๓๓๗ วัน น้อมศิระกราน กราบสักการะพระบรมศพ
๓๓๗ วัน น้อมศิระกราน กราบสักการะพระบรมศพ | นับตั้งแต่วินาทีแรกของเช้าวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๙ ที่เหล่าพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าจากทั่วทุกสารทิศปักหมุดหมาย เพื่อหลอมรวมดวงใจเป็นหนึ่งเดียว เข้ากราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จนถึงวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๐ วันสุดท้าย รวม ๓๓๗ วัน รวมจำนวนทั้งสิ้นกว่า ๑๒,๗๓๙,๕๓๑ คน นับเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของแผ่นดินไทย ที่พลังศรัทธาจากดวงใจของประชาชนในทั่วทุกภูมิภาค รวมถึงในส่วนต่าง ๆ ของโลก มุ่งตรงมา ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท สถานที่ประดิษฐานพระบรมศพมหากษัตราธิราชแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ตั้งแต่ครั้งรัชกาลที่ ๑
บรรยากาศในวันพฤหัสบดีที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๐ แม้ในช่วงเช้าจะมีฝนโปรยปรายลงมา แต่ช่วงสายตลอดจนช่วงเย็นจนถึงวินาทีสุดท้าย มีเมฆฝนสลับกับแดดฟ้าโทนสีเหลืองปนเมฆหมอกสีเทาจาง ๆ ตามจุดต่าง ๆ ของพระราชวัง แม้อากาศจะร้อนจนหยาดเหงื่อไหลลงมาผสมกับน้ำตาและละอองของเม็ดฝน แต่ทุกคนต่างพร้อมใจต่อแถวอย่างเป็นระเบียบ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน พร้อมกับมอบน้ำใจให้แก่กัน แแสดงออกถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ซึ่งในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงเน้นย้ำและปลูกฝังปวงชนชาวไทยอยู่เสมอ ให้มีความสามัคคี เพราะความสามัคคีเป็นกำลังอย่างสูงสุดของหมู่ชน ประชาชนที่หลั่งไหลมามากกว่า ๑๑๐,๘๘๙ คน ทำให้ท้ายแถวประชาชนที่เข้ามาต่อคิวกราบพระบรมศพ ยาวไปถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยประชาชนกลุ่มสุดท้ายได้เข้ากราบสักการะพร้อมกับเจ้าหน้าที่อาสาและแพทย์พยาบาลที่ให้บริการประชาชนในพื้นที่โดยรอบพระบรมมหาราชวัง เมื่อเวลาประมาณ ๒ นาฬิกา ของวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๐ บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าสลด ปิดฉาก ๓๓๗ วัน น้อมศิระกราน กราบสักการะพระบรมศพ ด้วยการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีร่วมกันบริเวณด้านหน้าประตูวิเศษไชยศรี พระบรมมหาราชวัง ก่อนภาพสุดท้ายของยอดพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทจะหายลับไปกับตา
ในการนี้ วันที่ ๗, ๑๕, ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ จะมีการปิดถนน ๑๓ เส้นทาง และวันที่ ๒๕-๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๐ จำนวน ๑๘ เส้นทาง เพื่อซ้อมใหญ่กำลังพลฉุดชักราชรถเสมือนจริง ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทั้งนี้ วันงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในพื้นที่กรุงเทพฯ จะเปิดให้ประชาชนถวายดอกไม้จันทน์ได้ทุกพระเมรุมาศจำลองในกรุงเทพฯ ๙ แห่ง และตามวัดต่าง ๆ ทั้ง ๕๐ เขต รวม ๑๑๓ ซุ้ม
สามารถเข้าดูรายละเอียดพระเมรุมาศจำลองใกล้บ้าน ได้ที่ www.kingrama9.th หรือสอบถามเกี่ยวกับงานพระราชพิธี ได้ที่สายด่วน ๑๔๔๑
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,303 วันที่ 8-11 ต.ค. 2560
บรรยากาศในวันพฤหัสบดีที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๐ แม้ในช่วงเช้าจะมีฝนโปรยปรายลงมา แต่ช่วงสายตลอดจนช่วงเย็นจนถึงวินาทีสุดท้าย มีเมฆฝนสลับกับแดดฟ้าโทนสีเหลืองปนเมฆหมอกสีเทาจาง ๆ ตามจุดต่าง ๆ ของพระราชวัง แม้อากาศจะร้อนจนหยาดเหงื่อไหลลงมาผสมกับน้ำตาและละอองของเม็ดฝน แต่ทุกคนต่างพร้อมใจต่อแถวอย่างเป็นระเบียบ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน พร้อมกับมอบน้ำใจให้แก่กัน แแสดงออกถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ซึ่งในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงเน้นย้ำและปลูกฝังปวงชนชาวไทยอยู่เสมอ ให้มีความสามัคคี เพราะความสามัคคีเป็นกำลังอย่างสูงสุดของหมู่ชน ประชาชนที่หลั่งไหลมามากกว่า ๑๑๐,๘๘๙ คน ทำให้ท้ายแถวประชาชนที่เข้ามาต่อคิวกราบพระบรมศพ ยาวไปถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยประชาชนกลุ่มสุดท้ายได้เข้ากราบสักการะพร้อมกับเจ้าหน้าที่อาสาและแพทย์พยาบาลที่ให้บริการประชาชนในพื้นที่โดยรอบพระบรมมหาราชวัง เมื่อเวลาประมาณ ๒ นาฬิกา ของวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๐ บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าสลด ปิดฉาก ๓๓๗ วัน น้อมศิระกราน กราบสักการะพระบรมศพ ด้วยการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีร่วมกันบริเวณด้านหน้าประตูวิเศษไชยศรี พระบรมมหาราชวัง ก่อนภาพสุดท้ายของยอดพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทจะหายลับไปกับตา
ในการนี้ วันที่ ๗, ๑๕, ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ จะมีการปิดถนน ๑๓ เส้นทาง และวันที่ ๒๕-๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๐ จำนวน ๑๘ เส้นทาง เพื่อซ้อมใหญ่กำลังพลฉุดชักราชรถเสมือนจริง ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทั้งนี้ วันงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในพื้นที่กรุงเทพฯ จะเปิดให้ประชาชนถวายดอกไม้จันทน์ได้ทุกพระเมรุมาศจำลองในกรุงเทพฯ ๙ แห่ง และตามวัดต่าง ๆ ทั้ง ๕๐ เขต รวม ๑๑๓ ซุ้ม
สามารถเข้าดูรายละเอียดพระเมรุมาศจำลองใกล้บ้าน ได้ที่ www.kingrama9.th หรือสอบถามเกี่ยวกับงานพระราชพิธี ได้ที่สายด่วน ๑๔๔๑
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,303 วันที่ 8-11 ต.ค. 2560
