กสทช.-อย. ลงแส้! ปิดเว็บโฆษณาเวอร์เกินจริง
กสทช. ผนึก อย. เดินหน้าตรวจผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและโฆษณาผิดกฎหมายผ่านเว็บไซต์ ดีเดย์ 15 พ.ค. นี้ หลังพบ 6 สินค้าโฆษณาเวอร์ผ่านสื่อทีวีดิจิตอล และอีก 15 สินค้า ผ่านทีวีดาวเทียม
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และผู้ให้บริการโครงข่ายอินเตอร์เน็ต ถึงแนวทางการระงับเนื้อหาโฆษณาที่ผิดกฎหมาย อย. ผ่านเว็บไซต์ ว่า จะเริ่มดำเนินการตรวจสอบเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาโฆษณาที่ผิดกฎหมาย อย. ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. นี้ เป็นต้นไป ซึ่งจะมีแนวทางการตรวจเช่นเดียวกับ เนื้อหาโฆษณาและรายการที่เผยแพร่ผ่านทางทีวีดิจิตอล ทีวีดาวเทียม เคเบิลทีวี และวิทยุชุมชน
ทั้งนี้ ทาง อย. จะส่งเจ้าหน้าที่จำนวน 6 คน เข้ามาทำหน้าที่มอนิเตอร์เว็บไซต์ที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย อย. เพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ซึ่งดำเนินการตรวจสอบเนื้อหาโฆษณาผ่านสื่อทีวีดิจิตอลก่อนหน้านี้จำนวน 6 คนแล้ว เมื่อพบเว็บไซต์ที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย จะแจ้งให้กับ กสทช. รับทราบ เพื่อให้ กสทช. ทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ให้บริการโครงข่ายอินเตอร์เน็ต สำหรับการระงับการเผยแพร่เว็บไซต์ดังกล่าวต่อไป
สำหรับผลการดำเนินงานตรวจสอบโฆษณาที่ผิดกฎหมาย ซึ่งผ่านสื่อทีวีดิจิตอล เคเบิลทีวี ทีวีดาวเทียม และวิทยุชุมชน ตั้งแต่วันที่ 4-9 พ.ค. ที่ผ่านมานั้น พบโฆษณาที่ผิดกฎหมายผ่ายทีวีดิจิตอลด้วยกัน 5 ช่องรายการ จำนวน 6 ผลิตภัณฑ์ ผ่านทีวีดาวเทียม 14 ช่อง จำนวน 15 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งได้ดำเนินการสั่งระงับการออกอากาศแล้ว ส่วนเคเบิลทีวีและวิทยุชุมชนยังไม่มีรายงานเข้ามา โดยหากยังพบว่ามีการกระทำผิดซ้ำในรายเดิม จะมีมาตรการลงโทษทั้งจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 ล้านบาท
ด้าน ภก.ประพนธ์ อางตระกูล ที่ปรึกษา อย. กล่าวว่า ก่อนหน้านี้แนวทางการดำเนินงานของ อย. เกี่ยวกับเว็บไซต์ที่มีข้อความผิดกฎหมายนั้น จะต้องส่งเรื่องไปยังกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งจะทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวง โดยรัฐมนตรีจะทำหนังสือไปยังศาลเพื่อสั่งระงับการแผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว ซึ่งถือว่ามีขั้นตอนและระยะเวลาที่นาน การดำเนินการร่วมกับ กสทช. ครั้งนี้ ทำให้สามารถระงับการโฆษณาเนื้อหาที่ผิดกฎหมายได้อย่างรวดเร็ว ส่วนการดำเนินคดีเอาผิดกับเจ้าของผลิตภัณฑ์สามารถทำได้ภายหลัง
"เดิมกระบวนการขั้นตอนในการสั่งระงับการโฆษณาผ่านเว็บไซต์ ใช้ระยะเวลานานบางครั้ง 45-60 วัน แต่การดำเนินการร่วมกับ กสทช. สามารถทำได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งจะมีการใช้คีย์เวิร์ดหรือคำค้นหาที่เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือมีปัญหามากในการตรวจสอบ เช่น ยาลดความอ้วน ยาทำแท้ง เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่แม้ว่าจะมีเลขที่ อย. แล้ว แต่ไม่ได้มีใบอนุญาตให้โฆษณาสินค้า"
[caption id="attachment_280534" align="aligncenter" width="503"]
ภก.ประพนธ์ อางตระกูล ที่ปรึกษา อย.
©tnnthailand.com[/caption]
ขณะเดียวกัน ในวันที่ 15 พ.ค. นี้ ทาง กสทช. จะมีการแถลงผลการดำเนินงาน ระหว่างวันที่ 4-14 พ.ค. ถึงการตรวจสอบโฆษณาผ่านสื่อต่าง ๆ ที่มีเนื้อหาผิดกฎหมายอีกครั้งหนึ่งด้วย
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● บอร์ดกสทช.พักใบอนุญาตPEACE TV
● เปิดเบื้องหลัง "2 ยักษ์" มือถือ กดดันกสทช. กลับลำประมูลคลื่น 1800
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และผู้ให้บริการโครงข่ายอินเตอร์เน็ต ถึงแนวทางการระงับเนื้อหาโฆษณาที่ผิดกฎหมาย อย. ผ่านเว็บไซต์ ว่า จะเริ่มดำเนินการตรวจสอบเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาโฆษณาที่ผิดกฎหมาย อย. ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. นี้ เป็นต้นไป ซึ่งจะมีแนวทางการตรวจเช่นเดียวกับ เนื้อหาโฆษณาและรายการที่เผยแพร่ผ่านทางทีวีดิจิตอล ทีวีดาวเทียม เคเบิลทีวี และวิทยุชุมชน
ทั้งนี้ ทาง อย. จะส่งเจ้าหน้าที่จำนวน 6 คน เข้ามาทำหน้าที่มอนิเตอร์เว็บไซต์ที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย อย. เพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ซึ่งดำเนินการตรวจสอบเนื้อหาโฆษณาผ่านสื่อทีวีดิจิตอลก่อนหน้านี้จำนวน 6 คนแล้ว เมื่อพบเว็บไซต์ที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย จะแจ้งให้กับ กสทช. รับทราบ เพื่อให้ กสทช. ทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ให้บริการโครงข่ายอินเตอร์เน็ต สำหรับการระงับการเผยแพร่เว็บไซต์ดังกล่าวต่อไป
สำหรับผลการดำเนินงานตรวจสอบโฆษณาที่ผิดกฎหมาย ซึ่งผ่านสื่อทีวีดิจิตอล เคเบิลทีวี ทีวีดาวเทียม และวิทยุชุมชน ตั้งแต่วันที่ 4-9 พ.ค. ที่ผ่านมานั้น พบโฆษณาที่ผิดกฎหมายผ่ายทีวีดิจิตอลด้วยกัน 5 ช่องรายการ จำนวน 6 ผลิตภัณฑ์ ผ่านทีวีดาวเทียม 14 ช่อง จำนวน 15 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งได้ดำเนินการสั่งระงับการออกอากาศแล้ว ส่วนเคเบิลทีวีและวิทยุชุมชนยังไม่มีรายงานเข้ามา โดยหากยังพบว่ามีการกระทำผิดซ้ำในรายเดิม จะมีมาตรการลงโทษทั้งจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 ล้านบาท
ด้าน ภก.ประพนธ์ อางตระกูล ที่ปรึกษา อย. กล่าวว่า ก่อนหน้านี้แนวทางการดำเนินงานของ อย. เกี่ยวกับเว็บไซต์ที่มีข้อความผิดกฎหมายนั้น จะต้องส่งเรื่องไปยังกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งจะทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวง โดยรัฐมนตรีจะทำหนังสือไปยังศาลเพื่อสั่งระงับการแผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว ซึ่งถือว่ามีขั้นตอนและระยะเวลาที่นาน การดำเนินการร่วมกับ กสทช. ครั้งนี้ ทำให้สามารถระงับการโฆษณาเนื้อหาที่ผิดกฎหมายได้อย่างรวดเร็ว ส่วนการดำเนินคดีเอาผิดกับเจ้าของผลิตภัณฑ์สามารถทำได้ภายหลัง
"เดิมกระบวนการขั้นตอนในการสั่งระงับการโฆษณาผ่านเว็บไซต์ ใช้ระยะเวลานานบางครั้ง 45-60 วัน แต่การดำเนินการร่วมกับ กสทช. สามารถทำได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งจะมีการใช้คีย์เวิร์ดหรือคำค้นหาที่เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือมีปัญหามากในการตรวจสอบ เช่น ยาลดความอ้วน ยาทำแท้ง เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่แม้ว่าจะมีเลขที่ อย. แล้ว แต่ไม่ได้มีใบอนุญาตให้โฆษณาสินค้า"
[caption id="attachment_280534" align="aligncenter" width="503"]
©tnnthailand.com[/caption]
ขณะเดียวกัน ในวันที่ 15 พ.ค. นี้ ทาง กสทช. จะมีการแถลงผลการดำเนินงาน ระหว่างวันที่ 4-14 พ.ค. ถึงการตรวจสอบโฆษณาผ่านสื่อต่าง ๆ ที่มีเนื้อหาผิดกฎหมายอีกครั้งหนึ่งด้วย
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● บอร์ดกสทช.พักใบอนุญาตPEACE TV
● เปิดเบื้องหลัง "2 ยักษ์" มือถือ กดดันกสทช. กลับลำประมูลคลื่น 1800
