ดีเดย์ใช้1ตุลาคมบัตรสวัสดิการรัฐเฟสแรกอุ้มคนจน

17 ก.ย. 2560 | 10:32 น.
โครงการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องวงเงินในบัตรพร้อมตั้งข้อสังเกตเรื่องการใช้เงินงบประมาณของรัฐบาลว่าจะปิดรูรั่วเหมือนการจ่ายเงินคนจนในอดีตได้หรือไม่ แต่วันที่ 21 กันยายนนี้ ประชาชนที่มาลงทะเบียนระหว่างวันที่ 3 เมษายน-15 พฤษภาคม 2560 ก็จะได้บัตรตัวจริงกันแล้ว เพื่อให้นำไปใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป

แต่ก่อนจะเดินทางไปรับบัตรยังหน่วยที่เคยไปลงทะเบียนไว้ ต้องตรวจสอบรายชื่อก่อนว่า เป็นผู้มีสิทธิหรือไม่ ซึ่งกระทรวงการคลังได้ประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านคุณสมบัติทั้งหมด 11,431,681 คน จากจำนวนคนลงทะเบียนทั่วประเทศ 14,176,170 คน ไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน ผ่าน 3 ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบด้วยตัวเอง ผ่านเว็บไซต์หน่วยงานราชการ ทั้ง www.epayment.go.th www.mof.go.th และ www.fpo.go.th เพียงพิมพ์เลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลักลงไปในช่องที่กำหนด ระบบจะแจ้งผลการตรวจสอบทันที

หรือใครที่ไม่สะดวก ก็สามารถโทรศัพท์สอบถามผ่านสายด่วนของ 6 หน่วยงานราชการอย่าง สศค.1359 ธ.ก.ส. 0-2555-0555 ออมสิน 1115 กรุงไทย 0-2111-1111 กรมบัญชีกลาง 0-2270-6400 และสำนักงานเขต กทม.ทั้ง 50 เขต แต่ต้องในเวลาราชการเท่านั้น และใครที่อยู่ต่างจังหวัด ก็สามารถสอบถาม ณ ที่ทำการกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือหน่วยงานปกครองท้องถิ่นได้โดยตรง

ส่วนใครที่อยู่ในกลุ่ม 2,744,489 คน ซึ่งไม่ได้รับบัตรสวัสดิการในครั้งนี้ สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 29 กันยายน ซึ่งสามารถอุทธรณ์ผ่านเว็บไซต์ของหน่วยงานทั้ง 3 แห่งได้ทันที ซึ่งหน้าจอจะมีคำว่า “ยื่นคำขออุทธรณ์” ซึ่งหน่วยงานตรวจสอบจะใช้เวลา 1 สัปดาห์ ก็จะรู้ทันทีว่า เหตุไม่ผ่านติดขัดเรื่องอะไร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น มีที่ดินครอบครอง มีบัญชีเงินฝากและมีรายได้ และกระทรวงการคลังจะประกาศผลการอุทธรณ์ในวันที่ 24 ตุลาคม 2560

MP23-3297-A สำหรับความช่วยเหลือที่ผู้มีรายได้น้อยจะได้รับในครั้งนี้ แบ่งเป็น 2 หมวดคือ หมวดลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน เช่นค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น และหมวดลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แบ่งเป็น วงเงินค่าโดยสารรถเมล์/รถไฟฟ้า ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อคนต่อเดือน และวงเงินค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อคนต่อเดือน ซึ่งขณะนี้จุดให้บริการทั้งรถไฟ บขส. 655 จุดได้ติดตั้งเครื่องอ่านบัตรหรือ เครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (อีดีซี) ไว้พร้อมแล้ว

โครงการประชารัฐสวัสดิการครั้งนี้ เป็นการให้วงเงินในบัตรเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการ ผ่านเครื่องอีดีซี ซึ่งเมื่อใช้แล้ววงเงินจะลดลงตามยอดที่ใช้จ่าย และวงเงินจะถูกปรับเป็นค่าเริ่มต้นของวงเงินในแต่ละสวัสดิการเสมอ เมื่อถึงรอบวันที่ 1 ของทุกเดือน ยกเว้นวงเงินค่าซื้อก๊าซหุงต้ม จะทุกวันที่ 1 ของทุก 3 เดือน ซึ่งเงินคงเหลือของเดือน จะไม่มีการสะสมในเดือนถัดไป

นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ยํ้าว่าบัตรยังมีคุณสมบัติเป็นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ที่สามารถเติมเงินลงในบัตร และถอนเงินสดที่ตู้ ATM ได้ แต่จะถอนได้เฉพาะวงเงินที่เติมเข้าไปเท่านั้น ไม่สามารถถอนในส่วนที่เป็นวงเงินของรัฐได้

ที่สำคัญการนำไปใช้จะต้องตรงกับตัวบุคคลที่ระบุบนหน้าบัตรเท่านั้น เว้นแต่ ผู้พิการ ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง สามารถให้ผู้ดูแลเป็นผู้ใช้สิทธิแทนได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด แต่หากตรวจพบว่า ให้ผู้อื่นนำบัตรไปใช้ เจ้าของบัตรจะถูกตัดสิทธิทันที ขณะที่ผู้ที่นำไปใช้มีความผิด ต้องชดใช้เงินคืนให้กับทางราชการด้วย

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะทำให้รัฐสามารถช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยได้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพหรือไม่ ต้องติดตามหลังจากที่มีการนำบัตรไปใช้แล้ว เพราะนี่เป็นเพียงเฟสแรกเท่านั้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,297 วันที่ 17 - 20 กันยายน พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9-1-5