ร้านขนมหวานแข่งดุ‘โคล สโตน’ดิ้นสู้
"โคล สโตน" รับเทรนด์ธุรกิจร้านขนมหวานไทยแข่งดุ ชงแผน 5 ปีทุ่ม 250 ล้านบาทสยายปีก 50 แห่งทั่วประเทศ พร้อมปรับกลยุทธ์ไซซ์ซิ่ง เน้นบริการ หวังโกยยอดขาย 600 ล้านบาท
นางวชิราภรณ์ วานิชชัย ผู้อำนวยการอาวุโส แบรนด์ โคล สโตน ครีมเมอรี่ ในเครือบริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ ซีอาร์จี เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการรองรับธุรกิจของหวานเมืองไทยที่มีผู้เล่นในแต่ละเซกเมนต์เข้ามาแข่งขันกันจำนวนมาก ล่าสุดบริษัทวางเป้าหมายระยะยาว 5 ปีนับจากนี้ด้วยการขยายสาขาให้ครบ 50 แห่งทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด จากปัจจุบันที่มีสาขาอยู่ทั้งสิ้น19 แห่ง โดยใช้งบลงทุนเฉลี่ยสาขาละ 5 ล้านบาท หรือคิดเป็นเงินลงทุนราว 250 ล้านบาท พร้อมกับตั้งเป้ายอดขายไม่ต่ำกว่า 500-600 ล้านบาท
โดยในปีนี้บริษัทมีแผนใช้เงินลงทุนกว่า 45 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณการขยายสาขาและตกแต่งร้าน 70% งบประมาณการตลาด 30% โดยช่วงครึ่งปีหลังจากนี้มีแผนจะขยายสาขาเพิ่มอีก 9 แห่ง หลังจากที่ครึ่งปีแรกขยายสาขาไปแล้ว 1 แห่งนอกจากนี้ยังมีแผนการเปิดสาขาในรูปแบบสแตนอะโลน โดยเบื้องต้นอยู่ระหว่างการศึกษาโลเคชั่น ซึ่งเป็นสถานศึกษาและมหาวิทยาลัย
[caption id="attachment_172556" align="aligncenter" width="352"]
วชิราภรณ์ วานิชชัย[/caption]
"ธุรกิจของหวานในเมืองไทยมีการแข่งขันกันสูงมาก มีร้านขนมหวานประเภทต่างๆเกิดขึ้นมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อตลาดไอศกรีมเนื่องจากผู้บริโภคบางส่วนมีการสวิซซ์ไปรับประทานของหวานแบบใหม่ที่หลากหลายขึ้น ทำให้ช่วง 3 ปีที่ผ่านมาโคล สโตนต้องปรับกลยุทธ์ทางการตลาดทั้งรูปแบบเมนู ขนาด และโปรโมชั่นส่งเสริมการขยายเข้ามาร่วมมากขึ้นซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี และต้องยอมรับว่าตลาดของหวานทิศทางการทำตลาดส่วนหนึ่งมาจากเทรนด์คล้ายกับธุรกิจแฟชั่นต้องมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ตลอดเวลา ซึ่งหากแบรนด์ไหนสามารถอยู่ได้นานถึง 3 ปีนั่นแปลว่าแบรนด์สามารถอยู่ได้ในตลาดเมืองไทยแล้ว"
ด้านกลยุทธ์ตลาด บริษัทพัฒนาทั้งรูปแบบสินค้า ราคา ขนาด และการบริการให้เหมาะกับผู้บริโภคชาวไทย พร้อมใช้งบประมาณด้านการตลาด 15% จากยอดขาย และเน้นการตลาดเชิงรุกมากขึ้น เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าพร้อมกันนี้ยังมีการจัดกิจกรรมที่เป็นไฮไลท์ประจำปีแคมเปญ Cold Stone Creamery Free Ice cream Day ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ให้ลูกค้าได้อร่อยกับไอศกรีมมิกซ์อิน ระดับซูปเปอร์พรีเมียม ฟรีในวันที่ 7 เดือน 7 ปี 2017 ด้วย
สำหรับภาพรวมตลาดไอศกรีมเมืองไทยมีมูลค่า 8,000 ล้านบาท เติบโต 17.6% โดยคาดว่าปีนี้จะมีการเติบโต 20% ขณะที่โคล สโตนในครึ่งปีแรกมีการเติบโตกว่า 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมั่นใจว่าตลอดทั้งปีจะสามารถสร้างการเติบโตได้ 20% แบ่งเป็นสัดส่วนยอดขายที่มาจากร้านโคล สโตน 80% ,โมบาย เอาท์เล็ต 9%,เดลิเวอรี่ 5% และแคธอริ่ง 6%
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,275 วันที่ 2 - 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
นางวชิราภรณ์ วานิชชัย ผู้อำนวยการอาวุโส แบรนด์ โคล สโตน ครีมเมอรี่ ในเครือบริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ ซีอาร์จี เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการรองรับธุรกิจของหวานเมืองไทยที่มีผู้เล่นในแต่ละเซกเมนต์เข้ามาแข่งขันกันจำนวนมาก ล่าสุดบริษัทวางเป้าหมายระยะยาว 5 ปีนับจากนี้ด้วยการขยายสาขาให้ครบ 50 แห่งทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด จากปัจจุบันที่มีสาขาอยู่ทั้งสิ้น19 แห่ง โดยใช้งบลงทุนเฉลี่ยสาขาละ 5 ล้านบาท หรือคิดเป็นเงินลงทุนราว 250 ล้านบาท พร้อมกับตั้งเป้ายอดขายไม่ต่ำกว่า 500-600 ล้านบาท
โดยในปีนี้บริษัทมีแผนใช้เงินลงทุนกว่า 45 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณการขยายสาขาและตกแต่งร้าน 70% งบประมาณการตลาด 30% โดยช่วงครึ่งปีหลังจากนี้มีแผนจะขยายสาขาเพิ่มอีก 9 แห่ง หลังจากที่ครึ่งปีแรกขยายสาขาไปแล้ว 1 แห่งนอกจากนี้ยังมีแผนการเปิดสาขาในรูปแบบสแตนอะโลน โดยเบื้องต้นอยู่ระหว่างการศึกษาโลเคชั่น ซึ่งเป็นสถานศึกษาและมหาวิทยาลัย
[caption id="attachment_172556" align="aligncenter" width="352"]
"ธุรกิจของหวานในเมืองไทยมีการแข่งขันกันสูงมาก มีร้านขนมหวานประเภทต่างๆเกิดขึ้นมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อตลาดไอศกรีมเนื่องจากผู้บริโภคบางส่วนมีการสวิซซ์ไปรับประทานของหวานแบบใหม่ที่หลากหลายขึ้น ทำให้ช่วง 3 ปีที่ผ่านมาโคล สโตนต้องปรับกลยุทธ์ทางการตลาดทั้งรูปแบบเมนู ขนาด และโปรโมชั่นส่งเสริมการขยายเข้ามาร่วมมากขึ้นซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี และต้องยอมรับว่าตลาดของหวานทิศทางการทำตลาดส่วนหนึ่งมาจากเทรนด์คล้ายกับธุรกิจแฟชั่นต้องมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ตลอดเวลา ซึ่งหากแบรนด์ไหนสามารถอยู่ได้นานถึง 3 ปีนั่นแปลว่าแบรนด์สามารถอยู่ได้ในตลาดเมืองไทยแล้ว"
ด้านกลยุทธ์ตลาด บริษัทพัฒนาทั้งรูปแบบสินค้า ราคา ขนาด และการบริการให้เหมาะกับผู้บริโภคชาวไทย พร้อมใช้งบประมาณด้านการตลาด 15% จากยอดขาย และเน้นการตลาดเชิงรุกมากขึ้น เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าพร้อมกันนี้ยังมีการจัดกิจกรรมที่เป็นไฮไลท์ประจำปีแคมเปญ Cold Stone Creamery Free Ice cream Day ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ให้ลูกค้าได้อร่อยกับไอศกรีมมิกซ์อิน ระดับซูปเปอร์พรีเมียม ฟรีในวันที่ 7 เดือน 7 ปี 2017 ด้วย
สำหรับภาพรวมตลาดไอศกรีมเมืองไทยมีมูลค่า 8,000 ล้านบาท เติบโต 17.6% โดยคาดว่าปีนี้จะมีการเติบโต 20% ขณะที่โคล สโตนในครึ่งปีแรกมีการเติบโตกว่า 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมั่นใจว่าตลอดทั้งปีจะสามารถสร้างการเติบโตได้ 20% แบ่งเป็นสัดส่วนยอดขายที่มาจากร้านโคล สโตน 80% ,โมบาย เอาท์เล็ต 9%,เดลิเวอรี่ 5% และแคธอริ่ง 6%
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,275 วันที่ 2 - 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2560