“สนธิรัตน์” สั่งเช็กราคา สินค้าและบริการ “ช่วงสงกรานต์” ป้องกันปชช.ถูกเอาเปรียบ

04 เม.ย. 2561 | 12:06 น.
- 4 เม.ย. 61 - นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ออกตรวจสอบและติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์อย่างใกล้ชิด โดยขอให้จัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบราคาสินค้าและบริการตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนเดินทางออกต่างจังหวัด และตรวจสอบต่อเนื่องจนถึงวันที่ประชาชนเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ เพื่อป้องกันไม่ให้พ่อค้าแม่ค้าฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบประชาชน

“สำหรับพื้นที่ขอให้เน้นการตรวจสอบ ได้แก่ สถานีขนส่ง ทั้งหมอชิต สายใต้ใหม่ เอกมัย สถานีขนส่งของเอกชน สถานีรถไฟทั่วประเทศ ทั้งหัวลำโพง สถานีรถไฟที่เป็นเมืองท่องเที่ยว สนามบิน ทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง และสนามบินในส่วนภูมิภาค รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ทั่วประเทศ เพราะสถานที่เหล่านี้ มีโอกาสที่จะมีปัญหาเกิดขึ้น จากการที่มีประชาชนเข้าไปใช้บริการเป็นจำนวนมาก” รมว.พาณิชย์ เปิดเผย

รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เเละยังต้องตรวจสอบการจำหน่ายน้ำมันของสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง โดยให้ตรวจสอบความถูกต้องของหัวจ่ายว่ามีปริมาณเต็มลิตรหรือไม่ เพื่อเป็นการดูแลประชาชนที่เดินทางด้วยรถยนต์ ซึ่งจะต้องเน้นในจังหวัดที่เป็นทางผ่านออกไปยังจังหวัดต่างๆ และจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เพราะจะมีประชาชนเดินทางเข้าไปเป็นจำนวนมาก

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการตามสถานีขนส่ง สถานีรถไฟทั่วประเทศ และสถานที่ท่องเที่ยว ต้องปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและค่าบริการให้ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบได้ โดยติดไว้ในที่เห็นได้ชัดเจน ต้องแสดงราคาต่อหน่วยเห็น ได้ชัด อ่านง่าย และหากมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือจากราคาหรือค่าบริการ ก็ต้องแสดงให้ชัดเจนด้วย

“หากประชาชน พบเห็นการกระทำผิด จำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร หรือจำหน่ายในราคาไม่ตรงกับที่แจ้งไว้ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบและหากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธ การจำหน่ายต้องโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” นายสนธิรัตน์ กล่าว