ขบ.ตรวจเข้มฝ่าฝืนใช้รถบัสป้ายแดงรับส่งนักท่องเที่ยวโทษปรับสูงสุด 5หมื่น

29 ก.ค. 2560 | 06:20 น.
กรมการขนส่งทางบก ร่วมกับ หน่วยทหาร ตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมธุรกิจท่องเที่ยว กรมสรรพากร และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ตรวจเข้มต่อเนื่อง การกระทำความผิดฝ่าฝืนใช้รถบัสที่ยังไม่จดทะเบียน (ป้ายแดง) มารับส่งนักท่องเที่ยวทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดท่องเที่ยว พร้อมยกระดับมาตรการทางกฎหมายเข้มข้นปรับสูงสุด 50,000 บาททุกราย

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบก ร่วมกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ หน่วยทหาร ตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรมธุรกิจท่องเที่ยว กรมสรรพากร และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ตรวจสอบผู้ประกอบการที่เข้าข่ายทัวร์ศูนย์เหรียญตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้ดำเนินการปราบปรามบริษัททัวร์ผิดกฎหมาย และให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม ในส่วนของกรมการขนส่งทางบกดำเนินนโยบายควบคุม กำกับ ดูแลการขนส่งทางถนนอย่างเข้มข้นจริงจัง บังคับใช้กฎหมายขั้นเด็ดขาดในทุกกรณีความผิด โดยเฉพาะประเด็นการนำรถโดยสารที่ยังไม่จดทะเบียน (ป้ายแดง) มาให้บริการรับส่งนักท่องเที่ยวในพื้นที่ท่องเที่ยวต่างๆ เช่น

sanit

ในกรุงเทพมหานครบริเวณเชิงสะพานพระปิ่นเกล้า, จุดจอดรถฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต, ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ท่าอากาศยานดอนเมือง และเขตจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต, ชลบุรี และจังหวัดที่นักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความนิยม ซึ่งนอกจากเป็นการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ฐานใช้รถที่ไม่ได้จดทะเบียนมาประกอบการขนส่งแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในการให้บริการและส่งผลต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ กรมการขนส่งทางบกจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เฉพาะวันที่ 1 ตุลาคม 2559 - 16 กรกฎาคม 2560 พบการฝ่าฝืนใช้รถโดยสารที่ยังไม่จดทะเบียน (ป้ายแดง) ลักลอบให้บริการจำนวนทั้งสิ้น 1,282 ราย โดยได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายแล้วทุกราย

ทั้งนี้ เนื่องจากยังตรวจสอบพบการฝ่าฝืนซ้ำซากของผู้ประกอบการบางราย กรมการขนส่งทางบกจึงยกระดับความเข้มข้นบังคับใช้กฎหมายขั้นสูงสุดเด็ดขาด ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม 2560 เป็นต้นไป หากพบผู้ประกอบการฝ่าฝืนใช้รถโดยสารที่ยังไม่จดทะเบียน (ป้ายแดง) ออกให้บริการ ดำเนินการเปรียบเทียบปรับในอัตราโทษสูงสุดทันที 50,000 บาททุกกรณี นับตั้งแต่เริ่มใช้มาตรการปรับสูงสุดเด็ดขาด พบผู้กระทำความผิดทั้งสิ้น 159 ราย ดำเนินการลงโทษขั้นสูงสุดทุกราย และบันทึกประวัติการกระทำความผิดที่ศูนย์ข้อมูลประวัติผู้ขับรถเพื่อติดตามพฤติกรรม พร้อมขอความร่วมมือไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) ให้เข้มงวดตรวจสอบและจับกุมรถโดยสารที่ประกอบการโดยไม่จดทะเบียนดังกล่าวด้วย

เพื่อนำข้อมูลการกระทำผิดมาใช้ประกอบการพิจารณาเกี่ยวกับการขออนุญาตบรรจุ หรือเพิ่มรถในใบอนุญาตประกอบการขนส่ง และหากยังพบการกระทำความผิดจะได้พิจารณาพักใช้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบการขนส่งและใบอนุญาตขับรถ เพื่อให้การปราบปรามและแก้ไขปัญหาการใช้รถโดยสารป้ายแดงมาให้บริการผิดกฎหมายมีประสิทธิภาพสูงสุด

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า การให้บริการรถโดยสารนำเที่ยวที่ถูกต้องตามกฎหมาย ผู้ประกอบการขนส่งจะต้องมีใบอนุญาตประกอบการขนส่ง ขอบรรจุในประกอบการโดยต้องดำเนินการจดทะเบียนรถตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ให้เรียบร้อย ซึ่งจะได้รับแผ่นป้ายทะเบียนที่มีพื้นสีเหลืองตัวอักษรสีดำ ต้องจัดทำประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
พ.ศ.2535 ทั้งภาคบังคับและเพิ่มเติม เพื่อการคุ้มครองผู้โดยสารกรณีเกิดอุบัติเหตุความสูญเสียขึ้น คนขับรถต้องมีใบอนุญาตขับรถตรงตามประเภท ผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมและมีข้อมูลในศูนย์ข้อมูลประวัติผู้ขับรถสาธารณะของกรมการขนส่งทางบก

ดังนั้น เพื่อให้การขนส่งทางบกเป็นไปด้วยความมีระเบียบเรียบร้อยและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ทั้งผู้ประกอบการและประชาชน กรมการขนส่งทางบกจะเข้มงวดจับกุมเพื่อป้องปรามการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งอาจนำมาสู่ปัญหาความปลอดภัยและการให้บริการนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้มาตรฐาน ขาดการกำกับดูแลจากภาครัฐ ส่งผลกระทบกับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวและประเทศ

Fax. 0-2271-8805