กนอ. ยืนยัน คำสั่ง ม.44 ในการใช้ประโยชน์ที่ดินในอีอีซี ไม่ได้เอื้อต่อการพิจารณาอีเอชไอเอ ชี้! ได้ทำตามขั้นตอนกฎหมายการมีส่วนร่วมของชุมชน และยึดตามผังเมืองรวม จ.ระยอง ที่บังคับใช้ไปแล้ว
นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า จากความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนกรณีออกคำสั่ง ม.44 ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรื่องข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ในที่ดินในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ว่า เป็นการเอื้อต่อการอนุมัติของคณะกรรมการผู้ชำนาญการการพิจารณารายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในโครงการสร้างท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3 ซึ่งจะถมทะเล และขัดต่อการใช้กฎหมายผังเมืองนั้น
[caption id="attachment_124393" align="aligncenter" width="503"]
นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)[/caption]
ทาง กนอ. ขอยืนยันว่า การออกคำสั่งดังกล่าวไม่เอื้อต่อการพิจารณารายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (อีเอชไอเอ) เนื่องจาก กนอ. ได้จัดทำรายงานอีเอชไอเอ ซึ่งผ่านการมีส่วนร่วมทั้งระดับชุมชน อำเภอ และจังหวัด ที่กำหนดไว้ตามระเบียบครบทั้ง 3 ครั้งไปแล้ว และได้นำเสนอรายงานต่อสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) พิจารณาไปครั้งที่ 1 แล้ว และได้มีการชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมไปยัง สผ. แล้ว
อีกทั้ง กฎหมายผังเมืองที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน เป็นกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวม จ.ระยอง พ.ศ. 2560 ซึ่งมีแผนผังกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินตามที่ได้จำแนกท้ายกฎกระทรวงด้วย และร่างประกาศผังเมืองรวมมาบตาพุด ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่ 7 ที่ได้มีการปิดประกาศ เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียพิจารณาให้ข้อคิดเห็น ข้อคัดค้าน ข้อเสนอแนะ ต่อคณะกรรมการด้านผังเมืองครบ 90 วันแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ การรวบรวมตรวจสอบพิจารณาคำร้อง และแจ้งผลการพิจารณาคำร้องต่อผู้ร้อง (หากมี) ซึ่งจากการตรวจสอบการใช้พื้นที่สำหรับโครงการพัฒนา ‘ท่าเรือมาบตาพุด’ ระยะ 3 พบว่า ไม่ขัดต่อกฎหมายว่าด้วยผังเมืองและร่างประกาศผังเมืองฯ ดังที่กล่าวมา
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,310 วันที่ 2-4 พ.ย. 2560 หน้า 11
| ข่าวที่เกี่ยวข้อง |
1-
กนอ. ชูพื้นที่ 5 หมื่นไร่ เด้งรับอีอีซี
2-
กนอ. เร่งผุดเขตส่งเสริม เท 2 พันล้าน พัฒนาพื้นที่