงไปกว่านี้ 4.สงครามการค้า สุดท้ายก็น่าจะตกลงกันได้ เพราะจะไม่เกิดผลดีต่อใคร

tp9-3385-b
เศรษฐกิจฐานรากยังไม่โต

ส่วนกรณีที่มองว่าเศรษฐกิจฐานรากไม่โต ตรงนี้ให้สังเกตว่าเมื่อก่อนการส่งออกจะเกิดจากบริษัทขนาดใหญ่เป็นผู้ส่งออกเป็นหลัก แต่ตอนนี้รูปแบบเปลี่ยนจากบนลงล่าง ตรงกลางหายไป ผู้ประกอบการจะมีการติดต่อซื้อขายเองโดยตรง ไม่ผ่านคนกลาง หรือออกมาในรูปแบบแฟรนไชส์ ฉะนั้นโครงสร้างการทำธุรกิจแบบเดิมที่ถูกเชื่อมโดยพ่อค้าคนกลางทำให้เศรษฐกิจสะพัด แต่วันนี้ด้วยธุรกิจสมัยใหม่ ถูกตัดขั้นตอนพ่อค้าคนกลางออกไป และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้ประโยชน์คือกลุ่มที่ปรับตัว รุกสู่ค้าขายผ่านระบบออนไลน์ และกำลังเป็นช่วงปรับตัวของผู้ประกอบการอีกหลายๆ รายเพื่อไปสู่การค้าออนไลน์มากขึ้น ซึ่งในแง่ของกระทรวงอุตสาหกรรมโดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมยังได้กำหนด 9 มาตรการพิเศษเร่งขับเคลื่อนเอสเอ็มอีไปสู่ยุค 4.0 (ดูกราฟิก) เป็นการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและกลุ่ม Startup ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มต่อไป

หน้า 9 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,385 วันที่ 22-25 กรกฎาคม 2561

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว