แบงก์โหมตลาดรายย่อย สินเชื่อบ้านพุ่งข้ามปี ธนชาตขอโต2หลัก
แบงก์โหมปล่อยกู้รายย่อย “ธนชาต” โฟกัสธุรกิจเอสเอ็มอีไซซ์จิ๋ว มั่นใจกระบวนการปล่อยสินเชื่อแน่น-โปรดักต์ ครบวงจรขอโต 20% จากพอร์ต 1.3 หมื่นล้านบาท “ซีไอเอ็มบี ไทย” โอดเกณฑ์ธปท.กดดีมานด์สินเชื่อบุคคลฮวบ 20% ลั่นตั้งเป้ารายย่อยโต 10-20% ยอด 1.2 แสนล้านบาท
นางธีรนุช ขุมทรัพย์ ผู้ช่วย กรรมการผู้จัดการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ลูกค้ารายย่อย ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) (TBANK) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ภาพรวมธุรกิจรายย่อยในปี 2561 ยังขยายตัวสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่น่าจะเติบโตได้ดี
ทั้งนี้ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อรายย่อยเติบโตในตัวเลข 2 หลัก จากยอดสินเชื่อคงค้างรายย่อยอยู่ที่ 1.4 แสนล้านบาท โดยสินเชื่อที่จะโฟกัสและมุ่งเน้นการเติบโตจะเป็นสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ขนาดเล็ก หรือ SSME คาดว่า จะขยายตัวได้ดีขึ้น เนื่องจากธนาคารมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินครบวงจรสำหรับลูกค้ากลุ่มนี้ ประกอบกับกระบวนการปล่อยสินเชื่อที่มีประสิทธิภาพ ช่วยสนับสนุนการเติบโตกลุ่มลูกค้า SSME ได้ดีขึ้น โดยธนาคารตั้งเป้าเติบโต 20% จากปัจจุบันมียอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท
สำหรับตัวเลขการเติบโตปีนี้ อาจจะตํ่ากว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้นปีเล็กน้อย แต่ยังคงเติบโตในกรอบตัวเลข 2 หลัก โดยสินเชื่อที่ชะลอจะเป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ไม่ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพราะการแข่งขันที่รุนแรง ปัจจุบันพอร์ตสินเชื่อที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 1.1 แสนล้านบาท ขณะที่สินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อบัตรเครดิตยังขยายตัวได้ดี โดยพอร์ตสินเชื่อส่วนบุคคลอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท และสินเชื่อบัตรเครดิตอยู่ที่ 8,300 ล้านบาท
“ปีหน้าสินเชื่อรายย่อยน่าจะเติบโตได้ดีตามเศรษฐกิจที่ขยายตัวดีขึ้น เราเองยังตั้งเป้าเติบโต 2 หลัก แต่จะเน้นกลุ่มเอสเอ็มอีขนาดเล็ก เพราะเรามั่นใจในกระบวนการปล่อยสินเชื่อที่มีประสิทธิภาพ และโปรดักต์ที่ครบวงจร ส่วนปีนี้จบปีน่าจะหย่อนเป้าเล็กน้อยแต่ยังอยู่ในกรอบที่เราคาดไว้”
นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจรายย่อย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย(CIMBT) กล่าวว่า จากแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น คาดว่าจีดีพีน่าจะเติบโตอยู่ที่ระดับ 3-4% ซึ่งจะทำให้สินเชื่อทั้งระบบน่าจะขยายตัวได้ประมาณ 5-10% โดยสินเชื่อรายย่อยมองว่า สินเชื่อที่อยู่อาศัยน่าจะเติบโตได้ดีกว่าสินเชื่อส่วนบุคคล เนื่องจากมีภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ประกอบกับหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิตของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำให้การเติบโตชะลอตัวได้ในบางกลุ่มลูกค้า
ปี 2561 ธนาคารตั้งเป้าเติบโตสินเชื่อรายย่อยอยู่ที่ 10-20% จากยอดสินเชื่อคงค้างปัจจุบันอยู่ที่ 1.15 แสนล้านบาท คาดว่าสิ้นปี 2561 พอร์ตสินเชื่อจะเพิ่มเป็น 1.2 แสนล้านบาท พอร์ตสินเชื่อรายย่อยคิดเป็น 50% ของพอร์ตสินเชื่อรวมทั้งธนาคาร ซึ่งธนาคารตั้งเป้าเติบโตสินเชื่อที่อยู่อาศัย 1.6 หมื่นล้านบาท จากปีนี้อยู่ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท ยอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 7 หมื่นล้านบาท
สินเชื่อส่วนบุคคลตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ 1 หมื่นล้านบาท จากปีนี้อยู่ที่ 8,000 ล้านบาท ยอดสินเชื่อคงค้าง 2 หมื่นล้านบาท สินเชื่อรถยนต์ คาดปล่อยสินเชื่อใหม่ 1 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงกับปีนี้ โดยยอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท เช่นเดียวกับสินเชื่อรถจักรยานยนต์ตั้งเป้าใกล้เคียงปีนี้ที่ 3,000 ล้านบาท ยอดสินเชื่อคงค้าง 4,000 ล้านบาท
ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) จะรักษาให้อยู่ในระดับ 3.75% จากเป้าต้นปีอยู่ที่ 4% เนื่องจากธนาคารตัดขายพอร์ตเอ็นพีแอลสินเชื่อที่อยู่อาศัยออกไปกว่า 1,000 ล้านบาท
สำหรับสินเชื่อรายย่อยปีนี้คาดว่าขยายตัว 7% ตํ่ากว่าเป้าต้นปี 10% เป็นผลมาจากสินเชื่อส่วนบุคคลหลุดเป้า ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการธปท. ทำให้ความต้องการสินเชื่อลดลงไปบ้างในบางกลุ่ม โดยเฉพาะสินเชื่อปล่อยใหม่ในกลุ่มลูกค้ารายได้ตํ่ากว่า 3 หมื่นบาทต่อเดือน หายไปเกือบ 20% จากปกติจะปล่อยสินเชื่อใหม่เฉลี่ย 30-40% ต่อเดือน
อย่างไรก็ดี ธนาคารมองว่า สินเชื่อส่วนบุคคลยังเป็นสินเชื่อที่ยังเติบโตได้ดี แต่จะเติบโตในกลุ่มเซ็กเมนต์รายได้สูงกว่าเกณฑ์กำกับ ส่วนกลุ่มรายได้ตํ่ากว่าเกณฑ์ธปท.น่าจะลดลง ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนพอร์ตลูกค้าสินเชื่อส่วนบุคคล แบ่งเป็นรายได้ตํ่ากว่า 3 หมื่นบาท มีประมาณ 50% และที่เหลือ 50% เป็นกลุ่มรายได้สูงกว่า 3 หมื่นบาท
นางสาวมิ่งขวัญ พัฒนวงศ์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารส่งเสริมการตลาดลูกค้าบุคคล บมจ.ธนาคารทหารไทย หรือ ทีเอ็มบี กล่าวว่า การแข่งขันธุรกิจรายย่อยในปี 2561 คาดว่าน่าจะรุนแรงโดยเฉพาะการแข่งขันในเรื่องของ National e-Payment ที่จะเห็นสถาบันการเงินลงมาแข่งขันมากขึ้นในเรื่องของโปรโมชัน ส่วนสินเชื่อคาดว่าจะเติบโตมากกว่าปีนี้ โดยปีนี้ธนาคารตั้งเป้าเติบโต 25% โดยสินเชื่อขยายตัวได้ดีจะเป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อส่วนบุคคล และกองทุนรวมต่างๆ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,325 วันที่ 24 - 27 ธันวาคม พ.ศ. 2560
นางธีรนุช ขุมทรัพย์ ผู้ช่วย กรรมการผู้จัดการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ลูกค้ารายย่อย ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) (TBANK) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ภาพรวมธุรกิจรายย่อยในปี 2561 ยังขยายตัวสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่น่าจะเติบโตได้ดี
ทั้งนี้ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อรายย่อยเติบโตในตัวเลข 2 หลัก จากยอดสินเชื่อคงค้างรายย่อยอยู่ที่ 1.4 แสนล้านบาท โดยสินเชื่อที่จะโฟกัสและมุ่งเน้นการเติบโตจะเป็นสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ขนาดเล็ก หรือ SSME คาดว่า จะขยายตัวได้ดีขึ้น เนื่องจากธนาคารมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินครบวงจรสำหรับลูกค้ากลุ่มนี้ ประกอบกับกระบวนการปล่อยสินเชื่อที่มีประสิทธิภาพ ช่วยสนับสนุนการเติบโตกลุ่มลูกค้า SSME ได้ดีขึ้น โดยธนาคารตั้งเป้าเติบโต 20% จากปัจจุบันมียอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท
สำหรับตัวเลขการเติบโตปีนี้ อาจจะตํ่ากว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้นปีเล็กน้อย แต่ยังคงเติบโตในกรอบตัวเลข 2 หลัก โดยสินเชื่อที่ชะลอจะเป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ไม่ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพราะการแข่งขันที่รุนแรง ปัจจุบันพอร์ตสินเชื่อที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 1.1 แสนล้านบาท ขณะที่สินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อบัตรเครดิตยังขยายตัวได้ดี โดยพอร์ตสินเชื่อส่วนบุคคลอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท และสินเชื่อบัตรเครดิตอยู่ที่ 8,300 ล้านบาท
“ปีหน้าสินเชื่อรายย่อยน่าจะเติบโตได้ดีตามเศรษฐกิจที่ขยายตัวดีขึ้น เราเองยังตั้งเป้าเติบโต 2 หลัก แต่จะเน้นกลุ่มเอสเอ็มอีขนาดเล็ก เพราะเรามั่นใจในกระบวนการปล่อยสินเชื่อที่มีประสิทธิภาพ และโปรดักต์ที่ครบวงจร ส่วนปีนี้จบปีน่าจะหย่อนเป้าเล็กน้อยแต่ยังอยู่ในกรอบที่เราคาดไว้”
นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจรายย่อย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย(CIMBT) กล่าวว่า จากแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น คาดว่าจีดีพีน่าจะเติบโตอยู่ที่ระดับ 3-4% ซึ่งจะทำให้สินเชื่อทั้งระบบน่าจะขยายตัวได้ประมาณ 5-10% โดยสินเชื่อรายย่อยมองว่า สินเชื่อที่อยู่อาศัยน่าจะเติบโตได้ดีกว่าสินเชื่อส่วนบุคคล เนื่องจากมีภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ประกอบกับหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิตของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำให้การเติบโตชะลอตัวได้ในบางกลุ่มลูกค้า
ปี 2561 ธนาคารตั้งเป้าเติบโตสินเชื่อรายย่อยอยู่ที่ 10-20% จากยอดสินเชื่อคงค้างปัจจุบันอยู่ที่ 1.15 แสนล้านบาท คาดว่าสิ้นปี 2561 พอร์ตสินเชื่อจะเพิ่มเป็น 1.2 แสนล้านบาท พอร์ตสินเชื่อรายย่อยคิดเป็น 50% ของพอร์ตสินเชื่อรวมทั้งธนาคาร ซึ่งธนาคารตั้งเป้าเติบโตสินเชื่อที่อยู่อาศัย 1.6 หมื่นล้านบาท จากปีนี้อยู่ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท ยอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 7 หมื่นล้านบาท
ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) จะรักษาให้อยู่ในระดับ 3.75% จากเป้าต้นปีอยู่ที่ 4% เนื่องจากธนาคารตัดขายพอร์ตเอ็นพีแอลสินเชื่อที่อยู่อาศัยออกไปกว่า 1,000 ล้านบาท
สำหรับสินเชื่อรายย่อยปีนี้คาดว่าขยายตัว 7% ตํ่ากว่าเป้าต้นปี 10% เป็นผลมาจากสินเชื่อส่วนบุคคลหลุดเป้า ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการธปท. ทำให้ความต้องการสินเชื่อลดลงไปบ้างในบางกลุ่ม โดยเฉพาะสินเชื่อปล่อยใหม่ในกลุ่มลูกค้ารายได้ตํ่ากว่า 3 หมื่นบาทต่อเดือน หายไปเกือบ 20% จากปกติจะปล่อยสินเชื่อใหม่เฉลี่ย 30-40% ต่อเดือน
อย่างไรก็ดี ธนาคารมองว่า สินเชื่อส่วนบุคคลยังเป็นสินเชื่อที่ยังเติบโตได้ดี แต่จะเติบโตในกลุ่มเซ็กเมนต์รายได้สูงกว่าเกณฑ์กำกับ ส่วนกลุ่มรายได้ตํ่ากว่าเกณฑ์ธปท.น่าจะลดลง ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนพอร์ตลูกค้าสินเชื่อส่วนบุคคล แบ่งเป็นรายได้ตํ่ากว่า 3 หมื่นบาท มีประมาณ 50% และที่เหลือ 50% เป็นกลุ่มรายได้สูงกว่า 3 หมื่นบาท
นางสาวมิ่งขวัญ พัฒนวงศ์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารส่งเสริมการตลาดลูกค้าบุคคล บมจ.ธนาคารทหารไทย หรือ ทีเอ็มบี กล่าวว่า การแข่งขันธุรกิจรายย่อยในปี 2561 คาดว่าน่าจะรุนแรงโดยเฉพาะการแข่งขันในเรื่องของ National e-Payment ที่จะเห็นสถาบันการเงินลงมาแข่งขันมากขึ้นในเรื่องของโปรโมชัน ส่วนสินเชื่อคาดว่าจะเติบโตมากกว่าปีนี้ โดยปีนี้ธนาคารตั้งเป้าเติบโต 25% โดยสินเชื่อขยายตัวได้ดีจะเป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อส่วนบุคคล และกองทุนรวมต่างๆ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,325 วันที่ 24 - 27 ธันวาคม พ.ศ. 2560
