“ณวัฒน์” เอ๊กซ์ “AJA” อะไรก็เกิดขึ้นได้...

28 ก.พ. 2567 | 01:30 น.

“ณวัฒน์” เอ๊กซ์ “AJA” อะไรก็เกิดขึ้นได้... : คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ โดย...เจ๊เมาธ์ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,970

*** แม้จะมีความหวังอยู่นิดๆ ว่าตลาดหุ้นไทยอาจจะดีขึ้น หลังจากที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้พูดคุยกับ “พิชัย ชุณหวชิร” ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและ “คมกฤช เกียรติดุริยกุล” กรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่ว่ากันตามตรงเจ๊เมาธ์ก็แปลกใจไม่ได้ว่าท่านนายกฯ ลืม หรือ จำไม่ได้ว่า “ภากร ปีตธวัชชัย” กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก็เป็นอีกหนึ่งคนสำคัญที่ทำให้ตลาดหุ้นถูกโจมตีมาตลอดว่า ไม่มีมาตรการป้องกันและช่วยเหลือนักลงทุนรายย่อย จึงทำให้นายกฯ ไม่แวะไปคุยด้วย

อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยยังไปไหนได้ไม่ไกล นอกจากจะมีเรื่องของ Short Sell, Robot Trade และเรื่องของสารพัดเจ้ามือ หรือนักทำราคาหุ้น ที่ทำให้ทุกวันนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้แต่ทำตาปริบๆ เพราะทำอะไรไม่ได้ จึงปล่อยให้หุ้นหลายตัวราคาหุ้นวิ่งขึ้นได้ โดยไม่มีพื้นฐานใดมารองรับ ขณะเดียวกัน หากเปิดสมุดดูกันจริงๆ ก็จะพบว่า ปี 66 ที่ผ่านมาในหุ้น 10 ตัว จะมีอยู่ถึง 7 ตัว ที่กำไรลดลง รวมไปถึงขาดทุนโน้นเลยทีเดียว 

นี่ยังไม่รวมไปถึงภาครัฐเอง ก็ควรพิจารณาศักยภาพในการสื่อสารของตัวเอง เพราะการที่ออกไปขายของในต่างประเทศ แล้วบอกว่า ประเทศนี้ดีมีปัจจัยพื้นฐาน โน่น นี่ นั่น เพราะหวังดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามา แต่เวลาพูดในประเทศก็บอกว่า เศรษฐกิจตกต่ำ จนจำเป็นจะต้องแจกเงินดิจิทัล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ 

อย่าลืมว่า โลกทุกวันนี้มันสื่อสารถึงกันได้มานานแล้ว ดังนั้น เวลาพูดในประเทศว่า เศรษฐกิจอยู่ในภาวะวิกฤติ นักลงทุนต่างชาติเขาก็รับรู้...แล้วแบบนี้นักลงทุนหน้าไหนยังจะเข้ามาลงทุนกับประเทศที่มีปัญหากัน 

ก็ขนาดคนในยังบอกว่า ของไม่ดี แล้วคนซื้อหน้าไหนจะกล้าซื้อ เจ๊เมาธ์ก็แค่ฝากไว้ให้คิดเท่านั้นเจ้าค่ะ

*** วกกลับมาที่ตลาดหุ้น...โดยเฉพาะหุ้นตัวแรงที่วิ่งไม่หยุดอย่าง MGI ถึงตอนนี้ตลาดฯ ไม่ว่าจะติดแคชฯ ระดับ T1 T2 T3 หรือ แม้แต่การห้ามซื้อขาย ก็น่าจะไม่มีมาตรการใดที่เข้มแข็งพอ ที่จะทำให้ราคาหุ้นของ MGI เคลื่อนที่ไปอย่างธรรมชาติเช่นที่ควรจะเป็น  

ขณะเดียวกัน เจ๊เมาธ์เองก็อดชื่นชม “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ของ MGI ที่ออกมาบิ้วอารมณ์แฟนคลับกันทุกวัน ตามสไตล์ของนักสื่อสารการตลาดระดับเทพ รวมไปถึงผู้อยู่เบื้องหลัง MGI รายอื่นที่อาจจะช่วยกันโยนหุ้นไปมา... จนดันให้ราคาหุ้นมาไกลได้ขนาดนี้ ซึ่งเมื่อสรุปรวมเรื่อง “เจ้าหน้ามึนและผู้คุมเกมอ่อนหัด” รวมเข้าไปด้วยกัน ผลที่ได้ออกมาก็เป็นอย่างที่เห็น 

ส่วนท้ายที่สุดแล้วราคาหุ้นของ MGI จะสามารถยืนแข็งกว่าตลาดฯ เหมือนที่ DELTA เคยทำมาก่อน หรืออ่อนเป็นขี้ผึ้งแบบที่ JAS JTS JMART หรือ SINGER เคยเดินมาแล้ว ก็คงสุดแท้แต่เวรแต่กรรมก็แล้วกัน

*** ล่าสุดราคาหุ้นของ AJA เริ่มกลับมาซิ่งอีกครั้ง หลังจากที่ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ขยับขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 4 มีหุ้นจำนวนกว่า 200 ล้านหุ้น รวมถึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการบริษัทแทน 

ทั้งนี้ราคาหุ้นของ AJA ไม่เคลื่อนที่มานานนับตั้งแต่ได้เปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจ จากการขายอุปกรณ์ไฟฟ้า มาเป็นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รวมไปถึงการที่ “อมร มีมะโน” อดีตผู้บริหารถูก ก.ล.ต. และ DSI กล่าวโทษกรณีร่วมกันกระทำการทุจริต ยักยอกเบียดบังเงินของ AJD จำนวน 145 ล้านบาทจนต้องพ้นไปจากตำแหน่งผู้บริหารของ AJA 

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะมองผ่านๆ แบบขำๆ ว่าที่ราคาหุ้นของ AJA กลับมาฟื้น เพราะได้กระแสของ “ณวัฒน์” ที่ดันราคาหุ้นของ MGI ให้โตขึ้นมาเกือบ 10 เท่าได้ในเวลาเพียง 2 เดือน ก็คงจะไม่ได้ ของแบบนี้ต้องจับดูไปนานๆ 

ลองคิดดู หากมี “นางงามจากค่ายของมิสแกรนด์” มาช่วยขายสินค้าของ AJA มันก็ไม่แน่ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ และนี่ยังไม่รวมไปถึงทุนส่วนตัวของ “ณวัฒน์” ที่กำลังมีไฟมาจาก MGI ที่อาจจะสุมให้ไฟของ AJA แรงตามมาด้วยอีกบริษัทก็เป็นได้...เรื่องแบบนี้มันไม่แน่เจ้าค่ะ อิอิอิ

*** ราคาหุ้นของ ITD ก้าวกระโดดครั้งใหญ่ หลังจากที่ราคาหุ้นตกต่ำลง เพราะไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ได้ตามเวลา โดยมีสาเหตุมาจากการที่บริษัทฯ กำลังอยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาคัดเลือก และเจรจาผู้ร่วมทุนที่จะเข้ามาลงทุนในบางส่วนในเหมืองแร่โปแตช จังหวัดอุดรธานี ซึ่งบริษัทย่อยดังกล่าวมี ITD ถือหุ้น 90% และมีกระทรวงการคลังได้ถือหุ้น 10% ของทุนจดทะเบียน 

โดยเหมืองแร่แห่งนี้มีปริมาณการผลิต 2 ล้านตันต่อปี คาดปริมาณการผลิตตลอดอายุโครงการ 25 ปี อยู่ที่ 33.67 ล้านตัน เบื้องต้นมูลค่าการลงทุนโครงการประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้ ITD มีเม็ดเงินเข้ามาเพียงพอที่จะเคลียร์หนี้หุ้นกู้ทั้งเงินต้นและดอกได้แบบไม่มีปัญหา

เจ๊เมาธ์ขอบอกเอาไว้ก่อนว่า แผนการขายหุ้นบริษัทย่อยนี้ ไม่ได้เพิ่งจะเกิดขึ้น เนื่องจากแผนการลดสัดส่วนในการถือหุ้นของ ITD ลงให้เหลือน้อยกว่า 50% หลังได้ประทานบัตร เป็นเรื่องที่ถูกประกาศออกมากว่า 2 ปีแล้ว (ตั้งแต่ต้นปี 2565) ดังนั้น เรื่องนี้จึงเป็นเพียงข่าวเก่าในขวดใหม่ ที่อาจถูกขุดออกมาเพื่อพยุงสถานะราคาหุ้นของ ITD เอาไว้ไม่ให้แย่ลงกว่าที่เป็นอยู่ 

ส่วนที่ว่าจะขายได้ในราคาที่ตั้งไว้...หรือในราคาต้องการหรือเปล่า นั้นก็เป็นอีกเรื่อง เพราะถ้าขายได้ง่าย ป่านนี้ก็คงขายออกไปตั้งนานแล้ว ไม่ปล่อยให้คาราคาซังมาจนถึงวันนี้แน่นอนค่ะ

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 3,970 วันที่ 29 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม พ.ศ. 2567