สู่สวรรคาลัย... โลกอาลัย “มหาราชัน”

พสกนิกรหลอมรวมใจเป็นหนึ่งเดียว ถวายอาลัย “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร” ... คนไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงชาวต่างชาติ เดินทางเข้าร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พร้อมส่งกระแสจิตร่วมเฝ้าแหนเบื้องพระเมรุมาศแห่งพระผู้เสด็จสู่แดนสรวง

นับถอยหลังสู่พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ แม้ยังวิปโยคอาดูร ปวงไทยทั่วโลกต่างหลอมรวมใจขอทำหน้าที่พสกนิกรในรัชสมัยแห่ง “ร.๙” เข้าร่วมงานตามแต่ความพร้อมของตนอย่างพร้อมเพรียง เพื่อน้อมเกล้าถวายฯ ให้สมพระเกียรติยศสูงสุด ท่ามกลางการเตรียมพร้อมรองรับทุกด้านของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังมีจิตอาสานับแสนนับล้าน ขอออกมาทำดี ช่วยงานคนละไม้คนละมือ เพื่อให้งานออกพระเมรุ วันที่ ๒๖ ต.ค. นี้ ต้องถูกจารึกเป็นประวัติศาสตร์ของโลกอีกวันหนึ่ง




… ทั่วโลกร่วมน้อมอาลัย ...
ไม่เพียงคนไทยที่สุดวิปโยคอาดูร ... น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้รายพระนามและรายนามบุคคลสำคัญต่างประเทศที่ยืนยันการเข้าร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร” รวม ๔๒ ประเทศ ประกอบด้วย พระราชวงศ์มากกว่า ๑๔ ประเทศ อาทิ สมเด็จพระราชาธิบดีเลทซีที่ ๓ และพระราชินี แห่งเลโซโท, สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก และพระราชินี แห่งภูฏาน, พระราชวงศ์จากยุโรป รวมทั้ง เจ้าชายอะกิโนะ แห่งญี่ปุ่น

ยังมีผู้นำประเทศและบุคคลสำคัญของโลกอีกกว่า ๑๘ ประเทศ ทั้งประธานาธิบดีทิน จอ แห่งเมียนมา, นายบุน วอลิจิด ประธานประเทศลาว, นายโมฮัมเหม็ด อับดุลเลาะห์ อัลฮับซี ประธานาธิบดีสิงคโปร์, สมเด็จฯ ฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา, นายคริสเตียน วูล์ฟ อดีตประธานาธิบดีเยอรมนี, นายเจมส์ แมททิส รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐอเมริกา รวมทั้ง อาร์คบิชอปเกียม บาสติสตา ดิควอตโตร เอกอัครสมณทูตนครรัฐวาติกัน ประจำสาธารณรัฐอินเดีย และสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล เป็นต้น


… “๙๔ สถานทูตไทย” จัดพิธี ...
ด้านการจัดเตรียมงานในต่างประเทศก็พร้อมแล้ว สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยในต่างประเทศทั้ง ๙๔ แห่งทั่วโลก ได้กำหนดเวลาและสถานที่เรียบร้อยแล้ว โดยสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลที่อยู่ในเขตเวลาใกล้เคียงกับไทย จะจัดในเวลาเดียวกับเมืองไทย คือ เวลา ๑๗.๓๐ น. ส่วนที่อยู่เขตเวลาต่างไปมาก จะกำหนดเวลาที่เหมาะสม แต่จะไม่ก่อนพระราชพิธีในประเทศไทย ทั้งนี้ จะมีการถ่ายทอดสดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพจากประเทศไทย เพื่อให้คนไทยและคนต่างประเทศที่เข้าร่วมพิธีได้ติดตามเสมือนอยู่ในบรรยากาศงานพระราชพิธีจริง

 

[caption id="attachment_223761" align="aligncenter" width="550"] นายกรัฐมนตรีอัญเชิญไฟหลวงพระราชทานมาที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ ๑๘ ต.ค. ๒๕๖๐[/caption]

เมื่อวันที่ ๑๘ ต.ค. ๒๕๖๐ นายกรัฐมนตรีได้รับพระราชทานหีบเพลิงจาก “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร” ประกอบด้วย ดอกไม้จันทน์ ๑ ดอก, ไม้ขีด ๑ กลัก, เทียนชนวน ๑ แท่ง ซึ่งนางบุษยา มาทแล็ง ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แทนรับและจะอัญเชิญหีบเพลิงพระราชทานไปยังสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยทั้ง ๙๔ แห่งทั่วโลก เพื่อไปใช้ประกอบพิธีถวายดอกไม้จันทน์ โดยดอกไม้จันทน์ที่ประชาชนถวายในต่างประเทศทั้งหมดนี้ จะนำส่งกลับมายังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อส่งมอบให้สำนักพระราชวังไปดำเนินการตามแนวทางที่กำหนดต่อไป

 

[caption id="attachment_223762" align="aligncenter" width="550"] สมเด็จพระเทพฯ เสด็จร่วมซ้อมย่อยริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ[/caption]

… ต้อนรับสมบูรณ์แบบ ...
หลังการอัญเชิญพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรขึ้นสู่ยอดพระเมรุมาศ เป็นสัญญาณนับถอยหลังสู่วันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ทุกฝ่ายงานต่างเร่งมือซักซ้อมความพร้อม เพื่อให้ทุกอย่างสมบูรณ์พร้อม ทั้งการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศเสมือนจริง ๒ วันซ้อน ซึ่ง “สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” และ “พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณ วรีนารีรัตน์” เสด็จทรงร่วมฝึกซ้อมอย่างใกล้ชิด เมื่อวันที่ ๒๑-๒๒ ต.ค. ที่ผ่านมา ท่ามกลางประชาชนที่แห่แหนเข้าจับจองพื้นที่เข้าชมการซ้อมใหญ่แน่นขนัด และถึงกับหลั่งน้ำตาทั้งอาลัยอาดูร และปลื้มปีติที่ได้เฝ้าฯ รับเสด็จฯ และได้เห็นความพรักพร้อมยิ่งใหญ่สง่างามของริ้วขบวนพระราชอิสริยยศ

ด้านการจัดทำเครื่องสดประดับพระจิตกาธาน ได้มีการประกอบพิธีบูชาครูช่างแทงหยวก ที่โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ ในพระบรมมหาราชวัง ตามจารีตการแทงหยวก เพื่อความเป็นสิริมงคลและขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนจะเริ่มงานในวันที่ ๒๓ ต.ค. ใช้เวลาแค่ ๒ วัน ๑ คืน ให้เสร็จภายใน ๒๒.๐๐ น. วันที่ ๒๔ ต.ค. และมีกำหนดขึ้นติดตั้งบนพระจิตกาธานในเวลา ๐๕.๐๐ น. วันที่ ๒๕ ต.ค.

ขณะที่ ส่วนราชการ-รัฐวิสาหกิจ ต่างเร่งตกแต่งประดับประดาทั้งพระเมรุมาศจำลอง จัดเตรียมความพร้อมสถานที่โดยรอบด้วยดอกไม้ เน้นดอกดาวเรือง หรือ ดอกไม้สีเหลือง ตลอดจนเต็นท์พักรอ นิทรรศการพระราชกรณียกิจ รวมถึงอาคารที่ทำการ พื้นที่ของหน่วยงานอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อยเหลืองอร่ามไปทั้งประเทศ อาทิ การจัดอุโมงค์ดอกไม้ ๖ ซุ้ม ของผู้ประกอบการค้าดอกไม้ปากคลองตลาด หรือ การจัดนิทรรศการเกี่ยวเนื่องกับ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙” ในหัวข้อต่าง ๆ หลากหลาย โดยประชาชนเฝ้ารอและถ่ายภาพพระเมรุมาศ ซุ้มสัญลักษณ์ ร.๙ และเรื่องราวของพระองค์ท่าน ส่งภาพและเรื่องราวสู่โลกโซเชียลมีเดียอย่างคึกคักไปทั่วประเทศ โดยต่างชื่นชมว่า จัดทำได้ยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ




เช่นเดียวกับ การแสดงมหรสพสมโภช เนื่องในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ โดยกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เป็นผู้รับผิดชอบ ได้ซ้อมใหญ่แต่ละชุดพร้อมแล้ว โดยการเตรียมมหรสพสมโภช ประกอบด้วย ๑.การแสดงโขนหน้าพระที่นั่งทรงธรรม (หน้าพระเมรุมาศ) เรื่อง รามเกียรติ์ชุด “พระรามข้ามสมุทร-ยกรบ” ใช้คนรวมทั้งสิ้นประมาณ ๓๐๐ คน, ๒.การแสดงมหรสพ ณ เวทีกลางแจ้ง บริเวณสนามหลวงด้านทิศเหนือ ๓ เวที ทุกเวทีเริ่มแสดง ๑๘.๐๐ น. ในวันที่ ๒๖ ต.ค. จนถึงเวลา ๐๖.๐๐ น. ของวันรุ่งขึ้น โดยการแสดงทุกเวทีจะหยุดการแสดงเมื่อมีพระราชพิธีในพระเมรุมาศ

๒.๑ เวทีการแสดงหนังใหญ่เบิกหน้าพระ และโขน เรื่อง “รามเกียรติ์” ใช้คนประมาณ ๑,๑๒๐ คน / ๒.๒ เวทีการแสดงหุ่นหลวงและหุ่นกระบอก ประกอบตัวละคร เรื่อง “พระมหาชนก” ใช้คนประมาณ ๔๒๒ คน และ ๒.๓ เวทีการแสดงดนตรีสากล "ธ คือ ดวงใจไทยทั้งหล้า” การบรรเลงและขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ เพลงเทิดพระเกียรติ และบทเพลงที่ประพันธ์ขึ้นถวายอาลัย รวมทั้งการแสดงบัลเล่ต์ เรื่อง “มโนราห์” นาฏยศิลป์ไทยในแบบสากลจากพระอัจฉริยภาพของ “ในหลวง ร.๙” ที่ไม่ค่อยเป็นที่รับรู้กัน เวทีนี้ใช้คนทั้งสิ้น ๙๔๒ คน

การแสดงมหรสพสมโภชในงานออกพระเมรุ ถือเป็นประเพณีที่มีมานานแต่ครั้งโบราณ มีจุดประสงค์ให้ประชาชนชมและถือเป็นงานออกทุกข์ไปในตัว

ด้านการจัดพระเมรุมาศจำลองทุกจังหวัด รวมถึงจุดวางดอกไม้จันทน์ขนาดต่าง ๆ กระจายไปทั้ง ๘๘๔ อำเภอทั่วประเทศ เพื่อรองรับการเข้าร่วมงานของประชาชน คาดว่า ผู้คนจะออกจากบ้านหลั่งไหลเดินทาง ทั้งที่มุ่งตรงสู่ท้องสนามหลวง หรือ จุดวางดอกไม้จันทน์ในพื้นที่กันอย่างเนืองแน่น มีการขอร่วมทำดีเพื่อพ่อ เตรียมบริการอาหาร น้ำดื่ม จุดแวะพัก แก่ผู้เดินทางตามกำลังแห่งตน บริการขนส่งสาธารณะแทบทุกระบบทุกโครงการ เปิดให้บริการโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ขณะที่หน่วยงานดูแลประชาชนที่จะเข้าร่วมพระราชพิธีต่างเตรียมพร้อมเต็มอัตรา




… ประเมินกว่า ๕,๐๐๐,๐๐๐ คน ...
หลังคลื่นมหาชนปักหลักเฝ้าหน้าจุดคัดกรองข้ามคืน เพื่อรอเข้าชมการซ้อมใหญ่เสมือนจริงครั้งสุดท้าย “ขบวนพระบรมราชอิสริยยศ” เมื่อวันที่ ๒๑ - ๒๒ ต.ค. ที่ผ่านมา แน่นขนัด และไม่ย้อท้อต่อสภาพอากาศ ที่เจอทั้งแดดร้อนจัดหรือสายฝนกระหน่ำ โดย พ.ญ.วันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ออกตรวจความพร้อมจุดบริการประชาชนต่าง ๆ กล่าวว่า ในวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพวันที่ ๒๖ ต.ค. นี้ คาดการณ์ประชาชนที่จะเข้ามากรุงเทพมหานครน่าจะมีมากกว่า ๓ - ๕ ล้านคน

“หากไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวงได้จริง ๆ ก็อยากให้ประชาชนไปร่วมพิธีตามจุดต่าง ๆ ของพระเมรุมาศจำลอง และซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ที่ทางการจัดเตรียมไว้ให้”


หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ ๓๗ ฉบับที่ ๓,๓๐๘ วันที่ ๒๖-๒๘ ต.ค. ๒๕๖๐