เมื่ออัยการใช้บท‘เข้ม’ หล่อหลอมจริยธรรม (จบ)

09 ส.ค. 2560 | 23:26 น.
TP07-3286-D ผู้เขียนในฐานะเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ ก.อ.ด้วยคนหนึ่งขอยืนยันว่า เป็นความจริงทุกประการ โดยรายแรกเป็นสตรี คณะก.อ.มีมติเห็นพ้องตามที่คณะกรรมการเบื้องต้นเสนอ ให้ลงโทษสถาน “ให้ออก” ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553 ส่วนรายที่ 2 เป็นชาย โดย ก.อ.มีมติให้ออกจากข้าราชการอัยการ 2 รายรวดเช่นกันในวันเดียวกัน ทั้งนี้ โดยคณะกรรมการ มีจุดมุ่งหมาย เพื่อที่จะให้เป็น “อุทาหรณ์” ในการหล่อหลอมพัฒนาพนักงานอัยการในองค์กรและให้พนักงานอัยการทุกคนอยู่ในกรอบแห่งคุณธรรม จริยธรรม อย่างเคร่งครัดตามที่วางเป้าหมายเอาไว้ในระเบียบ
อย่าได้แปลกใจ...ไย? จึงไม่เขียนชื่อพนักงานอัยการที่ถูกสั่งให้ออก เพื่อสาธารณชนได้ทราบ เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู? ต้องขอเรียนว่า การลงโทษครั้งนี้ 2 อดีตอัยการก็ได้รับชะตากรรมและบทเรียนอันเจ็บปวด และน่าสงสารมากอยู่แล้ว...ว่าไหม?!

ทั้งนี้ ผู้ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) ต่างตระหนักในบทบาทหน้าที่ จึงจำต้องลงโทษตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏและข้อกฎหมายตามความผิดที่กฎหมายบัญญัติ ด้วยความเฉียบขาด เพื่อให้เกิดความเที่ยงธรรม และการรักษาองค์กรอัยการให้เป็นที่พึ่งและศรัทธาของประชาชนอย่างแท้จริงสืบไป

TP07-3286-CC ดังนั้น ผู้เขียนในฐานะที่เป็นก.อ. มาแล้ว 3 สมัย และเป็นเนติบัณฑิตไทย (รุ่นพี่) จึงขอฝากเตือนพนักงานอัยการรุ่นน้องๆ ว่า ...จงดำรงอยู่ในตำแหน่งอัยการอันทรงเกียรติยศ ซึ่งได้มาด้วยความยากลำบากนี้ ด้วยความไม่ประมาท เพื่อความยั่งยืนมั่นคงแห่งชีวิตราชการ ด้วยการรักษาวินัยโดยอาศัยระบบคุณธรรม และยึดมั่นในกรอบแห่งจริยธรรม อย่างเคร่งครัด ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งเร้า, ไม่เห็นแก่อามิสสินจ้าง ซึ่งจะเป็นเสมือนเกาะป้องกันชั้นดี อีกทั้งเพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์อันน่าเจ็บปวดซํ้ารอย ...เช่นกรณีนี้อีก

ที่สำคัญ เป็นแนวทางหล่อหลอมจริยธรรมให้เป็นคนดีมีคุณ ธรรม ดังที่ H.W. Beecher ได้กล่าวไว้ว่า...
“การจะตีโลหะให้กลายเป็นเหล็กกล้าอันแข็งแกร่ง หรือสร้างคนให้มีคุณค่าสูงส่ง...พระผู้เป็นเจ้า มักจะส่งเราไปหล่อหลอมอย่างเข้มข้นก่อนเสมอ”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,286 วันที่ 10 -12 สิงหาคม พ.ศ. 2560