ส.ผู้ส่งออกข้าวชี้แนวโน้มราคาข้าวไทยครึ่งปีหลังยังสูงตามความต้องการตลาด

28 พ.ค. 2561 | 07:44 น.
สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยประเมินแนวโน้มราคาข้าวไทยครึ่งปีหลัง ยังอยู่ในราคาสูงตามความต้องการตลาด แนะชาวนาปรับตัวปลูกข้าวที่เป็นที่ต้องการตลาดดันราคาเพิ่ม

นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ระบุว่า ราคาข้าวในขณะนี้ถือว่าปรับตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิขณะนี้อยู่ที่ตันละ 1,250 ดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าช่วงที่มีโครงการรับจำนำข้าว เพราะความต้องการข้าวในตลาดโลกยังมีสูง ขณะที่ผลผลิตมีน้อย ส่วนข้าวขาวก็ถือว่าปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่ตันละ 430-435ดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากในหลายประเทศมีการนำเข้าอย่างต่อเนื่อง เช่น อินโดนีเซียนำเข้า 2 ล้านตัน ขณะนี้นำเข้าไปเพียง 1.5 ล้านตัน ส่วนฟิลิปปินส์ไทยเพิ่งชนะประมูลนำเข้าข้าว

trea

โดยประเมินว่าทิศทางราคาข้าวไทยจะดีต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี เพราะผลผลิตมีน้อยและรัฐบาลมีการระบายข้าวในสต็อกจนหมด คาดว่าการส่งออกข้าวปีนี้ไทยจะส่งออกได้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านตัน พร้อมแนะเกษตรกรปรับตัว ปลูกข้าวที่เป็นที่ต้องการของตลาดแทนการปลูกข้าวขาวทั่วไป ที่ไทยมีคู่แข่งมากทั้งอินเดียเวียดนาม โดยเฉพาะเมียนมาที่มีข้าวหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งการปลูกข้าวที่เป็นที่ต้องการตลาด จะทำให้ขายข้าวได้ในราคาสูง และยังส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้ที่ดีด้วย เช่น การปลูกข้าวพื้นนิ่ม เช่น พันธุ์ กข.21 โดยสมาคมจะร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกข้าวพันธุ์พื้นนิ่ม และจะรับซื้อไปทำตลาดให้ทั้งหมด

trea2

ส่วนปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ในขณะนี้ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวระบุว่า กระทบเพียงเล็กน้อยและยังไม่จำเป็นต้องปรับราคา เชื่อว่าจะเป็นระยะสั้นเท่านั้น สิ่งที่น่ากังวล คือ ปัญหาค่าเงินบาทที่ไม่มีเสถียรภาพ เพราะค่าเงินเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่กระทบต่อการส่งออกข้าวของไทย ถ้าเงินบาทแข็งจะทำให้ราคาสูงขึ้นการแข่งขันยาก โดยขณะนี้ค่าเงินบาทอยู่ที่ 31.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวดีขึ้น แต่อัตราที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ สำหรับตัวเลขการส่งออกข้าวตั้งแต่เดือนมกราคม-15 พฤษภาคม 2561 ส่งออกได้ 4.21 ตัน เป็นอันดับสองรองจากอินเดียที่ 4.77 ล้านตัน

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว