นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคม และการพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยซีพีเอฟ ได้ร่วมเป็นหนึ่งใน 25 บริษัทชั้นนำระดับโลก ดำเนิน ‘โครงการปฏิรูประบบการผลิตอาหารที่ยั่งยืนเพื่อสุขภาพที่ดี ‘Food Reform for Sustainability and Health’ (FReSH หรือ เฟรช) ที่สภาธุรกิจโลกเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ World Business Council for Sustainable Development (WBCSD) และมูลนิธิอีท หรือ EAT Foundation เป็นแกนนำ โดยได้เปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการในการประชุม World Economic Forum ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมื่อเร็วๆนี้
จากการที่บริษัทมีการกำหนดทิศทางและกลยุทธ์ความรับผิดชอบต่อสังคมสูความยั่งยืนภายใต้ 3 เสาหลักสู่ความยั่งยืน คือ อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และดินน้ำป่าคงอยู่ ซึ่งเป็นการดำเนินงานที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของ “เฟรช” จึงนับเป็นโอกาสอันดีที่ซีพีได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในคณะทำงานขับเคลื่อนโครงการ และร่วมร่างข้อกำหนดด้านการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืนร่วมกับสมาชิกอื่นๆ และยังเป็นการสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็งร่วมกับกลุ่มธุรกิจและกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารชั้นนำของโลก เพื่อร่วมสร้างสังคมการผลิตและการบริโภคอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการอย่างยั่งยืน สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ซึ่งจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นและยอมรับของคู่ค้า ลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจในประเทศต่างๆ สามารถรับรู้เท่าทันกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจ และความคาดหวังของผู้บริโภค ทั้งยังสามารถนำข้อมูลและรายงานจากโครงการไปพัฒนาและปรับปรุงแนวทางการบริหารจัดการขององค์กรที่ยั่งยืน และร่วมดูแลธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้วยนวัตกรรมการผลิตและกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานสากล ตอบสนองต่อความต้องการในอนาคต สู่การจัดการการบริโภคอย่างยั่งยืน
ด้าน นางกันไฮด์ สตอร์ดาเลน ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการมูลนิธิอีท กล่าวว่า โครงการเฟรชถือเป็นโอกาสและความท้าทายในการสรรสร้างกระบวนการผลิตอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนการแก่ ผู้บริโภค ซึ่งภาคธุรกิจเป็นส่วนสำคัญในการบริหารจัดการและขับเคลื่อนการดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมายในครั้งนี้
ทั้งนี้ “เฟรช” มีวัตถุประสงค์เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านระบบการผลิตอาหารของโลก สู่การผลิตอาหารและการบริโภคอย่างยั่งยืน เพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดี ซึ่งการจะบรรลุเป้าหมายที่ท้าทายของสังคมโลก โครงการนี้จึงเป็นรวมตัวกันระหว่างภาคธุรกิจชั้นนำและหน่วยงานด้านวิชาการ บนพื้นฐานของความรู้และความพยายามในการทำการศึกษาวิจัยจากสถาบันที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์และแนวทางในการจัดการทางธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพอันจะนำไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้