เมื่อ 'ทรัมป์' ประกาศ "ทวงความยุติธรรม"!! ลงนาม 'ขึ้นภาษีเหล็ก' ... เปิดฉากสงครามการค้า?
เป็นไปตามการคาดหมาย เมื่อ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพิกเฉยต่อคำท้วงติงของบรรดานักกฎหมายพรรครีพับลิกันและที่ปรึกษาระดับสูง จรดปากกาลงนามคำสั่งขับเคลื่อนมาตรการเรียกเก็บภาษีเหล็ก 25% และอะลูมิเนียม 10% ที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยจะมีผลบังคับใช้ในอีก 15 วันข้างหน้า
[caption id="attachment_266869" align="aligncenter" width="503"]
PHOTO : Getty Images[/caption]
“พวกเราแค่ต้องการความยุติธรรม” ... นี่คือ คำกล่าวของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่บอกเหตุผลในการปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมใหม่ ยืนยันในความตั้งใจที่จะให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างเท่าเทียม และเชื่อว่า การจัดเก็บอัตราภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมใหม่นี้จะช่วยให้ชาวอเมริกันมีงานที่ดีกว่าเดิม มีบริษัทที่ยอดเยี่ยมเพิ่มขึ้น ... “ทุกอย่างจะกลับเข้ามาในประเทศของเรา”
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังได้กล่าวย้ำถึงสิ่งที่เขาต้องการผลักดันอีกครั้ง นั่นคือ การจัดเก็บภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จากประเทศอื่น ด้วยอัตราเดียวกันกับที่ประเทศนั้นเรียกเก็บภาษีจากผลิตภัณฑ์ของสหรัฐอเมริกา ... หรือ ข้อตกลงทางภาษีที่ประเทศคู่สัญญาจะได้เปรียบและเสียเปรียบเท่า ๆ กัน ในการนำเข้าสินค้า
ประธานาธิบดีทรัมป์ ยกตัวอย่างว่า “หาก ‘จีน’ มีการกำหนดอัตราภาษี 25% ในการนำเข้าผลิตภัณฑ์จากสหรัฐอเมริกา ดังนั้น สหรัฐอเมริกาก็ควรจะกำหนดอัตราการจัดเก็บภาษีอย่างเป็นทางการที่ 25% สำหรับผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามาจาก ‘จีน’ เช่นกัน ... เราจะใช้ตัวเลขเดียวกัน”
… อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า อัตราการจัดเก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมใหม่นี้ มีความเสี่ยงที่จะเพิ่มความตึงเครียดในการเป็นพันธมิตรทางการค้าและอุตสาหกรรมการนำเข้า
ภาษีนำเข้า, ทรัมป์ และสงครามการค้า?
จากคำกล่าวของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ระบุว่า “การปรับขึ้นภาษีนำเข้าเป็นหนทางในการฟื้นฟูอุตสาหกรรมของชาวอเมริกัน เพื่อนำไปสู่ความรุ่งโรจน์อีกครั้ง” ... อาจจะไม่ราบรื่นซะทีเดียว เมื่อนักการเมือง นักธุรกิจ และนานาชาติ ต่างประสานเสียงกันว่า “สงครามการค้าใกล้เข้ามาแล้ว” ... และหลายประเทศพร้อมรับมือ ด้วยการเตรียม ‘มาตรการตอบโต้’
อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังคงเปิดโอกาสให้ประเทศอื่น ๆ มีสิทธิ์ได้รับการยกเว้นภาษี อย่าง แคนาดาและเม็กซิโก ตราบเท่าที่สามารถตกลงกันได้ว่า ผลิตภัณฑ์ของประเทศนั้น ๆ จะไม่ส่งผลกระทบหรือคุกคามความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา
[caption id="attachment_266880" align="aligncenter" width="503"]
โดนัลด์ ทรัมป์
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ[/caption]
… ทำไมสหรัฐอเมริกาถึงต้องการที่จะเพิ่มอัตราการจัดเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมนัก? ...
ประธานาธิบดีทรัมป์บอกเป้าหมายชัดเจนว่า ต้องการปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศด้วยการสนับสนุนผู้ผลิตเหล็กและอะลูมิเนียมชาวอเมริกัน ตัวเขาเองเชื่อว่า เมื่อเหล็กและอะลูมิเนียมที่มีการนำเข้ามาจากประเทศอื่นมีราคาแพงมากขึ้น อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการขึ้นภาษีนำเข้า จะทำให้นักธุรกิจหลายคนหันกลับมามองหาผู้ผลิตเหล็กและอะลูมิเนียมในประเทศมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการ และยังช่วยต่อลมหายใจให้กับอุตสาหกรรมภายในประเทศ
… ส่วน “จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้?” นั้น คงต้องติดตาม และจะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีพันธมิตรทางการค้าและพันธมิตรโดยสนธิสัญญาได้รับสิทธิ์ในการยกเว้นภาษีเพิ่มขึ้น ... แน่นอนว่า อาจจะต้องมีบางส่วนได้รับบาดเจ็บกันบ้าง จากราคาเหล็กและอะลูมิเนียมที่สูงขึ้น อันเป็นผลจาก ‘ภาษีนำเข้าเหล็ก 25% และอะลูมิเนียม 10%’ ...
....................
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ผงะ! 'เหล็ก' 60 ล้านตัน จ่อทะลัก 'อาเซียน'
ทำไมต้อง‘เหล็ก’
[caption id="attachment_266869" align="aligncenter" width="503"]
“พวกเราแค่ต้องการความยุติธรรม” ... นี่คือ คำกล่าวของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่บอกเหตุผลในการปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมใหม่ ยืนยันในความตั้งใจที่จะให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างเท่าเทียม และเชื่อว่า การจัดเก็บอัตราภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมใหม่นี้จะช่วยให้ชาวอเมริกันมีงานที่ดีกว่าเดิม มีบริษัทที่ยอดเยี่ยมเพิ่มขึ้น ... “ทุกอย่างจะกลับเข้ามาในประเทศของเรา”
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังได้กล่าวย้ำถึงสิ่งที่เขาต้องการผลักดันอีกครั้ง นั่นคือ การจัดเก็บภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จากประเทศอื่น ด้วยอัตราเดียวกันกับที่ประเทศนั้นเรียกเก็บภาษีจากผลิตภัณฑ์ของสหรัฐอเมริกา ... หรือ ข้อตกลงทางภาษีที่ประเทศคู่สัญญาจะได้เปรียบและเสียเปรียบเท่า ๆ กัน ในการนำเข้าสินค้า
ประธานาธิบดีทรัมป์ ยกตัวอย่างว่า “หาก ‘จีน’ มีการกำหนดอัตราภาษี 25% ในการนำเข้าผลิตภัณฑ์จากสหรัฐอเมริกา ดังนั้น สหรัฐอเมริกาก็ควรจะกำหนดอัตราการจัดเก็บภาษีอย่างเป็นทางการที่ 25% สำหรับผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามาจาก ‘จีน’ เช่นกัน ... เราจะใช้ตัวเลขเดียวกัน”
… อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า อัตราการจัดเก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมใหม่นี้ มีความเสี่ยงที่จะเพิ่มความตึงเครียดในการเป็นพันธมิตรทางการค้าและอุตสาหกรรมการนำเข้า
ภาษีนำเข้า, ทรัมป์ และสงครามการค้า?
จากคำกล่าวของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ระบุว่า “การปรับขึ้นภาษีนำเข้าเป็นหนทางในการฟื้นฟูอุตสาหกรรมของชาวอเมริกัน เพื่อนำไปสู่ความรุ่งโรจน์อีกครั้ง” ... อาจจะไม่ราบรื่นซะทีเดียว เมื่อนักการเมือง นักธุรกิจ และนานาชาติ ต่างประสานเสียงกันว่า “สงครามการค้าใกล้เข้ามาแล้ว” ... และหลายประเทศพร้อมรับมือ ด้วยการเตรียม ‘มาตรการตอบโต้’
อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังคงเปิดโอกาสให้ประเทศอื่น ๆ มีสิทธิ์ได้รับการยกเว้นภาษี อย่าง แคนาดาและเม็กซิโก ตราบเท่าที่สามารถตกลงกันได้ว่า ผลิตภัณฑ์ของประเทศนั้น ๆ จะไม่ส่งผลกระทบหรือคุกคามความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา
[caption id="attachment_266880" align="aligncenter" width="503"]
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ[/caption]
… ทำไมสหรัฐอเมริกาถึงต้องการที่จะเพิ่มอัตราการจัดเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมนัก? ...
ประธานาธิบดีทรัมป์บอกเป้าหมายชัดเจนว่า ต้องการปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศด้วยการสนับสนุนผู้ผลิตเหล็กและอะลูมิเนียมชาวอเมริกัน ตัวเขาเองเชื่อว่า เมื่อเหล็กและอะลูมิเนียมที่มีการนำเข้ามาจากประเทศอื่นมีราคาแพงมากขึ้น อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการขึ้นภาษีนำเข้า จะทำให้นักธุรกิจหลายคนหันกลับมามองหาผู้ผลิตเหล็กและอะลูมิเนียมในประเทศมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการ และยังช่วยต่อลมหายใจให้กับอุตสาหกรรมภายในประเทศ
… ส่วน “จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้?” นั้น คงต้องติดตาม และจะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีพันธมิตรทางการค้าและพันธมิตรโดยสนธิสัญญาได้รับสิทธิ์ในการยกเว้นภาษีเพิ่มขึ้น ... แน่นอนว่า อาจจะต้องมีบางส่วนได้รับบาดเจ็บกันบ้าง จากราคาเหล็กและอะลูมิเนียมที่สูงขึ้น อันเป็นผลจาก ‘ภาษีนำเข้าเหล็ก 25% และอะลูมิเนียม 10%’ ...
....................
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ผงะ! 'เหล็ก' 60 ล้านตัน จ่อทะลัก 'อาเซียน'
ทำไมต้อง‘เหล็ก’
