ท็อปไฟว์ท่องเที่ยว ‘ตัดตอนทัวร์ศูนย์เหรียญ’ฮอตสุด

28 ธ.ค. 2559 | 10:00 น.
ปิดท้ายปีวอก กันที่เหตุการณ์เด่นในแวดวงท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นในรอบปีนี้ ซึ่ง “ฐานเศรษฐกิจ” ฉบับส่งท้ายปีได้หยิบไฮไลต์มานำเสนอ

1. ตัดตอนทัวร์ศูนย์เหรียญ

การปราบปรามทัวร์ผิดกฎหมายของรัฐบาล พ้อยท์สำคัญมาจากความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาทัวร์ศูนย์ และปัญหาการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (นอมินี) ทำให้ในปีนี้จึงเห็นการบูรณาการร่วมกันจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง อย่าง กรมการท่องเที่ยว กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม และกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวเดินหน้าลงพื้นที่เมืองท่องเที่ยวหลักต่างๆทั้งในกรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ ตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจ นำเที่ยวที่เข้าข่ายพฤติกรรมต้องสงสัยว่าใช้คนไทยเป็นนอมินี รวมถึงส่งข้อมูลให้กรมสรรพากรตรวจสอบภาษี จนจับไกด์เถื่อนและทัวร์ผิดกฎหมายในพื้นที่หลายรายอย่างต่อเนื่อง อาทิ บริษัททรานลี่ ทราเวิล จำกัด บริษัทฝูอัน ทราเวิล จำกัด รวมถึงขึ้นบัญชีดำบริษัทนำเที่ยวเฉพาะที่ทำทัวร์จีน ไปแล้วร่วม 41 ราย

ทั้งยังขยายผลนำไปสู่การจับกุมบริษัทโอเอทรานสปอร์ต จำกัด เครือข่ายขบวนการทัวร์ศูนย์เหรียญรายใหญ่ของไทย ในข้อหาอั้งยี่ และได้ยึดทรัพย์ขายทอดตลาดไปแล้วร่วมหมื่นล้านบาท ด้วยความที่รถบัสร่วม 2,700 คนของโอเอ ที่ออฟเฟอร์ให้บริษัททัวร์ศูนย์เหรียญใช้บริการ นำนักท่องเที่ยวมาซื้อสินค้าในธุรกิจร้านจิวเวลรีอัญมณี และเครื่องหนังของตัวเอง ถูกยึดรถไปทำให้บริษัททัวร์หยุดส่งนักท่องเที่ยวเข้ามา กระทบนักท่องเที่ยวจีนชะลอตัวในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ต่อเนื่องถึงไตรมาสแรกของปีหน้า แต่รัฐบาลมองว่าเป็นผลกระทบระยะสั้น และเป็นโอกาสในการดึงตลาดจีนคุณภาพให้มาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น และยังคงเดินหน้าปราบปราบทัวร์ผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยังได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ(เอ็มโอยู) กับสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติจีน(China National Administration : CNTA) เมื่อวันที่ 21 กันยายน2559 เป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ซึ่งทั้งไทยและจีน ต่างเห็นไปในทางเดียวกันที่จะร่วมกันพัฒนาการท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างยั่งยืนทั้ง 2 ประเทศด้วย

 2. ปราบโรงแรมผิดกฎหมาย

ปีนี้โรงแรมที่ไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547 คงรู้สึกร้อนๆหนาวๆ เมื่อล่าสุดกระทรวงมหาดไทย ได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังผู้ราชการจังหวัดทุกจังหวัด เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2559 กำชับให้ดำเนินการตามแผนป้องกันและปราบปรามโรงแรมผิดกฎหมายในพื้นที่ ซึ่งเรื่องนี้ไม่เพียงเป็นการแก้ปัญหาโรงแรมเถื่อน แต่สิ่งสำคัญ คือจะกระตุ้นให้โรงแรมประเภท1 (มีเฉพาะห้องพัก)และโรงแรมประเภท 2 (มีห้องพักและห้องอาหาร) ที่ดำเนินธุรกิจโดยไม่มีใบอนุญาต เร่งมายื่นคำขอรับใบอนุญาตเปลี่ยนการใช้อาคารมาประกอบธุรกิจโรงแรม ตามกฎกระทรวง “กำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ.2559” ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ปลดล็อกให้การนำอาคารประเภทอื่นมาทำโรงแรมใน 2 ประเภทเหล่านี้ที่มีอยู่จำนวนมากมาเข้าระบบโดยเร็วไม่ใช่รอเวลา 5 ปีตามกฎกระทรวงบังคับใช้

โดยคาดว่าดึงธุรกิจเหล่านี้เข้าระบบไม่ต่ำกว่า 5,000 แห่ง ปัจจุบันประเทศไทยมีโรงแรมที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมราว 1 หมื่นแห่ง รวมจำนวนห้องพักราว 5 แสนห้อง และประเมินว่าเฉลี่ยทั่วประเทศมีโรงแรมผิดกฎหมายกว่า 50% หรือราว 1 หมื่นกว่าแห่ง รวมห้องพักกว่า 5 แสนห้อง

MP27-3222-A  3 ตอกเสาเข็มเฟส2 สุวรรณภูมิ

ในที่สุดโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(ปีงบประมาณ2554-2560)หรือเฟส 2 สนามบินสุวรรณภูมิ หลังโครงการนี้ไฟเขียวจากครม.มาตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2553 ในปีนี้ก็ได้ฤกษ์ลงมือก่อสร้างเสียที เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2559โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานก่อสร้าง ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารจาก 45 ล้านคนต่อปีเป็น 60 ล้านคนต่อปี แล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายนปี2562

ทั้งนี้โครงการนี้จะมีทั้งหมด 7 สัญญา โดยเปิดประกวดราคาและอยู่ระหว่างก่อสร้าง ใน 3 สัญญาแรก ได้แก่ งานก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้นB2 ชั้นB1 และชั้นG)ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่1 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ งานก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน และงานจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง(ซีเอสซี) ส่วนอีก 4 สัญญาจะเปิดประกวดราคาได้ปีหน้า

MP27-3222-C  4 คลอด 2 พ.ร.บ.ฉบับใหม่

ปีนี้ถือเป็นปีที่มีออกและคลอดกฎหมายมาหลายเรื่อง ในส่วนของการท่องเที่ยว มี 2 เรื่อง ได้แก่ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ (ฉบับที่ 2 )พ.ศ.2559 สาระสำคัญในพ.ร.บ.ดังกล่าวจะมี 3 เรื่องหลัก ได้แก่ 1.บริษัทนำเที่ยวจะต้องกำหนดราคาทัวร์ขั้นต่ำ ตามที่คณะกรรมการทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์กำหนดไว้ และต้องแสดงเอกสารประกอบด้วย 2.การจะเป็นมัคคุเทศก์ได้ จะต้องผ่านการทดสอบ ตามข้อกำหนดของนายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์กำหนด และ 3.ผู้ที่เป็นมัคคุเทศก์อยู่แล้วในปัจจุบัน จะต้องผ่านการฝึกอบรม ตามที่นายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์กำหนด จึงจะสามารถต่ออายุใบอนุญาตการเป็นมัคคุเทศก์ได้

รวมทั้งยังเกิดพ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพพ.ศ.2559 ถือเป็นครั้งแรกที่ธุรกิจนี้มีกฎหมายเฉพาะด้านเข้ามากำกับดูแล ทั้งในแง่ของสถานที่ การให้บริการ และบุคคลากร จากเดิมที่ธุรกิจนี้ จะอยู่ในการควบคุมการประกอบกิจการสปาเพื่อสุขภาพ ฯ ที่เป็นเพียงแค่ประกาศกระทรวงสาธารณสุขปี 2557 เท่านั้น และที่ผ่านมาก็มีผู้ใช้คำว่าสถานประกอบการเพื่อสุขภาพประกอบกิจการแฝงอย่างอื่น และหลายแห่งไม่ได้มีมาตรฐานการมีพ.ร.บ.นี้ จะเอื้อประโยชน์อย่างมาก แก่ทั้งผู้บริโภค ที่จะมั่นใจได้ว่าไปใช้บริการในสถานประกอบการที่มีมาตรฐานจริงๆ และยกระดับธุรกิจสปาและสถานประกอบการเพื่อสุขภาพของไทยให้มีมาตรฐาน รองรับเป้าหมายของรัฐบาลที่จะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพโลกในช่วง 10 ปีนี้

 5 บอมบ์ 7 จังหวัดภาคใต้

เหตุการณ์ระเบิดใน 7 เมืองท่องเที่ยวภาคใต้ของไทย อาทิ หัวหิน ภูเก็ต ตรัง สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พังงา กระบี่ ในช่วงคืนวันที่ 11 สิงหาคมต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ 12 สิงหาคม2559 แม้จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของไทยอยู่บ้าง แต่ในแง่ของผลกระทบทางเศรษฐกิจถือว่ากระทบน้อยมาก หากเทียบกับเหตุระเบิดแยกราชประสงค์เมื่อปี2558 จุดหลักเป็นเพราะการรับมือในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วของภาครัฐ ทั้งการเคลียร์พื้นที่ และการสื่อสารเพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยว รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นต่อสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก(WTTC)ที่ได้เข้ามาจัดงานวันท่องเที่ยวโลกในไทย เมื่อวันที่ 27 กันยายน2559 รวมถึงการลงพื้นที่จากผู้ประกอบการส่วนกลางไปให้กำลังใจผู้ประกอบในพื้นที่ เช่น หัวหิน ทำให้เหตุการณ์ระเบิดดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมการท่องเที่ยวในปีนี้

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,222 วันที่ 29 - 31 ธันวาคม 2559