สมช.ชี้บึ้มปัตตานีใช้วิธีใหม่ "ปล้นรถแล้วก่อเหตุทันที!"

12 พ.ค. 2560 | 06:05 น.
วันนี้ (12 พ.ค. 60) - พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงเหตุการณ์คาร์บอมบ์ที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี อ.เมือง จ.ปัตตานีว่า ขณะนี้เริ่มจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมือภาคประชาสังคมในการแจ้งเบาะแสต่างๆ เพื่อให้คนไม่ดีในแผ่นดินหมดไป อย่างไรก็ตามกรณีที่มีนายก อบต.เกาะเปาะ อ.หนองจิก จ.ปัตตานีอาจเข้ามาเกี่ยวข้องนั้น ก็ต้องระมัดระวังมากยิ่งขึ้น ในการติดตามดูพฤติกรรมบุคคลต่างๆ

พล.อ.ทวีป กล่าวว่า หน่วยงานความมั่นคงปรับยุทธวิธีในการรับมือผู้ก่อเหตุที่เปลี่ยนรูปแบบการปฏิบัติการว่า สำหรับงานสำคัญขณะนี้คือ ความเข้มข้นด้านการข่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เน้นย้ำในทุกครั้งที่มีการประชุมข่าวกรอง ในการประสานงานระหว่างหน่วยข่าวกรองทั้งหมดที่มีอยู่ต้องมีความแนบแน่น ให้แลกเปลี่ยนข้อมูลได้ในทันที เมื่อมีข่าวอะไรเข้ามา แล้วร่วมกันวิเคราะห์สิ่งที่จะเกิดขึ้นคืออะไร

พล.อ.ทวีป กล่าวว่า สิ่งที่เห็นได้เด่นชัดจากยุทธวิธีในการก่อเหตุคือ ปล้นรถกระบะแล้วรีบนำมาก่อเหตุทันที ซึ่งเป็นความเปลี่ยนแปลงในยุทธวิธีที่เห็นได้ชัด ต่อไปนี้เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงต้องรายงานสิ่งเหล่านี้ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงประชาชนในพื้นที่จะให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เพื่อให้ประชาชนเกิดความปลอดภัย ขณะนี้หน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่กำลังติดตามผู้ที่ต้องสงสัยเหล่านี้

"เราทราบชื่อทั้งหมดแล้ว มีหลักฐานอยู่พอสมควร ฉะนั้นต้องดำเนินการตามกระบวนการให้ความยุติธรรมกับทุกคน ในเมื่อเป็นเพียงผู้ต้องสงสัยก็ควรเข้ามารายงานตัว ไม่เช่นนั้นจะดำเนินการจับกุม เพื่อนำเข้ากระบวนการสืบสวนสอบสวน ซึ่งจากการจับกุมจะมีการขยายผลไปยังผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด อย่างไรก็ตามส่วนคนที่ถูกออกหมายจับแล้วคือนายมะกอเซ็ง หม้าแอ้ หนึ่งในคนร้ายที่ร่วมปฎิบัติการ เชื่อว่า ยังอยู่ในพื้นที่ไม่หลบหนีออกนอกประเทศแต่อย่างไร"

เมื่อถามว่า นายกอบต.เกาะเปาะที่ถูกระบุว่า อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุนั้น เกี่ยวข้องในลักษณะใด พล.อ.ทวีป กล่าวว่า เป็นลักษณะของคนที่วางแผน แต่ยังต้องเก็บรายละเอียดต่อไป เมื่อถามว่า ฝ่ายความมั่นคงติดตามพฤติกรรมบุคคลดังกล่าวมาตลอดใช่หรือไม่ พล.อ.ทวีป กล่าวว่า พอมีพฤติกรรมขึ้นมา ก็ต้องติดตาม แต่ก่อนหน้านี้ยังไม่พบว่า มีพฤติกรรม ดังนั้นทุกภาคส่วนถือว่า มีส่วนสำคัญที่จะให้เบาะแสในสิ่งเหล่านี้ ถ้าเห็นว่า มีความเคลื่อนไหวใดๆที่ผิดปกติ เบาะแสจากประชาชนจะช่วยเจ้าหน้าที่รัฐในการติดตามได้ดีที่สุด

พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ปัตตานีกล่าวว่า ความคืบหน้าการจับกุมคนร้ายที่วางระเบิด 2 ลูก หนึ่งในนั้นเป็นการก่อเหตุคาร์บอมบ์ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 61 คนว่า ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวนายอิทธิกร ต่วนปูเตะ นายก อบต.เกาะเปาะ อ.หนองจิก จ.ปัตตานีพร้อมคนใกล้ชิดมาสอบสวนจริง แต่เป็นเพียงการเชิญมาสอบปากคำในฐานะพยานเท่านั้น เพราะว่าวันเกิดเหตุนายอิทธิกร ไปคุมงานก่อสร้างใกล้ๆจุดเกิดเหตุ จึงได้เชิญตัวมาสอบสวนข้อมูลต่างๆ

ส่วนผู้ต้องสงสัยที่จับได้ก่อนหน้านี้ 2 คนที่ให้การรับสารภาพคือครูสอนศาสนาคนหนึ่ง ส่วนอีกหนึ่งคนนั้นไม่ขอเปิดเผยรายชื่อ เพราะเป็นคนที่รู้รายละเอียดในเหตุการณ์มากที่สุดและเป็นระดับหัวหน้าขบวนการ คาดว่าอีกไม่นานจะสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาได้ทั้งหมด ขณะที่ พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี กล่าวว่า ล่าสุดควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ทั้งหมด 7 คน ขณะนี้ได้นำตัวทั้งหมดมาสอบถามข้อมูล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ร่วม 50 นาย สนธิกำลังคุมเข้มความปลอดภัย งานฟูลมูนปาร์ตี้ที่บริเวณหาดริ้น อ.เกาะพะงันให้กับนักท่องเที่ยว โดยให้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ( EOD ) เข้าตรวจสถานที่ก่อนจะมีการจัดงาน นอกจากนี้ก็ยังมีการตั้งจุดตรวจบริเวณท่าเรือที่จะเดินทางมายังอ.เกาะพะงัน และอ.เกาะสมุย เเละจัดกำลังเจ้าน้าที่ในและนอกเครื่องแบบ ออกตรวจตราความเรียบร้อยในงานฟูลมูนปาร์ตี้ตลอดทั้งคืน

พล.ต.ต. ธีรพล คุปตานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เข้าตรวจความพร้อมและกำชับเจ้าหน้าที่ เรื่องมาตรการดูแลความปลอดภัยในงานฟูลมูนปาร์ตี้ด้วยตัวเอง พร้อมกำชับให้ตำรวจ ในพื้นที่รับผิดชอบที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่นจ.ภูเก็ต, กระบี่ และพังงา ให้เพิ่มความเข้มในการตรวจตราดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวเพิ่มมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ท่าเทียบเรือปากบารา ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูลนั้น ตำรวจน้ำร่วมกับสภ.ละงู เพิ่มมาตรการความปลอดภัยเพราะจุดนี้เป็นจุดศูนย์กลางในการเดินทางลงเรือไปยังเกาะหลีเป๊ะ และเกาะตะรุเตา รวมทั้งท่าเทียบเรือตำมะลัง อ.เมือง นอกจากนี้ สถานที่ราชการ สถานที่สาธารณะ สถานที่ทางศาสนา และจุดที่มีประชาชนหนาแน่น รวมทั้งห้างสรรพสินค้า จะให้มีการตรวจบัตรประจำตัวประชาชนว่าตรงกับตัวบุคคลหรือไม่ พร้อมจัดกำลังเวรยามในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อเฝ้าระวังเหตุร้ายไม่ให้เกิดการสร้างสถานการณ์ขึ้น