จี้รัฐเพิ่มสัดส่วนไบโอดีเซล หวั่นรง.ไปไม่รอดหยุดผลิต

30 ก.ย. 2559 | 04:00 น.
สมาคมไบโอดีเซล จี้กระทรวงพลังงาน ปรับเพิ่มสัดส่วนไบโอดีเซลเป็นบี 5 หลังพบสต็อกน้ำมันปาล์มเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติที่ 2.5 แสนตัน ยันหากลากไปนานอาจส่งผลกระทบโรงงานบางแห่งหยุดการผลิต เพราะปัจจุบันใช้กำลังผลิตเพียง 25 % ขณะที่ภาครัฐ ขอดูปริมาณสต็อกที่แน่นอน ก่อนชงกบง. 5 ต.ค.นี้ให้"อนันตพร"พิจารณา

นายศาณินทร์ ตริยานนท์ กรรมการบริษัท น้ำมันพืชปทุม จำกัด ในฐานะนายกสมาคมผู้ผลิตไบโอดีเซลไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ขณะนี้ทางสมาคมฯอยู่ระหว่างการติดตามปริมาณสต็อกน้ำมันปาล์มของกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่ากลับเข้าสู่ภาวะแล้วหรือยัง หลังจากที่เดือนสิงหาคมอยู่ในระดับต่ำเพียง 2 แสนตันเท่านั้น ซึ่งจากการประชุมของสมาคมฯล่าสุดพบว่า ปริมาณการผลิตปาล์มน้ำมันในขณะนี้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 2.3 แสนตันแล้ว และหากในช่วงปลายเดือนกันยายนมีผลผลิตปาล์มน้ำมันออกมาเพิ่มขึ้นอีก น่าจะส่งผลให้มีสต็อกน้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้นมาอยู่ระดับ 2.5 แสนตันได้

ดังนั้น ทางสมาคมฯเห็นว่ากระทรวงพลังงาน ควรจะเร่งทบทวนมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) ที่มีพล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ที่ลดสัดส่วนไบโอดีเซลหรือบี 100 ผสมในน้ำมันดีเซลลงเหลือ 3 % หรือบี 3 ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม ที่ผ่านมา ให้ปรับเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 4-5 % หรือเป็นบี 4 และบี 5 เพ่อเพิ่มปริมาณการใช้บี 100 ในน้ำมนดีเซลเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันมีโรงงานผลิตน้ำมันบี100 ทั้งสิ้น 12 แห่ง กำลังการผลิตรวม 6 ล้านลิตรต่อวัน โดยในช่วงที่การผสมบี 100 ในสัดส่วน 7 % หรือเป็นบี7 จะมีความต้องการใช้น้ำมันบี100 อยู่ที่ประมาณ 4-5 ล้านลิตรต่อวัน หลังจากนั้นภาครัฐก็ประกาศปรับลดสัดส่วนผสมเป็นน้ำมันบี 5 และล่าสุดก็ปรับลดลงมาเป็นบี3 ส่งผลให้ผู้ผลิตบี100 ได้รับผลกระทบอย่างมากจากการลดกำลังการผลิตลงมาเหลือเพียง 25 % เนื่องจากปัจจุบันมีความต้องการใช้บี100 เพียง 1 ล้านลิตรต่อวันเท่านั้น ทำให้ผู้ประกอบการอยู่ในภาวะยากลำบากในการประกอบกิจการ และหากยังปล่อยในสภาพเช่นนี้ อาจจะทำให้มีบางโรงงานหยุดการผลิตชั่วคราวได้ เพราะไม่คุ้มกับการเปิดกระบวนการผลิต

โดยปัจจุบันราคาน้ำมันปาล์มดิบ(ซีพีโอ) ปัจจุบันอยู่ที่ 29-30 บาทต่อลิตร ขณะที่ราคาไบโอดีเซลบี100 อยู่ที่ 30-31 บาทต่อลิตร ซึ่งเป็นระดับราคาที่ไม่ต่ำจนเกินไป แต่ก็ยังไม่สามารถชดเชยรายได้จากการเพิ่มกำลังการผลิตได้

"ปัจจุบันพบว่าตัวเลขสต๊อกปริมาณน้ำมันปาล์มของกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อยู่ที่ระดับ 2.3 แสนตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 2 แสนตัน แต่คาดว่าภาครัฐต้องการรอดูผลผลิตปาล์มในช่วงสิ้นฤดูกาลก่อนว่าจะออกมากน้อยเพียงใด ซึ่งขณะนี้ก็ปรับตัวดีขึ้นมากแล้ว ดังนั้นภาครัฐควรเร่งพิจารณาในการเพิ่มสัดส่วนบี 100 ผสมในน้ำมันดีเซลขึ้นไป เพื่อความอยู่รอดของผู้ประกอบการ"

นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมฯยังต้องรอดูปริมาณสต็อกน้ำมันปาล์มจากทางกระทรวงพาณิยช์ เพื่อพิจารณามาตรการปรับสัดส่วนผสมน้ำมันไบโอดีเซลบี100 จากปัจจุบันอยู่ที่ 3% ขณะเดียวกันก็พบว่าแม้จะมีการปรับลดสัดส่วนผสมเป็นบี3 แต่ราคาน้ำมันปาล์มดิบก็ยังอยู่ในระดับค่อนข้างสูงที่ 30 บาทต่อลิตร จึงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อชาวสวนและผู้ประกอบการน้ำมันปาล์ม ดังนั้น จึงต้องขอดูตัวเลขสต๊อกน้ำมันปาล์มก่อนว่ามีมากน้อยเพียงใด ซึ่งจะมีการหารือในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) ในวันที่ 5 ตุลาคมนี้

"ช่วงนี้ทางกระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการตรวจสต็อกน้ำมันปาล์ม ซึ่งกรมฯยังไม่ได้รับรายงานว่ามีปริมาณมากน้อยเพียงใด แต่ก็พบว่าราคาน้ำมันปาล์มดิบก็ไม่ได้ปรับลดลงอย่างที่กังวลกัน หากพบว่ามีปริมาณน้ำมันปาล์มในสต็อกเพิ่มขึ้น กรมก็พร้อมพิจารณาปรับสัดส่วนการผสมบี100 ซึ่งอาจจะเป็นบี 5 หรือบี 7 ก็ต้องพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งจะต้องดูความเหมาะสมและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,196
วันที่ 29 กันยายน - 1 ตุลาคม พ.ศ. 2559