CREDIT น้องใหม่ ไหวหรือเปล่า?

06 ก.พ. 2567 | 21:08 น.

CREDIT น้องใหม่ ไหวหรือเปล่า? คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ โดย…เจ๊เมาธ์

ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) หรือ CREDIT ถือว่าเป็นธนาคารที่จะเข้าตลาดหุ้นเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี มีอะไรที่น่าสนใจอยู่หลายอย่าง ที่ให้เจ๊เมาธ์และนักลงทุนหลายคนต้องจับตามองว่า ราคาหุ้นที่จะเปิดซื้อขายในอีกไม่กี่วันนี้จะออกมาในรูปแบบใด

อย่างแรกต้องยอมรับว่า การเปิดจองซื้อหุ้น IPO ทั้งหมด จำนวนไม่เกิน 347,029,122 หุ้น ซึ่งด้วยหุ้นไอพีโอจำนวนเพียงแค่นี้ก็ทำให้ CREDIT เป็นธนาคารน้องใหม่ตัวเล็ก ที่หากจะมีการลากราคาหุ้นขึ้นไปบ้างในการซื้อขายหุ้นในวันแรก หรือวันอื่นๆ ก็คงทำได้ไม่ยากเกินไป 

แต่ด้วยราคาจองซื้อที่ 29 บาท/หุ้น แม้ว่าจะถูกจองซื้อจนเต็มจำนวน แต่ด้วยค่าพี/อีเกือบๆ 20 เท่า ซึ่งสูงกว่าหุ้นตัวอื่นที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์กว่าเท่าตัว ทำให้นักลงทุนหลายคนมองว่าหุ้นตัวนี้ราคาสูงไปนิดหน่อย 

อย่างที่สองแม้ CREDIT จะมีจุดเด่น คือ เป็นธนาคารพาณิชย์แห่งเดียวที่มุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่อไมโครและนาโนไฟแนนซ์ (Micro and Nano Finance) และสินเชื่อธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี (Micro SME) จนทำให้มี NIM (Net Interest Margin) สูงกว่าธนาคารแห่งอื่น 

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าธนาคารน้องใหม่รายนี้ จะมีอะไรที่ดึงดูดใจ มากกว่าธนาคารรุ่นพี่ที่อยู่ในตลาดอยู่ดี  เอาเป็นว่าเจ๊เมาธ์เป็นกำลังใจให้...ไม่ต้องรอนาน วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งเป็นวันแรกที่ทาง CREDIT จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ก็คงจะเป็นตัวพิสูจน์ว่า ราคาหุ้นของธนาคารน้องใหม่ ควรจะมีราคาอยู่ที่เท่าไหร่กันแน่ 

แต่การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และโปรดอ่านหนังสือชี้ชวน เจ้าค่ะ

ไม่น่าเชื่อว่าโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เขาใหญ่โครงการหรู ซึ่งอดีตผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ของ HMPRO ถึงกับต้องยอมขายหุ้นที่มีอยู่เพื่อนำไปลงทุนในโครงการนี้เมื่อหลายปีก่อนจะกลายเป็นโครงการมีเรื่องฟ้องร้องกันวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีการยื่นฟ้องบริษัทเจ้าของโครงการฯ กับพวก รวม 3 ราย ในข้อหา “สินค้าไม่ตรงปก” หลังจากที่โฆษณาว่าในโครงการมีพื้นที่ 200 ไร่ ประกอบด้วย ทะเลสาบ 7 แห่ง ต้นไม้นานาพรรณกว่า 40,000 ต้น ปลาคาร์ฟ กว่า 50,000 ตัว ภายในโครงการเดียว 

แต่ท้ายที่สุดก็ถูกจับได้ว่ามีการสอดใส้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของที่ดินทะเลสาบเนื้อที่ประมาณ 60 ไร่ ถนนและต้นไม้รอบทะเลสาบ กลับถูกระบุในบันทึกข้อตกลงเพิ่มเติมสัญญา จะซื้อจะขายห้องชุดเอาไว้ว่า ไม่เป็นทรัพย์สินส่วนกลาง

ทั้งนี้ ผู้จะขายอนุญาตให้ผู้จะซื้อใช้ประโยชน์เป็นสถานที่พักผ่อนและออกกำลังกายได้ หรือแม้แต่พื้นที่โครงการที่โฆษณาว่ามีอยู่ถึง 200 ไร่ แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับมีพื้นที่โครงการจริงแค่ 68 ไร่ และไม่มีเจตนาโอนที่ดินที่เป็นที่ตั้งโครงการอาคารชุด เพื่อให้มีพื้นที่ส่วนกลาง 200 ไร่ มาตั้งแต่ต้น

ล่าสุด ศาลอาญา (ศาลชั้นต้น) ได้มีคำพิพากษาในคดีนี้ โดยศาลฯพิพากษาว่า จำเลยได้กระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (1) เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานฉ้อโกงประชาชน ซึ่งมีโทษทั้งจำคุกและปรับเป็นเงิน แม้ว่าทนายของจำเลยเตรียมยื่นอุทธรณ์คดี โดยขณะนี้อยู่ระหว่างขยายอุทธรณ์ 

เรื่องนี้น่าจะยังไม่จบง่ายๆ กรณีนี้ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่าท้ายที่สุดเรื่องจะจบลงแบบไหน...เอาไว้ถ้ามีความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมเจ๊เมาธ์จะเอามาเล่าให้ฟังเจ้าค่ะ

หลังจากที่ศาลแขวงพระนครใต้ ได้มีการอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา ในคดีดำหมายเลข อ.236/2563 คดีแดงหมายเลข อ.725/2564 เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2567 โดยตัดสินให้จำคุก นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ เป็นเวลา 42 เดือน หรือ 3.5 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค 

ทำให้ตำนาน “นักปล่อยปลา” ผู้มีชื่อเสียงในการทำราคาหุ้นได้หวือหวาที่สุดคนหนึ่งของไทยมีอันที่จะต้องปิดตำนานลงไปแบบไม่สวยเท่าไหร่นัก

และหากว่ากันตามตรงแล้วนายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ หรือที่หลายคนรู้จักกันในฉายา “ไข่มุกดำ” ถือได้ว่าเป็นบุคคลที่สร้างสีสันให้กับวงการหุ้นไทยต่อเนื่องกันมาหลายปี 

เริ่มตั้งแต่การเป็น MARKETING และมีลูกค้ามากที่สุดของโบรกเกอร์ จนสามารถก้าวมาเป็นซีอีโอแถวหน้าของวงการโบรกเกอร์ ที่อายุน้อย และมีค่าตัวแพงที่สุด ติด 1 ใน 5 ของประเทศ ที่บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) 

ก่อนที่ในท้ายที่สุด สำนักงาน ก.ล.ต. สั่งพักงานปี 2559 เนื่องจากละเลยการตรวจสอบดูแลระบบงานในการทำความรู้จักลูกค้าและตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า และการกำกับดูแลการทำธุรกรรมของลูกค้า 

ก่อนที่ต่อมาชื่อ นายประสิทธิ์ จะเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับ บิตคอยน์ และ ดราก้อนคอยน์ จนมีปัญหาฟ้องร้องกันอีรุงตุงนังไปอีกชุดใหญ่ ก่อนที่ชื่อของ “ประสิทธิ์” จะถูกเอาไปลือว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังหุ้นอีกหลายตัว

เอาเป็นว่าตอนนี้ นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ หรือ “ไข่มุกดำ” อยู่ระหว่างการหลบหนีออกนอกประเทศไปตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2566 ซึ่งก็ไม่รู้ว่าในอนาคต “ประสิทธิ์” จะได้กลับมารับโทษ หรือกลับมามีบทบาทในตลาดหุ้นไทยอีกหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ เจ้าตำนาน “นักปล่อยปลา” ฉายา “ไข่มุกดำ” มีตัวตนจริงอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ