สถาบันไทย-เยอรมันเร่งส่งเสริมการลงทุน-ปั้นบุคลากรให้ภาคอุตสาหกรรม รับ New S-Curve

21 ต.ค. 2559 | 07:30 น.
สถาบันไทย-เยอรมัน ขานรับนโยบายรัฐเดินหน้าไทยแลนด์ 4.0 ร่วมผลักดันส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีอัตโนมัติและหุ่นยนต์ ในโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมกางแผนพัฒนาเทคโนโลยีและหลักสูตรเฉพาะด้านเพื่อเติมองค์ ความรู้ด้านเทคโนโลยี 4.0 หวังปั้นบุคลากรที่มีคุณภาพให้แก่ภาคอุตสาหกรรม สร้างความเข้มแข็งและยกระดับขีด ความสามารถผู้ประกอบการให้ตอบโจทย์แก่อุตสาหกรรม New S-Curve

ดร.สมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมมีนโยบายการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมในระยะ 20 ปีข้างหน้า ด้วย 3 แผนยุทธศาสตร์ ได้แก่ การปฏิรูปภาคอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญา การปฏิรูปนิเวศอุตสาหกรรมรองรับอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาและการเชื่อมโยงอุตสาหกรรมไทย กับเศรษฐกิจโลก ผ่านรูปแบบการดำเนินงานด้วยการสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงคลัสเตอร์อุตสาหกรรมเพื่อยกระดับผลิตภาพ มาตรฐานการผลิตและสร้างนวัตกรรมใหม่ เพื่อผลักดันประเทศไทยก้าวสู่การเป็นไทยแลนด์ 4.0

ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรม จึงได้มอบหมายให้สถาบันไทย-เยอร มัน เข้ามามีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและนำองค์ความรู้ด้านการวิจัยพัฒนาและเทคโนโลยีอัตโนมัติและหุ่นยนต์  เครื่องจักรกลและเทคโนโลยีแม่พิมพ์ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ด้วยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ มาช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการผลิตและช่วยทรานฟอร์เมชั่นไปสู่การเป็นผู้ประกอบการที่มีขีดความสามารถการแข่งขันที่ดีขึ้น เพื่อรองรับการลงทุนในอุตสาหกรรม New S-Curve โดยเฉพาะกลุ่มหุ่นยนต์อุตสาหกรรม (Robotic) และระบบเทคโนโลยีอัตโนมัติ (Automation) เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์และชิ้นส่วนทางการแพทย์ อุตสาหกรรมอากาศยาน เป็นต้น

นายสมหวัง บุญรักษ์เจริญ  ผู้อำนวยการสถาบันไทย-เยอรมัน กล่าวว่า สถาบันฯ พร้อมรับนโยบายภาครัฐที่ต้องการทรานฟอร์เมชั่นผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม โดยเข้าไปช่วยเร่งรัดนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษคลัสเตอร์หุ่นยนต์ เพื่อร่วมผลักดันมาตรการส่งเสริมการลงทุนระบบเทคโนโลยีอัตโนมัติ และหุ่นยนต์ในโรงงานอุตสาหกรรมของไทยในทุกด้าน ทั้งด้านผู้ซื้อและผู้ผลิตผ่านมาตรการจูงใจในการลดภาษีให้แก่ผู้ประกอบการจากภาครัฐ พร้อมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีและบุคลากรเพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุน

ขณะเดียวกัน สถาบันจะเร่งการพัฒนาเทคโนโลยีและสร้างบุคลากรที่เกี่ยวข้องทุก ระดับรองรับ ผ่านกระบวนการฝึกอบรมให้แก่อุตสาหกรรมเป้าหมายเพื่อเพิ่มจำนวนแรงงานฝีมือ สร้างผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรม พัฒนาความรู้ด้านเทคโนโลยีการผลิตและดิจิทัลให้แก่บุคลากรของผู้ประกอบการ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ผ่านกระบวนการผลิตที่มีปร ะสิทธิภาพรวมถึงให้คำปรึกษา และสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม ซึ่งทำให้เกิดการเชื่อมโยงของห่วงโซ่การผลิตของไทย ที่สามารถตอบสนองนโยบายภาครัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ สถาบันฯ จะร่วมกับสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมสนับสนุน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พัฒนาเทคโนโลยีอัตโนมัติและหุ่นยนต์ ผ่านกระบวนการวิจัยและพัฒนา การให้คำปรึกษา ในการปรับเปลียนเทคโนโลยีให้หัน มาใช้ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ให้มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็จะพัฒนาหลักสูตร การฝึกอบรมเพิ่มเติมเพื่อสร้างบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติในโรงงานอุตสาหกรรม อีกทั้งจะร่วมกันพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม เพื่อเพิ่มความเชี่ยวชาญให้แก่บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมดังกล่าว  จากปัจจุบันที่มีการฝึกอบรมมากกว่า 100 หลักสูตร ผ่านศูนย์เทคโนโลยีของสถาบันที่ประกอบไปด้วย ศูนย์เครื่องจักรกลและระบบอัตโนมัติ ศูนย์แม่พิมพ์และเครื่องมือกล ศูนย์บำรุงรักษาและการจัดการอุตสาหกรรม เช่น หลักสูตรด้านการออกแบบ การสร้างและการซ่อมบำรุง ซึ่งในแต่ละปีมีผู้ผ่านการอบรมจากสถาบันฯ รวมทุกหลักสูตรกว่า 3,000 รายที่กระจายอยู่ในภาคอุตสาหกรร มต่างๆทั่วประเทศ

“เราจะเร่งพัฒนาเทคโนโลยีและบุคลากรเพื่อตอบสนองผู้ประกอบการใน ทุกอุตสาหกรรมที่ต้องการบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม สามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ในภาคการผลิตชิ้นส่วน เครื่องจักร หรืออุปกรณ์ต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ ในโรงงานอุตสาหกรรมและระบบเทคโนโลยีอัตโนมัติ ที่จะเข้ามาช่วยยกระดับประสิทธิภาพการผลิตของภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ให้ดียิ่งขึ้นและพร้อมที่จะเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งจะช่วยผลักดันประเทศไทยก้าว สู่ไทยแลนด์ 4.0 ได้ในที่สุด” นายสมหวัง กล่าว