KEY
POINTS
โรงเรียนประจำอิสลาม "อัลโคซินี" (Al Khoziny) ที่ตั้งอยู่ในเมืองสิโดอาร์โจ จังหวัดชวาตะวันออก อินโดนีเซียพังถล่มในช่วงที่นักเรียนและคนงานกำลังทำละหมาดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 คน และมีอีก 38 คนที่คาดว่ายังติดอยู่ใต้ซากอาคาร ขณะที่มีผู้รอดชีวิตมากถึง 99 คน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในขณะที่อาคารยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยหน่วยงานบรรเทาสาธารณภัยของอินโดนีเซียได้รายงานว่าสาเหตุหลักมาจากโครงสร้างฐานรากไม่สามารถรองรับน้ำหนักของการก่อสร้างชั้นที่ 4 ได้ ทำให้วัสดุก่อสร้างพังทลายลงมาใส่นักเรียนและคนงานจำนวนมาก เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนไม่มีใครทันได้ระวังตัว
โมฮัมหมัด ชาฟีอี หัวหน้าหน่วยค้นหาและกู้ภัยของอินโดนีเซีย บอกว่าเจ้าหน้าที่กำลังเร่งนำรถขุดและเครนเข้าพื้นที่เพื่อเคลียร์ซากปรักหักพัง แต่ในบางจุดยังไม่สามารถใช้เครื่องจักรหนักได้ เพราะกลัวว่าจะทำให้โครงสร้างที่เหลืออยู่พังทลายเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน นานัง ซีกิต เจ้าหน้าที่กู้ภัยในท้องถิ่นยืนยันว่ามีผู้สูญหายอีก 38 คนที่กำลังอยู่ในการค้นหา
อับดุล มูฮารี โฆษกหน่วยงานบรรเทาสาธารณภัยกล่าวว่า เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้บาดเจ็บเกือบ 80 คนถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลทันทีหลังจากที่อาคารพัง ภาพข่าวจากสื่อท้องถิ่น KompasTV แสดงให้เห็นถึงความวุ่นวาย ครอบครัวของนักเรียนต่างมารวมตัวกันหน้ากระดานที่ใช้แสดงรายชื่อผู้รอดชีวิตเพื่อรอข่าวจากญาติอย่างใจจดใจจ่อ
ในขณะเดียวกัน อับดุส ซาลาม มูจิบ ผู้ดูแลโรงเรียนได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Antara ว่าการก่อสร้างนั้นสิ้นสุดลงก่อนถึงเวลาอธิษฐาน แต่ยอมรับว่าโครงสร้างฐานรากไม่สามารถรองรับน้ำหนักได้เพียงพอ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้อาคารพังทลาย โดยในขณะนี้เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียยังคงทำงานอย่างเต็มที่เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตจากซากปรักหักพังในขณะที่ครอบครัวของผู้ประสบเหตุต่างเฝ้ารอด้วยความหวังและความกังวล