'2 บิ๊ก' ทุ่มหมื่นล้าน! ผุดพรีเมียมเอาต์เลตซิตี

10 มิ.ย. 2561 | 14:27 น.
'สยามพิวรรธน์' ผนึก 'ไซม่อน' ยักษ์อสังหาฯ ด้านค้าปลีกโลก ทุ่มงบกว่า 1 หมื่นล้าน เปิดตัวบิ๊กโปรเจ็กต์ 'ลักชัวรี พรีเมียมเอาต์เลต ซิตี' 3 แห่ง ใน 3 ปี ปักหมุดแห่งแรกใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ดีเดย์เปิดบริการ ต.ค. ปีหน้า


01-3372

นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ฯ เปิดเผยว่า สยามพิวรรธน์ร่วมทุนกับ ไซม่อน พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป จัดตั้งบริษัท สยามพิวรรธน์ ไซม่อน จำกัด ทุนจดทะเบียน 130 ล้านบาท ถือหุ้นในสัดส่วน 50:50 เพื่อดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกในรูปแบบ 'ลักชัวรี พรีเมียมเอาต์เลต ซิตี' ในประเทศไทย เพื่อรองรับกำลังซื้อผู้บริโภคทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยวางแผนที่จะขยายสาขา 3 แห่ง ภายในระยะเวลา 3 ปี ด้วยงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท

โดยลักชัวรี พรีเมียมเอาต์เลต ซิตี แห่งแรกจะตั้งอยู่บนที่ดิน 150 ไร่ บริเวณกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ มีพื้นที่เช่าราว 5 หมื่นตารางเมตร ภายในมีร้านค้าแบรนด์กว่า 200 ร้าน รวมถึงร้านอาหาร ศูนย์การเรียนรู้ เป็นต้น โดยจะมีลักชัวรี พรีเมียมเอาต์เลต เป็นแม็กเนตหลักที่จะดึงให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในเดือน ส.ค. นี้ และแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการเฟสแรกในเดือน ต.ค. 2562 ก่อนจะขยายสาขา 2 และ 3 ในภาคเหนือและภาคใต้ต่อไป

 

[caption id="attachment_288658" align="aligncenter" width="500"] ©premiumoutlets.com ©premiumoutlets.com[/caption]

"พรีเมียมเอาต์เลตถือเป็นค้าปลีกเซ็กเมนต์ที่มีการเติบโตต่อเนื่องตลอด 7 ปีที่ผ่านมา เป็นตลาดเงียบ ๆ ที่ไม่เข้าใจ แต่มีการเติบโตมาก ทำให้สยามพิวรรธน์เองเริ่มศึกษาและบรรจุไว้เป็น 1 ในโปรเจ็กต์ที่ต้องลงทุนตามยุทธศาสตร์ 5 ปี และวันนี้เชื่อว่า ด้วยศักยภาพของประเทศไทยที่มีจำนวนประชากรกว่า 70 ล้านคน และจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 35 ล้านคน มีความพร้อมอย่างยิ่งที่จะมี ลักชัวรี พรีเมียมเอาต์เลต" นางชฎาทิพ กล่าว และว่า

ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา พบว่า มีนักธุรกิจต่างชาติ ทั้งจีน เกาหลี และญี่ปุ่น ให้ความสนใจเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทั้งคอนโดมิเนียม ที่อยู่อาศัย และรีเทล ในรูปแบบของมิกซ์ยูสแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อการลงทุนในประเทศ

 

[caption id="attachment_288659" align="aligncenter" width="503"] ©premiumoutlets.com ©premiumoutlets.com[/caption]

อย่างไรก็ดี ด้วยโมเดลธุรกิจที่แตกต่างกับศูนย์การค้าการบริหารจัดการสินค้า รวมถึงการให้บริการ ทำให้บริษัทตัดสินใจร่วมมือกับไซม่อน ซึ่งมีประสบการณ์ด้านการทำพรีเมียมเอาต์เลตมากว่า 40 ปี มีสาขา 96 แห่งทั่วโลก อาทิ Woodbury Common Premium Outlets (New York) , Desert Hills Premium Outlets (Palm Springs) , Las Vegas North Premium Outlets , Yeoju Premium Outlets (Seoul) , Gotemba Premium Outlets (Tokyo) , Johor Premium Outlets (Malaysia) เป็นต้น โดยประเทศไทยถือเป็นพรีเมียมเอาต์เลตแห่งที่ 16 ในเอเชีย ต่อจากญี่ปุ่น 9 แห่ง , เกาหลี 4 แห่ง และมาเลเซีย 2 แห่ง

ด้าน นายมาร์ค ซิลเวสทรี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ไซม่อน พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป กล่าวว่า ประเทศไทยเป็น 1 ในเป้าหมายที่ไซม่อนให้ความสนใจ และเมื่อได้โอกาสจากสยามพิวรรธน์ จึงเข้ามาร่วมทุนทันที ด้วยจุดแข็งของไซม่อนที่มีประสบการณ์ในธุรกิจนี้มายาวนาน กลไกการตลาด ตลอดจนโครงสร้างราคาที่บริหารจัดการได้ เชื่อว่า จะทำให้ธุรกิจนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ทั้งนี้ ปัจจุบัน ไซม่อนถือเป็นกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของโลก มีรายได้ต่อปี 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ


……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,372 วันที่ 7-9 มิ.ย. 2561 หน้า 01-02

 
e-book-1-503x62