KEY
POINTS
ราคาทองคำทะยานทำสถิติสูงสุดใหม่ในตลาดโลกอีกครั้ง โดยเช้าวันอังคารตามเวลาเอเชีย ราคาทองคำสปอตขยับขึ้น 0.1% แตะ 3,681.18 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากช่วงต้นตลาดพุ่งขึ้นไปสูงสุดที่ 3,689.27 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่สัญญาทองคำล่วงหน้าสหรัฐฯ ส่งมอบเดือนธันวาคมเคลื่อนไหวที่ 3,718.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปัจจัยหลักที่หนุนราคาทองคำครั้งนี้คือค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนแรงลงอย่างต่อเนื่อง โดยดัชนีดอลลาร์ (DXY) ร่วงลงมาใกล้ระดับต่ำสุดรอบ 2 เดือนครึ่งเมื่อเทียบกับยูโร และใกล้จุดต่ำสุดรอบ 10 เดือนเมื่อเทียบกับค่าเงินออสเตรเลียที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งทำให้ทองคำมีราคาถูกลงในสายตานักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
แรงเก็งกำไรในตลาดยังมาจากความคาดหวังต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่กำลังจะประกาศผลการประชุมในวันพุธนี้ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ให้น้ำหนักเกือบ 100% ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยลง 0.25% และยังมีโอกาสเล็กน้อยที่จะมีการหั่นแรงถึง 0.50% ตามการประเมินของ CME FedWatch Tool การคาดการณ์ดังกล่าวยิ่งสร้างแรงซื้อทองคำ เพราะอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงทำให้ต้นทุนในการถือครองสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนอย่างทองคำลดต่ำลง ขณะเดียวกันยังเป็นแรงกดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงอีกด้วย
ไคล์ รอดดา นักวิเคราะห์จาก Capital.com เปิดเผยว่า บรรยากาศในตลาดตอนนี้เป็นบวกอย่างชัดเจนต่อทองคำ เพราะนักลงทุนเชื่อมั่นในทิศทางลดดอกเบี้ยของเฟดในรอบนี้และช่วงต่อไป แต่ก็เตือนว่าหากเฟดส่งสัญญาณไม่ตรงตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ราคาทองคำอาจสะดุดชั่วคราว อย่างไรก็ตาม หากเฟดยืนยันท่าทีสอดคล้องกับราคาที่สะท้อนอยู่ในตลาด นั่นอาจเป็นแรงผลักดันให้ทองคำพุ่งทะลุแนว 3,700 ดอลลาร์ได้
แรงกดดันต่อเฟดยังมาจากฝั่งการเมืองโดยตรง เมื่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียเมื่อวันจันทร์ เรียกร้องให้เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด จัดการลดดอกเบี้ย “ขนาดใหญ่” กว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งสะท้อนความตึงเครียดระหว่างฝ่ายการเมืองและธนาคารกลาง นอกจากนี้ ยังมีแรงกระเพื่อมเพิ่มเติมจากคำตัดสินของศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ ที่ปฏิเสธคำร้องของทรัมป์ในการปลด ลิซ่า คุก ผู้ว่าการเฟด ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่ทำให้ประเด็นเรื่องความเป็นอิสระของเฟดกลับมาอยู่ในความสนใจอีกครั้ง
ขณะที่ฝั่งกองทุนทองคำ SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการถือครองเพิ่มขึ้น 0.21% แตะ 976.80 ตันในวันจันทร์ที่ผ่านมา จาก 974.80 ตันเมื่อวันศุกร์ แสดงถึงแรงซื้อทองคำที่ไหลเข้าสู่ตลาดการลงทุนมากขึ้น
นอกจากทองคำแล้ว สินทรัพย์ตระกูลโลหะมีค่าต่างเผชิญแรงกดดันในทิศทางตรงข้าม โดยราคาสปอตซิลเวอร์ลดลง 0.4% อยู่ที่ 42.52 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่แพลทินัมลดลง 0.5% อยู่ที่ 1,394.37 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และพัลลาเดียมอ่อนตัวลง 0.3% อยู่ที่ 1,180.64 ดอลลาร์ต่อออนซ์