แนวโน้มราคาทองคำวันจันทร์(29 ส.ค.59)
สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง วันที่ 26 สิงหาคม 2559
สภาวะตลาดวันที่ 26 สิงหาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,320.20-1,325.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,700 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,700 บาทต่อบาททองคำ
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.06 น.ของวันที่ 26/08/16)
แนวโน้มวันที่ 29 สิงหาคม 2559
นักวิจัยในคณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) โดย นายเกา ยูจิน ระบุในบทความว่า จีนยังคงมีโอกาสในการผ่อนคลายนโยบายการเงินลงไปอีก โดยให้เหตุผลว่าสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ยังคงอยู่ในระดับค่อนข้างสูงในปัจจุบัน และอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของจีนยังคงมีค่าเป็นบวก ซึ่งหากธนาคารกลางจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจริงจะส่งผลเชิงบวกต่อตลาดทองคำ เห็นได้จากในช่วงที่ธนาคารกลางจีนได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาแล้ว 6 ครั้งนับตั้งแต่ปลายปี 2557 และได้ปรับลด RRR ลงมาแล้ว 5 ครั้ง ราคาทองคำตอบรับในเชิงบวกเสมอ ประกอบกับหากปัญหาหนี้เสียในจีนหากได้รับการแก้ไขอย่างค่อยเป็นค่อยไปจะส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์จีนที่ต้องแบกรับยอดขาดทุนลดลง เมื่อรัฐบาลกำลังดำเนินการเพื่อช่วยเหลือธนาคารขนาดเล็กบางแห่ง ซึ่งกำลังประสบปัญหาในการรักษาระดับสัดส่วนเงินทุนส่วนต่างหนี้เสีย ซึ่งทางการจีนอาจตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเมื่อความกังวลดังกล่าวลดลง
อย่างไรก็ตาม บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าสูงสุดในรอบ 13 เดือน โดยได้แรงหนุนจากเม็ดเงินไหลเข้าพันธบัตรและหุ้นไทย โดยค่าเงินบาทแข็งค่าแตะระดับสูงสุดที่ 34.50 ในช่วงสั้นๆ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2558 แม้ว่าในช่วงต้นสัปดาห์ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ยอมรับว่า เงินบาทที่แข็งค่าเร็วเกินไป จะไม่เป็นผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ พร้อมเตือนว่าความผันผวนจากการไหลเข้าออกของเงินทุนยังคงมีต่อไปและอาจจะรุนแรงขึ้นได้ ปัจจัยดังกล่าวเป็นแรงกดดันต่อราคาทองคำภายในประเทศ เบื้องต้นราคาทองคำเกิดแรงขายลงมาหลังไม่สามารถตั้งฐานเหนือ 1,335 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แม้อาจมีการดีดตัวกลับระยะสั้น แต่หากหลุดจุดต่ำสุดเดิมจากวันก่อนหน้าอีกครั้ง อาจเกิดแรงขายตามมาและอาจจะทำให้ราคาอ่อนตัวลงต่อไปทดสอบแนวรับโซน 1,313-1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,335 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้เกิดแรงขายทำกำไรสลับออกมาแต่หากราคาทองคำอ่อนตัวลงมาและสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่าจะกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายออกมาที่อาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,313 หรือ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคงถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้นอีกครั้ง แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,313 (21,470บาท) 1,300 (21,260บาท) 1,293 (21,140บาท)
แนวต้าน 1,335 (21,830บาท) 1,344 (21,980บาท) 1,353 (22,130บาท)
ที่มา:บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
กราฟราคาทองคำ
สภาวะตลาดวันที่ 26 สิงหาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,320.20-1,325.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,700 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,700 บาทต่อบาททองคำ
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.06 น.ของวันที่ 26/08/16)
แนวโน้มวันที่ 29 สิงหาคม 2559
นักวิจัยในคณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) โดย นายเกา ยูจิน ระบุในบทความว่า จีนยังคงมีโอกาสในการผ่อนคลายนโยบายการเงินลงไปอีก โดยให้เหตุผลว่าสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ยังคงอยู่ในระดับค่อนข้างสูงในปัจจุบัน และอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของจีนยังคงมีค่าเป็นบวก ซึ่งหากธนาคารกลางจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจริงจะส่งผลเชิงบวกต่อตลาดทองคำ เห็นได้จากในช่วงที่ธนาคารกลางจีนได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาแล้ว 6 ครั้งนับตั้งแต่ปลายปี 2557 และได้ปรับลด RRR ลงมาแล้ว 5 ครั้ง ราคาทองคำตอบรับในเชิงบวกเสมอ ประกอบกับหากปัญหาหนี้เสียในจีนหากได้รับการแก้ไขอย่างค่อยเป็นค่อยไปจะส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์จีนที่ต้องแบกรับยอดขาดทุนลดลง เมื่อรัฐบาลกำลังดำเนินการเพื่อช่วยเหลือธนาคารขนาดเล็กบางแห่ง ซึ่งกำลังประสบปัญหาในการรักษาระดับสัดส่วนเงินทุนส่วนต่างหนี้เสีย ซึ่งทางการจีนอาจตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเมื่อความกังวลดังกล่าวลดลง
อย่างไรก็ตาม บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าสูงสุดในรอบ 13 เดือน โดยได้แรงหนุนจากเม็ดเงินไหลเข้าพันธบัตรและหุ้นไทย โดยค่าเงินบาทแข็งค่าแตะระดับสูงสุดที่ 34.50 ในช่วงสั้นๆ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2558 แม้ว่าในช่วงต้นสัปดาห์ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ยอมรับว่า เงินบาทที่แข็งค่าเร็วเกินไป จะไม่เป็นผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ พร้อมเตือนว่าความผันผวนจากการไหลเข้าออกของเงินทุนยังคงมีต่อไปและอาจจะรุนแรงขึ้นได้ ปัจจัยดังกล่าวเป็นแรงกดดันต่อราคาทองคำภายในประเทศ เบื้องต้นราคาทองคำเกิดแรงขายลงมาหลังไม่สามารถตั้งฐานเหนือ 1,335 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แม้อาจมีการดีดตัวกลับระยะสั้น แต่หากหลุดจุดต่ำสุดเดิมจากวันก่อนหน้าอีกครั้ง อาจเกิดแรงขายตามมาและอาจจะทำให้ราคาอ่อนตัวลงต่อไปทดสอบแนวรับโซน 1,313-1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,335 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้เกิดแรงขายทำกำไรสลับออกมาแต่หากราคาทองคำอ่อนตัวลงมาและสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่าจะกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายออกมาที่อาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,313 หรือ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคงถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้นอีกครั้ง แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,313 (21,470บาท) 1,300 (21,260บาท) 1,293 (21,140บาท)
แนวต้าน 1,335 (21,830บาท) 1,344 (21,980บาท) 1,353 (22,130บาท)
ที่มา:บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
กราฟราคาทองคำ
