การบินไทยได้รับเอโอซีใหม่จากกพท.

08 พ.ค. 2560 | 13:41 น.
การบินไทย ได้รับมอบใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่และใบอนุญาตขนส่งวัตถุอันตรายการบินไทยจากกพท. การันตรีสายการบินแห่งชาติผ่านการประเมินตามมาตรฐาน ICAO

วันนี้ 8 พฤษภาคม 2560 สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ กพท. เชิญสายการบินไทยเข้าประชุมสรุปผลและรับใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ (AOC Re-certification) รวมถึงใบอนุญาตขนส่งวัตถุอันตราย โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธานและสักขีพยาน โดยก่อนหน้านี้ กพท. ได้มอบ AOC ให้สายการบิน Bangkok Airways เมื่อวันที่27 กุมภาพันธ์ 2560 และสายการบิน Thai AirAsia ‎เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2560

1494243724154
นายจุฬา  สุขมานพ กล่าวว่า การที่สายการบินไทยสามารถแก้ไขข้อบกพร่องได้ตามเวลาที่ กพท. กำหนดและได้รับมอบใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่รวมถึงใบอนุญาตขนส่งวัตถุอันตรายในวันนี้ ในฐานะที่สายการบินไทยเป็นสายการบินแห่งชาติ ความสำเร็จนี้จึงถือเป็นของทั้งบริษัทเองและยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางมาที่ประเทศไทย โดยใช้สายการบินของไทยด้วย
ส่วนความคืบหน้าในการประเมินสายการบินอื่น ๆ ขณะนี้มี 4 สายการบินในกลุ่มแรก อยู่ในขั้นตอนที่ 4 การตรวจสอบภาคปฏิบัติ คือ Thai Smile Airways และ Thai AirAsia X กำลังอยู่ในขั้นตอนที่ 4.1 ซึ่งเป็นการตรวจสำนักงาน ส่วน Nok Air และ NokScoot สามารถเข้าสู่ขั้นตอนที่ 4.2 คือการตรวจสอบภาคอากาศแล้ว ด้านสายการบินในกลุ่มแรกที่กำลังอยู่ในขั้นตอนที่ 3 การตรวจเอกสาร คือ K-Mile Air และ Orient Thai Airlines ซึ่งเป็นขั้นตอนเดียวกันกับอีก 4 สายการบินจากกลุ่มที่ 2 คือ Thai Lion Air, NewGen Airways, Mjets และJet Asia   ทั้งนี้ กระบวนการทั้งหมดมี 5 ขั้นตอน

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (SSC) 33 ข้อ มาอย่างต่อเนื่อง โดยได้ปรับปรุงทั้งกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง, ขั้นตอนการทำงาน, คู่มือ Checklist, แบบฟอร์มสำคัญ รวมถึงจัดการอบรมที่เหมาะสมให้กับพนักงานและผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนปรับปรุงการตรวจประเมินออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ICAO กำหนด โดยขณะนี้มีความก้าวหน้าในการแก้ไข SSC มากกว่า 75% แล้ว และคาดว่า กพท.จะสามารถยื่นเรื่องเชิญให้ ICAO มาตรวจสอบ ICVM (ICAO Coordinated Validation Mission) เพื่อขอปลดธงแดงได้ภายในเวลาที่กำหนดคือ 30 มิถุนายน 2560 ซึ่งหากสายการบินใดของไทยที่ทำการบินระหว่างประเทศไม่สามารถผ่าน การประเมินได้ภายในเดือนมิถุนายน หลังจากเดือนมิถุนายนไปแล้ว จะต้องหยุดให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ

นางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทยฯ เปิดเผยว่าการบินไทยมีความภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาตามที่หน่วยงานการบินพลเรือนของไทยได้ถูกตรวจสอบตามโครงการตรวจสอบการกำกับดูแลความปลอดภัยสากล (Universal Safety Oversight Audit Program : USOAP)จากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation : ICAO) ได้มีการติดธงแดงให้ประเทศไทย โดยการบินไทยได้ขอรับใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่และใบอนุญาตขนส่งวัตถุอันตรายตามมาตรฐาน ICAO ถือว่าการบินไทยมีศักยภาพในการขนส่งทั้งผู้โดยสาร สินค้าผลิตภัณฑ์เกษตรกรรม อาหารสดอย่างเต็มรูปแบบ รวมทั้งวัตถุสินค้าอื่นๆ ที่มีการควบคุมด้านความปลอดภัย เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ โดยมี กพท. ให้ความร่วมมือสนับสนุนและถ่ายทอดประสบการณ์ จนทำให้การบินไทยได้รับใบรับรองฯ ภายในกรอบเวลาที่กำหนด เพื่อยกระดับมาตรฐานด้านการบินของประเทศ

ตลอดระยะเวลา 57 ปีที่ผ่านมา การบินไทยในฐานะสายการบินแห่งชาติ ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินในระดับสากลที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติทั่วโลกมาโดยตลอด ซึ่งช่วงต้นปี 2558 บริษัทฯ ได้ริเริ่มโครงการ “มาตรฐานความปลอดภัยเหนือระดับ หรือ Safety Beyond Compliance” ขึ้นเพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินทั้งระบบของการบินไทย โดยการปรับปรุงมาตรฐานของกระบวนการทำงาน คู่มือปฏิบัติงาน เอกสารควบคุมต่างๆ รวมถึงพัฒนาระบบการฝึกอบรมให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลและข้อกำหนดต่างๆ ภายใต้มาตรฐานเดียวกันทั้งบริษัทฯ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับ
การตรวจประเมินการปฏิบัติงานจากหน่วยงานการบินพลเรือนของนานาประเทศ ซึ่งตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาผลการตรวจประเมินอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของการบินไทยในการยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยให้เข้มข้นขึ้นตามมาตรฐานของสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุดในอุตสาหกรรมการบินโลก โดยองค์การความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหภาพยุโรป หรือ EASA ได้ตรวจประเมินและอนุญาตให้การบินไทยเป็นสายการบินนอกสหภาพยุโรปที่สามารถทำการบินเข้าน่านฟ้ายุโรป หรือ TCO/Third Country Operator ต่อไปได้

ทั้งนี้การได้รับมอบใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศฉบับใหม่ในครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับการบินไทยและจะรักษามาตรฐานความปลอดภัยเหนือระดับตลอดไป เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ รวมทั้งจะให้ความร่วมมือในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจการบินของประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับของหน่วยงานด้านการบินนานาประเทศทั่วโลกตลอดไป