'สตาร์บัคส์' เตรียมคิดราคาถ้วยกระดาษ! หวังให้ลูกค้าเอาถ้วยกาแฟส่วนตัวมาใช้มากขึ้น
การรณรงค์งดใช้หลอด ถุง ไม้คนเครื่องดื่ม และถ้วยพลาสติก เพื่อลดปริมาณขยะพลาสติก กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง เมื่อประกอบเข้ากับการรณรงค์ขจัดขยะพลาสติกในท้องทะเลเพื่อรักษาระบบนิเวศ กิจกรรมดังกล่าวไม่เพียงสร้างการตระหนักในปัญหาและก่อให้เกิดความร่วมมือในหมู่ผู้บริโภค แต่ยังทำให้องค์กรธุรกิจบางรายขยับตัว ประกาศนโยบายที่สอดคล้องกับกระแสอนุรักษ์ที่เกิดขึ้น
เช่นกรณีของ บริษัท สตาร์บัคส์ ประเทศอังกฤษ ที่เมื่อ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา ได้ประกาศว่า นับตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค. ศกนี้เป็นต้นไป ร้านสตาร์บัคส์ทั้ง 950 สาขาในประเทศอังกฤษ จะเริ่มเรียกเก็บเงินค่า 'ถ้วยกระดาษ' ที่ทางร้านนำมาบรรจุเครื่องดื่มร้อนเสิร์ฟให้แก่ลูกค้า เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรณรงค์ลดขยะในร้านอาหารและกระตุ้นให้ลูกค้านำถ้วยกาแฟส่วนตัวแบบใช้ซ้ำได้หลายครั้งมาใช้ซื้อเครื่องดื่มภายในร้าน แต่หากลูกค้าไม่ได้นำถ้วยมาเองและต้องการซื้อถ้วยกระดาษ ก็สามารถซื้อได้จากทางร้าน ในราคาใบละ 5 เพนซ์ (ประมาณ 7 เซ็นต์)
ก่อนหน้านี้ บริษัทได้จับมือกับ 'ฮับบับ' (Hubbub) ซึ่งเป็นมูลนิธิด้านสิ่งแวดล้อม ทดลองใช้นโยบายดังกล่าวในร้านสตาร์บัคส์สาขากรุงลอนดอนมาเป็นเวลา 3 เดือน โดยลูกค้าจะต้องจ่ายเงินซื้อถ้วยกระดาษด้วย แต่ถ้านำถ้วยส่วนตัวแบบใช้ได้อีกหลายครั้งมาใส่เครื่องดื่ม ก็จะได้รับส่วนลด 25 เพนซ์ ผลลัพท์ปรากฏว่า นโยบายนี้ทำให้จำนวนลูกค้าที่นำถ้วยส่วนตัวมาซื้อเครื่องดื่มในร้านมีจำนวนเพิ่มขึ้น จากเดิมมีสัดส่วนเพียง 2.2% ของลูกค้าทั้งหมด ก็เพิ่มขึ้นเป็น 5.8% ในช่วง 3 เดือนที่มีการทดลอง
นายมาร์ติน บร็อค ประธานสตาร์บัคส์ ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า บริษัทได้รับเสียงสนับสนุนทั้งจากลูกค้าและพนักงาานให้มีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ในการลดปริมาณขยะ และช่วงทดลองที่ผ่านมา ก็ชี้ให้เห็นว่า การคิดค่าถ้วยกระดาษน่าจะสามารถทำได้ในทุกสาขาทั่วประเทศอังกฤษ ก่อนหน้านี้ไม่นาน สตาร์บัคส์ก็เพิ่งประกาศแผนยกเลิกการใช้หลอดพลาสติกในทุก ๆ สาขา ภายในปี 2563 ซึ่งก็นับเป็นการร่วมกระแสลด-เลิกการใช้พลาสติกที่มีองค์กรธุรกิจเอกชนอีกหลายรายร่วมด้วย
ยกตัวอย่างเช่น ในเดือน มิ.ย. ปีนี้ แมคโดนัลด์ได้ประกาศเช่นกันว่า จะยกเลิกการใช้หลอดพลาสติกในทุกสาขาที่ประเทศอังกฤษและไอร์แลนด์ (รวมกันราว 1,361 สาขา) โดยทางร้านจะทยอยนำหลอดกระดาษมาใช้แทน เริ่มจากเดือน ก.ย. ปีนี้ และจะใช้หมดทุกสาขาภายในปีหน้า (2562)
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● “โบว์ เบเกอรี่” ขยายตลาดสู่สตาร์บัคส์ ชูผลิตภัณฑ์หลากหลายโกยยอดขาย 240 ล้านบาท
● สตาร์บัคส์ ปิดร้าน! บ่าย 29 พ.ค. อบรมพนักงานเหยียดสีผิว
เช่นกรณีของ บริษัท สตาร์บัคส์ ประเทศอังกฤษ ที่เมื่อ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา ได้ประกาศว่า นับตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค. ศกนี้เป็นต้นไป ร้านสตาร์บัคส์ทั้ง 950 สาขาในประเทศอังกฤษ จะเริ่มเรียกเก็บเงินค่า 'ถ้วยกระดาษ' ที่ทางร้านนำมาบรรจุเครื่องดื่มร้อนเสิร์ฟให้แก่ลูกค้า เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรณรงค์ลดขยะในร้านอาหารและกระตุ้นให้ลูกค้านำถ้วยกาแฟส่วนตัวแบบใช้ซ้ำได้หลายครั้งมาใช้ซื้อเครื่องดื่มภายในร้าน แต่หากลูกค้าไม่ได้นำถ้วยมาเองและต้องการซื้อถ้วยกระดาษ ก็สามารถซื้อได้จากทางร้าน ในราคาใบละ 5 เพนซ์ (ประมาณ 7 เซ็นต์)
ก่อนหน้านี้ บริษัทได้จับมือกับ 'ฮับบับ' (Hubbub) ซึ่งเป็นมูลนิธิด้านสิ่งแวดล้อม ทดลองใช้นโยบายดังกล่าวในร้านสตาร์บัคส์สาขากรุงลอนดอนมาเป็นเวลา 3 เดือน โดยลูกค้าจะต้องจ่ายเงินซื้อถ้วยกระดาษด้วย แต่ถ้านำถ้วยส่วนตัวแบบใช้ได้อีกหลายครั้งมาใส่เครื่องดื่ม ก็จะได้รับส่วนลด 25 เพนซ์ ผลลัพท์ปรากฏว่า นโยบายนี้ทำให้จำนวนลูกค้าที่นำถ้วยส่วนตัวมาซื้อเครื่องดื่มในร้านมีจำนวนเพิ่มขึ้น จากเดิมมีสัดส่วนเพียง 2.2% ของลูกค้าทั้งหมด ก็เพิ่มขึ้นเป็น 5.8% ในช่วง 3 เดือนที่มีการทดลอง
นายมาร์ติน บร็อค ประธานสตาร์บัคส์ ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า บริษัทได้รับเสียงสนับสนุนทั้งจากลูกค้าและพนักงาานให้มีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ในการลดปริมาณขยะ และช่วงทดลองที่ผ่านมา ก็ชี้ให้เห็นว่า การคิดค่าถ้วยกระดาษน่าจะสามารถทำได้ในทุกสาขาทั่วประเทศอังกฤษ ก่อนหน้านี้ไม่นาน สตาร์บัคส์ก็เพิ่งประกาศแผนยกเลิกการใช้หลอดพลาสติกในทุก ๆ สาขา ภายในปี 2563 ซึ่งก็นับเป็นการร่วมกระแสลด-เลิกการใช้พลาสติกที่มีองค์กรธุรกิจเอกชนอีกหลายรายร่วมด้วย
ยกตัวอย่างเช่น ในเดือน มิ.ย. ปีนี้ แมคโดนัลด์ได้ประกาศเช่นกันว่า จะยกเลิกการใช้หลอดพลาสติกในทุกสาขาที่ประเทศอังกฤษและไอร์แลนด์ (รวมกันราว 1,361 สาขา) โดยทางร้านจะทยอยนำหลอดกระดาษมาใช้แทน เริ่มจากเดือน ก.ย. ปีนี้ และจะใช้หมดทุกสาขาภายในปีหน้า (2562)
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● “โบว์ เบเกอรี่” ขยายตลาดสู่สตาร์บัคส์ ชูผลิตภัณฑ์หลากหลายโกยยอดขาย 240 ล้านบาท
● สตาร์บัคส์ ปิดร้าน! บ่าย 29 พ.ค. อบรมพนักงานเหยียดสีผิว
