บ๊าวซ์ย้ำแผนขยาย 8 สาขา เปิดอีกแห่งดิเอ็มควอเทียร์
บ๊าวซ์ ตั้งเป้า 3-5 ปีขยายสาขา8 แห่ง อาทิ นครราชสีมา ราชพฤกษ์เจริญนคร อื่นๆ ล่าสุดเตรียมเปิดสาขา2 ดิ เอ็มควอเทียร์ใช้งบลงทุน 80 ล้านบาท คาดสิ้นปีมีรายได้ 100 ล้าน
[caption id="attachment_91050" align="aligncenter" width="335"]
มาร์ค จอบบลิงค์ ประธานบริษัท เบ๊าซ์อิงค์ (ไทยแลนด์) จำกัด[/caption]
นายมาร์ค จอบบลิงค์ ประธานบริษัท เบ๊าซ์อิงค์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้บริการกีฬาประเภทแทรมโพลีนภายใต้แบรนด์ "บ๊าวซ์ "เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าขยายสาขาภายใน 3-5 ปีนี้รวม 8 แห่ง อาทิสาขานครราชสีมา ราชพฤกษ์ เจริญนคร ขอนแก่น รวมถึงที่อื่นๆ ล่าสุดบริษัทได้ขยายสาขา 2 ที่ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ซึ่งจะเป็นบ๊าวซ์สาขาแรกของโลกที่ได้เปิดในศูนย์การค้าระดับเวิลด์คลาส อีกทั้งยังถือเป็นศูนย์กลางที่รวบรวมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศไทย และนักท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน โดยแบ่งสัดส่วนเป็นชาวไทย 60% และ ชาวต่างชาติ 40% เม็ดเงินลงทุนในสาขานี้อยู่ที่ 80 ล้านบาท พร้อมทั้งคาดว่ารายได้ในปีแรกจะอยู่ที่ 100 ล้านบาท
"สาขาที่ 2 จะตั้งอยู่ที่ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ชั้น 4 ซึ่งบ๊าวซ์จะมีพื้นที่ทำกิจกรรมรวมทั้งสิ้น 2,000 ตารางเมตร สามารถบรรจุผู้เล่นได้ 100 คนต่อชั่วโมง ประกอบไปด้วยแทรมโพลีนโซนต่างๆ ห้องปาร์ตี้จัดเลี้ยง อาหารเครื่องดื่ม และ ร้านขายของที่ระลึก"
สำหรับสาขาที่ 3 บริษัทจะเปิดที่เซ็นทรัล บางนา โดยวางเม็ดเงินลงทุนไว้ทั้งสิ้น 150 ล้านบาท นอกจากนี้ ในปี2560 บริษัทยังคงขยายแผนธุรกิจออกไปยังห้างสรรพสินค้า ในต่างจังหวัด ซึ่งที่ต่อไป คาดว่าน่าจะเป็นที่เซ็นทรัลนครราชสีมาและยังมีแผนขยายธุรกิจออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น จีน(ตอนใต้) ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ เกาหลี เวียดนาม และไต้หวัน นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมเปิดตัวโซนกิจกรรมใหม่แนวเอ็กซ์ตรีม เอ็กซ์พาร์ค โดยใช้งบลงทุนไปกว่า 20 ล้านบาทในเดือนธันวาคมปีนี้
ปัจจุบันบริษัทประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในประเทศออสเตรเลียและประเทศไทย หลังจากที่เปิดตัวสาขาแรกไปเมื่อปลายปี 2558 ก็ได้ผลการตอบรับที่ดีโดยมีรายได้ต่อเดือนประมาณ 13-15 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาสแรกของปี 2559 นี้ และมีรายได้โดยรวมประมาณ 40 ล้านบาท
ด้านนายสมพร นาคซื่อตรงประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบ๊าซ์อิงค์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า การขยายสาขาเน้นเปิดตามศูนย์การค้าโรงเรียน และมหาวิทยาลัย อยู่โดยรอบเพื่อจะเป็นส่วนหนึ่งในไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน ในขณะที่ บ๊าวซ์ ออสเตรเลยี สว่ นใหญจ่ ะเปน็แบบสแตนด์อะโลน ทั้งนี้บริษัทใช้งบ10% ของรายได้ทำกิจกรรมผ่านช่องทางออนไลน์
Photo : bounce
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,187 วันที่ 28 - 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559
[caption id="attachment_91050" align="aligncenter" width="335"]
นายมาร์ค จอบบลิงค์ ประธานบริษัท เบ๊าซ์อิงค์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้บริการกีฬาประเภทแทรมโพลีนภายใต้แบรนด์ "บ๊าวซ์ "เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าขยายสาขาภายใน 3-5 ปีนี้รวม 8 แห่ง อาทิสาขานครราชสีมา ราชพฤกษ์ เจริญนคร ขอนแก่น รวมถึงที่อื่นๆ ล่าสุดบริษัทได้ขยายสาขา 2 ที่ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ซึ่งจะเป็นบ๊าวซ์สาขาแรกของโลกที่ได้เปิดในศูนย์การค้าระดับเวิลด์คลาส อีกทั้งยังถือเป็นศูนย์กลางที่รวบรวมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศไทย และนักท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน โดยแบ่งสัดส่วนเป็นชาวไทย 60% และ ชาวต่างชาติ 40% เม็ดเงินลงทุนในสาขานี้อยู่ที่ 80 ล้านบาท พร้อมทั้งคาดว่ารายได้ในปีแรกจะอยู่ที่ 100 ล้านบาท
"สาขาที่ 2 จะตั้งอยู่ที่ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ชั้น 4 ซึ่งบ๊าวซ์จะมีพื้นที่ทำกิจกรรมรวมทั้งสิ้น 2,000 ตารางเมตร สามารถบรรจุผู้เล่นได้ 100 คนต่อชั่วโมง ประกอบไปด้วยแทรมโพลีนโซนต่างๆ ห้องปาร์ตี้จัดเลี้ยง อาหารเครื่องดื่ม และ ร้านขายของที่ระลึก"
สำหรับสาขาที่ 3 บริษัทจะเปิดที่เซ็นทรัล บางนา โดยวางเม็ดเงินลงทุนไว้ทั้งสิ้น 150 ล้านบาท นอกจากนี้ ในปี2560 บริษัทยังคงขยายแผนธุรกิจออกไปยังห้างสรรพสินค้า ในต่างจังหวัด ซึ่งที่ต่อไป คาดว่าน่าจะเป็นที่เซ็นทรัลนครราชสีมาและยังมีแผนขยายธุรกิจออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น จีน(ตอนใต้) ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ เกาหลี เวียดนาม และไต้หวัน นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมเปิดตัวโซนกิจกรรมใหม่แนวเอ็กซ์ตรีม เอ็กซ์พาร์ค โดยใช้งบลงทุนไปกว่า 20 ล้านบาทในเดือนธันวาคมปีนี้
ปัจจุบันบริษัทประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในประเทศออสเตรเลียและประเทศไทย หลังจากที่เปิดตัวสาขาแรกไปเมื่อปลายปี 2558 ก็ได้ผลการตอบรับที่ดีโดยมีรายได้ต่อเดือนประมาณ 13-15 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาสแรกของปี 2559 นี้ และมีรายได้โดยรวมประมาณ 40 ล้านบาท
ด้านนายสมพร นาคซื่อตรงประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบ๊าซ์อิงค์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า การขยายสาขาเน้นเปิดตามศูนย์การค้าโรงเรียน และมหาวิทยาลัย อยู่โดยรอบเพื่อจะเป็นส่วนหนึ่งในไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน ในขณะที่ บ๊าวซ์ ออสเตรเลยี สว่ นใหญจ่ ะเปน็แบบสแตนด์อะโลน ทั้งนี้บริษัทใช้งบ10% ของรายได้ทำกิจกรรมผ่านช่องทางออนไลน์
Photo : bounce
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,187 วันที่ 28 - 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559