'บิ๊กตู่' ยันไม่ให้ท้าย 'พลังประชารัฐ' ย้ำ! ทุกพรรคเท่ากัน อยู่ที่ ปชช. ตัดสิน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีอดีตนักการเมืองออกมาโจมตีและข้อเรียกร้องให้ตรวจสอบ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่เคลื่อนไหวทางการเมืองกับกลุ่มสามมิตร ที่ประกาศสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ ว่า จะโจมตีตนเรื่องอะไร ในเมื่อพรรคพลังประชารัฐยังไม่ประกาศออกมาเลย เป็นเพียงการจองชื่อไว้เฉย ๆ ตนคิดว่าการพูดคุยในวันนี้ถือว่ามีอิสระเสรีมากพอสมควร
"ไม่ว่าใครก็ตาม พวกเขาก็มีการพูดคุยกันตลอด จะให้แต่นักการเมืองคุยกันข้างเดียวหรือ ดังนั้น ทุกคนมีสิทธิ ประชาชนอยากพูดก็พูดมา อะไรที่ทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย เราก็ผ่อนผันให้อยู่แล้ว การดำเนินการ อย่ามองว่าได้เปรียบเสียเปรียบอะไร เพราะประชาชนเป็นผู้ตัดสิน จะได้เปรียบเสียเปรียบตรงไหน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลายคนบอกว่า โครงการไทยนิยม โครงการประชารัฐ ได้เปรียบ ทั้ง ๆ ที่โครงการนี้เกิดมานานแล้ว ไม่ใช่เป็นโครงการหรือการทำงานที่จะมุ่งไปสู่การเลือกตั้ง มันไม่ใช่ แต่ตนต้องการที่จะแก้ปัญหาให้ประชาชนในทุกพื้นที่ทั้งจังหวัด อำเภอ ตำบล ซึ่งให้งบประมาณไปเรื่อย ๆ ตลอดระยะเวลา 3-4 ปี และปีนี้ก็ต้องลงอีกครั้ง ในส่วนของหมู่บ้านโดยประชาชนเป็นผู้กำหนดว่าจะทำอะไร
"ไม่ใช่ว่ารัฐบาลเอาไปให้ เพื่อให้เขารักผม มันไม่ใช่ แต่เป็นการแก้ปัญหาในพื้นที่เพื่อลดความเดือดร้อน สร้างห่วงโซ่ของพวกเขาขึ้นมาในพื้นที่ ซึ่งประชาชนในพื้นที่จะต้องช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้มีรายได้เพิ่มขึ้น" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้พูดคุยกับนายสมคิดที่ถูกระบุถึงในเรื่องนี้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนจะต้องพูดอะไรกับนายสมคิด คงไม่ต้องพูดอะไร ตนยังไม่รู้เลยว่าพรรคไหนเป็นอย่างไร รู้แต่เพียงว่ามี 79 พรรค และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ยังไม่ได้รับรองทั้งหมด เพียงแต่เป็นการจองชื่อ ยื่นหนังสือขอจดทะเบียนเฉย ๆ รอให้ประกาศมาก่อน วันข้างหน้ายังอีกยาวไกล หลายเดือน ค่อยมาว่ากัน ขณะนี้ยังทำงานอยู่
เมื่อถามว่า คาดหวังอะไรกับปรากฎการณ์ความสามัคคีที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็หวังว่าจะดีขึ้น ทุกคนต้องตั้งความหวัง แต่ทุกอย่างอยู่ที่ความศรัทธาของพวกเรา ถ้าเราเชื่อมั่น สร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน ร่วมมือกับรัฐบาลในวันนี้ ก็จะนำไปสู่รัฐบาลที่ดีในวันหน้าไม่ใช่หรือ ดังนั้น ตนถึงบอกว่าการไปช่วยทีมหมูป่าอะคาเดมี อยู่ที่แรงศรัทธาของพวกเรา ถ้าเรามั่นใจว่าพวกเขาปลอดภัย พวกเขาก็ต้องปลอดภัย เราเชื่อมั่นว่าคนของเราจะช่วยพวกเขาได้ มันก็ต้องช่วยได้
"คิดว่าการเมืองก็เหมือนกัน ถ้าทุกคนไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองเก่าหรือใหม่มาร่วมมือกัน ไม่ว่าพรรคอะไรจะเกิดขึ้น มันอยู่ที่ประชาชนจะเลือกมา และหลายคนก็มีสิทธิที่จะได้รับการเลือกตั้งมา ตราบใดที่พวกเขายังไม่ได้กระทำผิดกฎหมายหรือติดคดีใด ๆ พวกเขาก็มีสิทธิที่จะได้รับการเลือกตั้ง เมื่อเลือกตั้งมาแล้ว พวกเขาตั้งใจจะร่วมพัฒนาบ้านเมืองใหม่หรือไม่ เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น ไว้วางใจหรือไม่ ถ้าทำไม่ได้ พวกเขาก็ไม่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาอยู่ดี ไม่ว่าพรรคไหนก็ตาม ถือว่าเท่ากันหมด และวันนี้หลายพรรคก็พูดกันขรมไปหมดทุกวัน ผมก็ฟังทุกวัน อย่าไปจับกันไปมา ผมต้องอยู่ตรงกลางให้ชัดเจน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า มีการวิจารณ์ว่ารัฐบาลเข้าข้างพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐคลอดมาหรือยัง ตอนนี้ยังมีแต่ชื่อและตนไปเกี่ยวอะไรกับพวกเขา สื่อไปเอาสิ่งที่พวกเขาอ้างมาถามตน แล้วตนจะตอบอะไรได้ พวกเขาอ้างก็ต้องไปถามคนอ้าง พวกเขาสามารถพูดคุยกันได้ ตนเจอนักการเมืองก็พูดคุยกับพวกเขาได้ แล้วตนจะผิดตรงไหน ตนก็คุยกับทุกพรรค เจอตนก็ทักทายตนก็ยกมือไหว้ อดีตรัฐมนตรีตนก็ยกมือไหว้ให้เกียรติซึ่งกันและกัน เมื่อรู้จักกันก็ให้เกียรติซึ่งกันและกันบ้าง ดังนั้น วันนี้ต้องอยู่ด้วยกันแบบนี้บ้านเมืองถึงจะสงบเรียบร้อย เข้าใจหรือไม่
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● 'บิ๊กตู่' เผย ช่วย "13 หมูป่า" ไม่กำหนดเวลา ยัน! คำสั่งย้ายผู้ว่าฯเชียงราย 'คงเดิม' ชี้! "คนดีอยู่ที่ไหน ที่นั่นก็เจริญ"
● 'บิ๊กตู่' ยัน! ไม่ได้สั่งห้ามขาย 'นิตยสารไทม์' ในไทย สั่งแพร่คำถาม-คำตอบฉบับเต็ม
"ไม่ว่าใครก็ตาม พวกเขาก็มีการพูดคุยกันตลอด จะให้แต่นักการเมืองคุยกันข้างเดียวหรือ ดังนั้น ทุกคนมีสิทธิ ประชาชนอยากพูดก็พูดมา อะไรที่ทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย เราก็ผ่อนผันให้อยู่แล้ว การดำเนินการ อย่ามองว่าได้เปรียบเสียเปรียบอะไร เพราะประชาชนเป็นผู้ตัดสิน จะได้เปรียบเสียเปรียบตรงไหน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลายคนบอกว่า โครงการไทยนิยม โครงการประชารัฐ ได้เปรียบ ทั้ง ๆ ที่โครงการนี้เกิดมานานแล้ว ไม่ใช่เป็นโครงการหรือการทำงานที่จะมุ่งไปสู่การเลือกตั้ง มันไม่ใช่ แต่ตนต้องการที่จะแก้ปัญหาให้ประชาชนในทุกพื้นที่ทั้งจังหวัด อำเภอ ตำบล ซึ่งให้งบประมาณไปเรื่อย ๆ ตลอดระยะเวลา 3-4 ปี และปีนี้ก็ต้องลงอีกครั้ง ในส่วนของหมู่บ้านโดยประชาชนเป็นผู้กำหนดว่าจะทำอะไร
"ไม่ใช่ว่ารัฐบาลเอาไปให้ เพื่อให้เขารักผม มันไม่ใช่ แต่เป็นการแก้ปัญหาในพื้นที่เพื่อลดความเดือดร้อน สร้างห่วงโซ่ของพวกเขาขึ้นมาในพื้นที่ ซึ่งประชาชนในพื้นที่จะต้องช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้มีรายได้เพิ่มขึ้น" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้พูดคุยกับนายสมคิดที่ถูกระบุถึงในเรื่องนี้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนจะต้องพูดอะไรกับนายสมคิด คงไม่ต้องพูดอะไร ตนยังไม่รู้เลยว่าพรรคไหนเป็นอย่างไร รู้แต่เพียงว่ามี 79 พรรค และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ยังไม่ได้รับรองทั้งหมด เพียงแต่เป็นการจองชื่อ ยื่นหนังสือขอจดทะเบียนเฉย ๆ รอให้ประกาศมาก่อน วันข้างหน้ายังอีกยาวไกล หลายเดือน ค่อยมาว่ากัน ขณะนี้ยังทำงานอยู่
เมื่อถามว่า คาดหวังอะไรกับปรากฎการณ์ความสามัคคีที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็หวังว่าจะดีขึ้น ทุกคนต้องตั้งความหวัง แต่ทุกอย่างอยู่ที่ความศรัทธาของพวกเรา ถ้าเราเชื่อมั่น สร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน ร่วมมือกับรัฐบาลในวันนี้ ก็จะนำไปสู่รัฐบาลที่ดีในวันหน้าไม่ใช่หรือ ดังนั้น ตนถึงบอกว่าการไปช่วยทีมหมูป่าอะคาเดมี อยู่ที่แรงศรัทธาของพวกเรา ถ้าเรามั่นใจว่าพวกเขาปลอดภัย พวกเขาก็ต้องปลอดภัย เราเชื่อมั่นว่าคนของเราจะช่วยพวกเขาได้ มันก็ต้องช่วยได้
"คิดว่าการเมืองก็เหมือนกัน ถ้าทุกคนไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองเก่าหรือใหม่มาร่วมมือกัน ไม่ว่าพรรคอะไรจะเกิดขึ้น มันอยู่ที่ประชาชนจะเลือกมา และหลายคนก็มีสิทธิที่จะได้รับการเลือกตั้งมา ตราบใดที่พวกเขายังไม่ได้กระทำผิดกฎหมายหรือติดคดีใด ๆ พวกเขาก็มีสิทธิที่จะได้รับการเลือกตั้ง เมื่อเลือกตั้งมาแล้ว พวกเขาตั้งใจจะร่วมพัฒนาบ้านเมืองใหม่หรือไม่ เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น ไว้วางใจหรือไม่ ถ้าทำไม่ได้ พวกเขาก็ไม่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาอยู่ดี ไม่ว่าพรรคไหนก็ตาม ถือว่าเท่ากันหมด และวันนี้หลายพรรคก็พูดกันขรมไปหมดทุกวัน ผมก็ฟังทุกวัน อย่าไปจับกันไปมา ผมต้องอยู่ตรงกลางให้ชัดเจน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า มีการวิจารณ์ว่ารัฐบาลเข้าข้างพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐคลอดมาหรือยัง ตอนนี้ยังมีแต่ชื่อและตนไปเกี่ยวอะไรกับพวกเขา สื่อไปเอาสิ่งที่พวกเขาอ้างมาถามตน แล้วตนจะตอบอะไรได้ พวกเขาอ้างก็ต้องไปถามคนอ้าง พวกเขาสามารถพูดคุยกันได้ ตนเจอนักการเมืองก็พูดคุยกับพวกเขาได้ แล้วตนจะผิดตรงไหน ตนก็คุยกับทุกพรรค เจอตนก็ทักทายตนก็ยกมือไหว้ อดีตรัฐมนตรีตนก็ยกมือไหว้ให้เกียรติซึ่งกันและกัน เมื่อรู้จักกันก็ให้เกียรติซึ่งกันและกันบ้าง ดังนั้น วันนี้ต้องอยู่ด้วยกันแบบนี้บ้านเมืองถึงจะสงบเรียบร้อย เข้าใจหรือไม่
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● 'บิ๊กตู่' เผย ช่วย "13 หมูป่า" ไม่กำหนดเวลา ยัน! คำสั่งย้ายผู้ว่าฯเชียงราย 'คงเดิม' ชี้! "คนดีอยู่ที่ไหน ที่นั่นก็เจริญ"
● 'บิ๊กตู่' ยัน! ไม่ได้สั่งห้ามขาย 'นิตยสารไทม์' ในไทย สั่งแพร่คำถาม-คำตอบฉบับเต็ม
