ผ่าขุมกำลังรบห้าชาติ บนสมรภูมิ "ถล่มซีเรีย"

สังคมโลกงุนงงกันทั่วหน้าเมื่อในช่วงเช้าของ วันที่14เม.ย.ทุกฝ่ายทราบข่าวว่า สหรัฐฯ อังกฤษและฝรั่งเศสเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศใส่ฐานที่มั่นทางทหารและแหล่งผลิตอาวุธเคมีในซีเรีย

ข่าวนี้สร้างความแตกตื่นทุกวงการไปทั่วโลก เเละน่าจะส่งผลกระทบในหลากหลายด้านเพราะโลกวันนี้เชื่อมโยงเสมือนเป็นผืนเดียวกันเเล้ว

สงครามข่าวสารที่เเต่ละฝ่ายนำมาประโคมผ่านสื่อนั้น เป็นการสร้างความชอบธรรมเเละอ้างความได้เปรียบบนสมรภูมินี้เพื่อบี้ให้ฝ่ายตรงข้ามเเพ้ไปในขั้นต้นของการรบ

หากหันมาพินิจขุมกำลังของห้าชาติบนสมรภูมิซีเรียนั้น ก่อนที่ไฟสงครามคราวนี้จะกระพือเเรงกว่านี้นั้น เเต่ประเทศที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการถล่มซีเรียครั้งนี้มีแสนยานุภาพทางทหารแข็งแกร่งเพียงใด

เพราะโดยหลักการรบนั้น ส่วนใหญ่จะเริ่มต้นโจมตีทางอากาศ โดยใช้กองเรือซึ่งเป็นเสมือนฐานทัพลอยน้ำส่งขีปนาวุธลงโจมตีพื้นที่เป้าหมาย เเต่เครื่องบินก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญเเต่จะนำมาใช้ในการรบหลังการโจมตีของกองทัพเรือ จากนั้นจะเป็นบทบาทของกองทัพบกในการช่วงชิงพื้นที่มั่นหมายต่อไป

สหรัฐฯ : ประเทศที่มีงบประมาณกองทัพสูงที่สุดในโลก( 6 แสนล้านดอลลาร์) ส่งเรือพิฆาตยูเอสเอส "โดนัลด์ คุ๊ก" ติดตั้งขีปนาวุธนำวิถีลอยลำในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เปิดฉากโจมตีด้วยขีปนาวุธ“โทมาฮอว์ค” เพื่อเลี่ยงเอัตราความสี่ยงที่เครื่องบินรบจะถูกยิงตก
ส่วนเครื่องบินรบนั้น ฝูงบินขนาดใหญ่จอดรออยู่บนเรือบรรทุกเครื่องบินซึ่งจอดอยู่ในอ่าวเปอร์เซีย และฐานทัพขนาดใหญ่สุดของสหรัฐฯในภูมิภาคตะวันออกกลาง(กาตาร์) โดยมีฝูงบินA10 และF16 รวมทั้งเครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกลB-52

อังกฤษ : มีเครื่องบินรบทอร์นาโดความเร็วเหนือเสียงติดตั้งขีปาวุธนำวิถี8ลำจอดอยู่ที่ฐานทัพอากาศในไซปรัส รวมทั้งเครื่องบินรบไต้ฝุ่นติดตั้งขีปนาวุธอากาศสู่ภาคพื้นนำวิถีด้วยเรดาร์6ลำ โดยทั้งหกลำนี้ปฏิบัติการโจมตีกลุ่มไอซิสในอิรัก เเละยังมี”MQ-9 Reaper” โดรนที่ติดตั้งขีปนาวุธพิฆาตรถถังเฮลไฟร์ 10 ลำ และเครื่องบินสอดแนมริเวต ที่ปฏิบัติการได้ทุกสภาพอากาศ

ฝรั่งเศส : ใช้เครื่องบินรบมิราจ และราฟาเอล ที่จอดประจำการในจอร์แดนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ฝรั่งเศสเคยใช้ฝูงบินนี้โจมตีกลุ่มไอซิสในอิรักและซีเรียมาเเล้ว ซึ่งเครื่องบินรบแต่ละลำสามารถบรรทุกระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์ได้ 4 ลูก

รัสเซีย : ระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศ S-400 โดยนำเข้าไปติดตั้งในซีเรียครั้งแรกเมื่อปี 2558 เพื่อพิทักษ์น่านฟ้าของซีเรียและป้องปรามตุรกี หลังจากเครื่องบินรบตุรกียิงเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซียตกในพรมแดนซีเรีย ในปีนั้น ระบบนี้สามารถโจมตีเป้าหมาย 80 เป้าหมาย ที่เข้ามาในระยะ 400 กิโลเมตรในครั้งเดียว ขณะที่ตัวระบบสามารถขับเคลื่อนไปด้วยความเร็วมากกว่า 16,000 ก.ม./ช.ม.

รัสเซีย ยังมีเครื่องบินหลายประเภทในซีเรีย เช่น เครื่องบินทิ้งระเบิดSu-24 เครื่องบินรบSu-25 รวมทั้งเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ เครื่องบินลำเลียง เครื่องบินสอดแนมและเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธMil Mi-24 และMil Mi-35 ประจำการที่ฐานทัพอากาศฮเมมิม ซึ่งเป็นฐานทัพหลักซึ่งรัสเซียส่งเครื่องบินออกโจมตีทางอากาศใส่กลุ่มกบฎที่ต่อต้านรัฐบาลซีเรีย

ซีเรีย : ระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศของซีเรีย ได้รับความเสียหายจากการโจมตีของอิสราเอลช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาแต่ยังพอที่จะสกัดกั้นอากาศยานทุกลำที่รุกเข้ามาในน่านฟ้สซีเรียได้ ตอนนี้ ซีเรียใช้ยุทโธปกรณ์ของรัสเซียมากขึ่้น ซึ่งรวมถึงระบบอาวุธSA-22 และSA-17 เเละยังมีระบบเรดาร์ที่นำเข้ามาจากจีน ส่วนการดูเเลพื้นที่น่านฟ้านั้น กองทัพอากาศซีเรียมีเครื่องบินรบหลายลำประจำการอยู่ อาทิ Su-22 และ MiG-23

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง.........

[caption id="attachment_275642" align="aligncenter" width="503"]