แบงก์สะเทือนแสนล้าน กู้สร้างโกดังข้าวส่อNPL
คลังลั่น ก.ย.นี้ เตรียมปิดบัญชีจำนำข้าวปีสุดท้าย หลังโละข้าวหมดสต๊อก เผยรัฐคืนเงินกู้ค่าข้าวแล้ว 3.5 แสนล้าน วงในสั่งจับตาโกดังข้าวระสํ่าหลังหมดสัญญาให้เช่า กระทบแบงก์ปล่อยกู้แสนล้านสะเทือน
นับว่าเป็นผลงานชิ้นโบแดงของรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ภายใน 3 ปี ข้าวทางบัญชี 8 ล้านตัน หมดสต๊อกแล้ว ที่เหลืออยู่ในระหว่างการส่งมอบข้าวตามสัญญาระหว่างฝ่ายคลัง องค์การคลังสินค้า (อคส.)และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) กับผู้ซื้อข้าวที่ได้ประมูลไป
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ผลการขาดทุนทางบัญชี ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โครงการปี 2554-2557 ปิดบัญชีวันที่ 30 กันยายน 2557 ขาดทุน 5.36 แสนล้านบาท ขณะที่ปิดบัญชีวันที่ 30 กันยายน 2558 ขาดทุน 5.81 แสนล้านบาท เช่นเดียวกันที่ปิดบัญชีวันที่ 30 กันยายน 2559 ขาดทุน 5.81 แสนล้านบาท ส่วนวันที่ 30 กันยายน 2560 จะปิดบัญชีจำนำข้าวเป็นปีสุดท้าย ปัจจุบันรัฐบาลขายข้าวได้คืนเงินกู้ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แล้ว 3.5 แสนล้านบาท คาดถ้าขายข้าวได้ทั้งหมดจะคืนเงินกู้ให้ ธ.ก.ส. ประมาณ 4 แสนล้านบาทเศษ
“เมื่อรัฐระบายข้าวหมดแล้ว สิ่งที่น่าจับตาคือคลังเก็บข้าวที่ผู้ประกอบการได้ไปกู้เงินจากแบงก์มาลงทุนเพื่อให้รัฐบาลเช่า ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากจะมีปัญหาทันทีเพราะไม่รู้จะไปทำอะไร ปัญหาตรงนี้จะลามกระทบกับธนาคารต่างๆ ที่ปล่อยสินเชื่อซึ่งปล่อยกู้รวมกันไม่น่าตํ่ากว่าแสนล้านบาท”
[caption id="attachment_124379" align="aligncenter" width="503"]
อนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมการข้าว[/caption]
ด้านแหล่งข่าวจากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เผยถึงสถานการณ์ข้าวโลกว่า กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ได้คาดการณ์ผลผลิตข้าวโลกปี 2560/61 ประจำเดือนสิงหาคม 2560 ว่าจะมีผลผลิต 482.59 ล้านตันข้าวสาร (719.9 ล้านตันข้าวเปลือก) ลดลงจาก 483.92 ล้านตันข้าวสาร (721.7 ล้านตันข้าวเปลือก) หรือลดลง 0.28% จากปี 2559/60 ทั้งนี้จะมีการใช้ในประเทศ 479.06 ล้านตันข้าวสาร ลดลงจากปีที่ผ่านมา 0.26% การส่งออก-นำเข้าจะมี 43.91 ล้านตันข้าวสาร เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 1.38% และสต๊อกปลายปีคงเหลือ 122.918 ล้านตันข้าวสาร เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 2.95%
สอดคล้องกับนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า ปีนี้ฝนตกดี สต๊อกข้าวไทยไม่มีแล้ว จึงทำให้ปีนี้ได้สนับสนุนให้ชาวนาปลูกข้าวในปี 2560/2561 รอบ 1 ทั่วประเทศอย่างเต็มที่รวม 58 ล้านไร่ (ดูกราฟิกประกอบ) ล่าสุดปลูกไปแล้ว 54 ล้านไร่ ส่วนพื้นที่ลุ่มตํ่าบางระกำ และทุ่งเชียงราก ประสบความสำเร็จให้ทำนาเร็วขึ้น เพราะจะใช้พื้นที่ดังกล่าวรับมือนํ้าหลากในลุ่มนํ้าเจ้าพระยาในเดือนกันยายน-ตุลาคมนี้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,298 วันที่ 21 - 23 กันยายน พ.ศ. 2560
นับว่าเป็นผลงานชิ้นโบแดงของรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ภายใน 3 ปี ข้าวทางบัญชี 8 ล้านตัน หมดสต๊อกแล้ว ที่เหลืออยู่ในระหว่างการส่งมอบข้าวตามสัญญาระหว่างฝ่ายคลัง องค์การคลังสินค้า (อคส.)และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) กับผู้ซื้อข้าวที่ได้ประมูลไป
“เมื่อรัฐระบายข้าวหมดแล้ว สิ่งที่น่าจับตาคือคลังเก็บข้าวที่ผู้ประกอบการได้ไปกู้เงินจากแบงก์มาลงทุนเพื่อให้รัฐบาลเช่า ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากจะมีปัญหาทันทีเพราะไม่รู้จะไปทำอะไร ปัญหาตรงนี้จะลามกระทบกับธนาคารต่างๆ ที่ปล่อยสินเชื่อซึ่งปล่อยกู้รวมกันไม่น่าตํ่ากว่าแสนล้านบาท”
[caption id="attachment_124379" align="aligncenter" width="503"]
ด้านแหล่งข่าวจากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เผยถึงสถานการณ์ข้าวโลกว่า กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ได้คาดการณ์ผลผลิตข้าวโลกปี 2560/61 ประจำเดือนสิงหาคม 2560 ว่าจะมีผลผลิต 482.59 ล้านตันข้าวสาร (719.9 ล้านตันข้าวเปลือก) ลดลงจาก 483.92 ล้านตันข้าวสาร (721.7 ล้านตันข้าวเปลือก) หรือลดลง 0.28% จากปี 2559/60 ทั้งนี้จะมีการใช้ในประเทศ 479.06 ล้านตันข้าวสาร ลดลงจากปีที่ผ่านมา 0.26% การส่งออก-นำเข้าจะมี 43.91 ล้านตันข้าวสาร เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 1.38% และสต๊อกปลายปีคงเหลือ 122.918 ล้านตันข้าวสาร เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 2.95%
สอดคล้องกับนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า ปีนี้ฝนตกดี สต๊อกข้าวไทยไม่มีแล้ว จึงทำให้ปีนี้ได้สนับสนุนให้ชาวนาปลูกข้าวในปี 2560/2561 รอบ 1 ทั่วประเทศอย่างเต็มที่รวม 58 ล้านไร่ (ดูกราฟิกประกอบ) ล่าสุดปลูกไปแล้ว 54 ล้านไร่ ส่วนพื้นที่ลุ่มตํ่าบางระกำ และทุ่งเชียงราก ประสบความสำเร็จให้ทำนาเร็วขึ้น เพราะจะใช้พื้นที่ดังกล่าวรับมือนํ้าหลากในลุ่มนํ้าเจ้าพระยาในเดือนกันยายน-ตุลาคมนี้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,298 วันที่ 21 - 23 กันยายน พ.ศ. 2560
