‘บิวตี้เจมส์’เล็งเป้า ยอดปีนี้ 4.2 พันล้าน
“บิวตี้เจมส์” เล็งรายได้ปี 61 โตกว่า 5% มั่นใจเศรษฐกิจโลกโต ท่องเที่ยวคึกคักเป็นปัจจัยหนุน พร้อมจัดงานอีเวนต์ออกงานแฟร์ช่วยดันอีกแรง เผยออร์เดอร์เต็มถึงเดือนพ.ค.แล้ว ขณะปี 60 ยอดทะลุ 4,000 ล้านตามเป้าหมาย
การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทย (รวมทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป) ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2560 ข้อมูลจากศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากรระบุมีมูลค่าทั้งสิ้น 1.20 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือในรูปเงินบาทที่ 4.09 แสนล้านบาท) ขยายตัวลดลง 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่หากหักการส่งออกทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป ที่เป็นการซื้อมา-ขายไปที่มีการส่งออก 5,382 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับจากโรงงานผลิตของไทยจะมีมูลค่า 6,665 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่มีการส่งออก 6,540 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้น 1.9%
[caption id="attachment_15558" align="aligncenter" width="503"]
สุริยน ศรีอรทัยกุล[/caption]
สอดคล้องกับนายสุริยน ศรีอรทัยกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิวตี้เจมส์ จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกเครื่องประดับอัญมณีรายใหญ่ ที่เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในปี 2560 ยอดรายได้ของบริษัทในปีที่ผ่านมาคาดจะทำได้ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่มีรายได้ 3,600 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 10% โดยสัดส่วนรายได้ 40% มาจากการส่งออกไปตลาดสหรัฐอเมริกา อีก 40% จากตลาดญี่ปุ่นและยุโรป 15% จากตลาดอาเซียน และอีก 5% จากตลาดในประเทศ มีปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจคู่ค้าเริ่มขยายตัวได้ดี และการส่งออกของบริษัทขยายตัวดีขึ้นมากในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา เวลานี้บริษัทได้รับคำสั่งซื้อเต็มกำลังการผลิตไปถึงเดือนพฤษภาคม 2561 แล้ว
“ในปี 2561 บริษัทตั้งเป้ายอดขายจะขยายตัวได้ไม่ตํ่ากว่า 5% (หรือมียอดขายกว่า 4,200 ล้านบาท) โดยมองว่าเศรษฐกิจโลกน่าจะฟื้นตัวดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา รวมถึงภาคการท่องเที่ยวในไทยปีนี้คาดจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งนอกจากเขาจะจ่ายค่าที่พัก และอาหารแล้วมักจะซื้อหาเครื่องประดับอัญมณีเป็นของที่ระลึกด้วย
นอกจากนี้จะเป็นผลจากบริษัทจะเปิดช็อปจำหน่ายในประเทศเพิ่มอีก 7 ช็อป จากปัจจุบันมี 25 ช็อป และจะจัดงานอีเวนต์ส่งเสริมการขายในประเทศอีกหลายงาน รวมถึงการออกงานแฟร์อัญมณีในต่างประเทศด้วย ส่วนปัจจัยลบคือเงินบาทแข็งค่า และสถานการณ์ความไม่แน่นอนในต่างประเทศ”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,330 วันที่ 11 - 13 มกราคม พ.ศ. 2561
การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทย (รวมทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป) ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2560 ข้อมูลจากศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากรระบุมีมูลค่าทั้งสิ้น 1.20 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือในรูปเงินบาทที่ 4.09 แสนล้านบาท) ขยายตัวลดลง 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่หากหักการส่งออกทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป ที่เป็นการซื้อมา-ขายไปที่มีการส่งออก 5,382 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับจากโรงงานผลิตของไทยจะมีมูลค่า 6,665 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่มีการส่งออก 6,540 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้น 1.9%
[caption id="attachment_15558" align="aligncenter" width="503"]
สอดคล้องกับนายสุริยน ศรีอรทัยกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิวตี้เจมส์ จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกเครื่องประดับอัญมณีรายใหญ่ ที่เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในปี 2560 ยอดรายได้ของบริษัทในปีที่ผ่านมาคาดจะทำได้ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่มีรายได้ 3,600 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 10% โดยสัดส่วนรายได้ 40% มาจากการส่งออกไปตลาดสหรัฐอเมริกา อีก 40% จากตลาดญี่ปุ่นและยุโรป 15% จากตลาดอาเซียน และอีก 5% จากตลาดในประเทศ มีปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจคู่ค้าเริ่มขยายตัวได้ดี และการส่งออกของบริษัทขยายตัวดีขึ้นมากในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา เวลานี้บริษัทได้รับคำสั่งซื้อเต็มกำลังการผลิตไปถึงเดือนพฤษภาคม 2561 แล้ว
“ในปี 2561 บริษัทตั้งเป้ายอดขายจะขยายตัวได้ไม่ตํ่ากว่า 5% (หรือมียอดขายกว่า 4,200 ล้านบาท) โดยมองว่าเศรษฐกิจโลกน่าจะฟื้นตัวดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา รวมถึงภาคการท่องเที่ยวในไทยปีนี้คาดจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งนอกจากเขาจะจ่ายค่าที่พัก และอาหารแล้วมักจะซื้อหาเครื่องประดับอัญมณีเป็นของที่ระลึกด้วย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,330 วันที่ 11 - 13 มกราคม พ.ศ. 2561
