‘ไลน์’ขี่กระแสเงินดิจิตอล ตั้งบริษัทซื้อขาย-ญี่ปุ่นเพิ่มมาตรการล้อมคอก

08 ก.พ. 2561 | 03:51 น.
ไลน์ คอร์ป โดดชิมลางตลาดเงินดิจิตอล เตรียมตั้งบริษัทลูก “ไลน์ ไฟแนนเชียล คอร์ปอเรชั่น” ให้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยน-ปล่อยกู้ในรูปสกุลเงินดิจิตอล พร้อมวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อต่อยอดบริการด้านการเงินผ่านเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์

แม้ว่าช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา จะมีข่าวการเจาะระบบโดยแฮกเกอร์เข้าขโมยเงินสกุลดิจิตอลของบริษัท คอยน์ เช็คฯ (Coincheck) ผู้ให้บริการซื้อขายสกุลเงินดิจิตอลรายหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น โดยได้เงินไปมากกว่า 58,000 ล้านเยน หรือกว่า 16,000 ล้านบาท นับเป็นคดีโจรกรรม เงินสกุลดิจิตอล หรือ “คริปโตเคอเรนซี”

(cryptocurrency) ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของโลก แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความนิยมซื้อขายแลกเปลี่ยนและลงทุนในสกุลเงินดิจิตอล ที่หลายคนเรียกว่า “เงินเสมือนจริง” ในประเทศญี่ปุ่นลดน้อยลงแต่อย่างใด ญี่ปุ่นยังคงได้ชื่อว่าเป็นตลาดซื้อขายสกุลเงินดิจิตอลที่มีการเติบโตสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก มีบริษัทให้บริการซื้อขายสกุลเงินดิจิตอลที่ขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการกับหน่วยงานกำกับดูแลของภาครัฐไว้แล้วจำนวนถึง 16 ราย และยังมีที่ยื่นเรื่องขอรับการพิจารณาอนุมัติอีกมากกว่า 10 ราย

TP10-3337-2A ล่าสุด มีผู้เล่นหน้าใหม่ประกาศร่วมกระโจนเข้าสู่สังเวียนการซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิตอลในญี่ปุ่น ซึ่งแม้จะเป็นหน้าใหม่ในสังเวียนนี้ แต่ “ไลน์ คอร์ป” เจ้าของแอพพลิเคชันส่งข้อความ และบริการอื่นๆ ผ่านอินเตอร์เน็ต เป็นรายใหญ่มาจากเวทีอื่น ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ไลน์ คอร์ป ประกาศแผนจัดตั้งบริษัทลูกขึ้นมาภายใต้ชื่อ “ไลน์ ไฟแนนเชียล คอร์ปอเรชั่น” เพื่อดำเนินธุรกิจซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินดิจิตอล รวมทั้งบริการอื่นๆด้านการเงินที่กระทำผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (ฟินเทค) ซึ่งรวมถึงบริการประกันภัยและบริการสินเชื่อ

ปัจจุบัน ไลน์ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ทั้งที่ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา ให้บริการรับชำระและโอนเงินผ่านบริการไลน์เพย์ (Line Pay) อยู่แล้ว แต่เพื่อขยายธุรกิจด้านการเงินให้ครอบคลุมมากขึ้น บริษัทจึงมีแผนจัดตั้งบริษัท ไลน์ ไฟแนนเชียล คอร์ปอเรชั่นฯ ขึ้นมา เพื่อให้บริการ ฟินเทคต่างๆ ผ่านแอพพลิเคชันของไลน์ รวมถึงบริการซื้อขายสกุลเงินดิจิตอลที่กำลังเป็นเทรนด์ยอดนิยมในญี่ปุ่นด้วย แต่ในขั้นนี้ บริษัทยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจใหม่ออกมามากนัก เพียงแต่ระบุว่า บริษัทมีความตั้งใจที่จะส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีด้านต่างๆ ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีบล็อกเชน (blockchain) ที่มีบทบาทสำคัญในการทำธุรกรรมผ่านระบบดิจิตอล ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา (2560) บริการรับชำระเงินผ่านแอพพลิเคชันของไลน์ เป็นธุรกิจที่มีการเติบโตในอัตราสูง มียอดการทำธุรกรรมชำระเงินผ่านแอพทั่วโลกมูลค่าปีละกว่า 450,000 ล้านเยน (ประมาณ 4,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) และมีจำนวนผู้ลงทะเบียนใช้บริการชำระเงิน 40 ล้านคน

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6

แม้จะเป็นแอพพลิเคชันที่ได้รับความนิยมสูง และมีผู้ใช้ประจำในแต่ละเดือนกว่า 168 ล้านคน แต่ไลน์ คอร์ป ก็เผชิญการแข่งขันที่สร้างแรงกดดันมากขึ้นทั้งจากคู่แข่งอย่างแอพพลิ เคชัน WhatsApp ของเฟซบุ๊ก โดยเฉพาะใน 4 ตลาดหลักของไลน์ คอร์ป ซึ่งได้แก่ ญี่ปุ่น ไทย อินโดนีเซีย และไต้หวัน ความเคลื่อนไหวของบริษัทในครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางข่าวการเจาะระบบเพื่อเข้าโจรกรรมสกุลเงินดิจิตอลของผู้ให้บริการรายหนึ่งในญี่ปุ่น ซึ่งก็ทำให้หน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาลเข้ามาเพิ่มความเข้มงวดในการกวดขันดูแลธุรกิจซื้อขายสกุลเงินดิจิตอล

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,337 วันที่ 4 - 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว