ดาวโจนส์ร่วงแรงกว่า 204.57 จุด เหตุผิดหวังผลประกอบการบ.รายใหญ่

30 ก.ค. 2568 | 01:52 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ก.ค. 2568 | 01:52 น.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงแรงกว่า 204.57 จุด เหตุผิดหวังผลประกอบการของบริษัทรายใหญ่ และรอผลการประชุมเฟด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (29 ก.ค.) หลังจากบริษัทรายใหญ่หลายแห่งซึ่งรวมถึงยูไนเต็ดเฮลธ์ (UnitedHealth) เปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง 

ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันนี้ และรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร

  • ดาวโจนส์ปิดที่ 44,632.99 จุด ลดลง 204.57 จุด หรือ -0.46%, 
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,370.86 จุด ลดลง 18.91 จุด หรือ -0.30% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,098.29 จุด ลดลง 80.29 จุด หรือ -0.38%

ดาวโจนส์ร่วงแรงกว่า 204.57 จุด เหตุผิดหวังผลประกอบการบ.รายใหญ่

หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลง 1.14% ตามด้วยหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยปรับตัวลง 0.73% 

ส่วนหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มสาธารณูปโภคดีดตัวขึ้น 1.7% และ 1.17% 

หุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ ซึ่งเป็นบริษัทประกันสุขภาพรายใหญ่ของสหรัฐฯ ร่วงลง 7.5% และเป็นปัจจัยฉุดดัชนีดาวโจนส์มากที่สุด หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์กำไรที่น่าผิดหวัง

หุ้นโบอิ้ง (Boeing) ร่วงลง 4.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนต่อหุ้น 1.24 ดอลลาร์ แม้ตัวเลขดังกล่าวจะต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.48 ดอลลาร์ 

โดยครั้งล่าสุดที่โบอิ้งรายงานผลกำไรเกิดขึ้นในปี 2561 แต่หลังจากนั้น ผลประกอบการของบริษัทก็ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เครื่องบินโบอิ้ง 737 Max ตกถึง 2 ครั้ง รวมทั้งผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตลอดจนค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น และการตรวจพบความบกพร่องในการผลิตเครื่องบิน

นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีในกลุ่ม Magnificent Seven ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงแอปเปิ้ล (Apple), ไมโครซอฟท์ (Microsoft), เมตา (Meta) และอะเมซอนดอทคอม (Amazon.com)

ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ (30 ก.ค.) ตามเวลาสหรัฐฯ และจับตาการแถลงข่าวของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด โดยตลาดคาดการณ์ว่าคณะกรรมการเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมครั้งนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ค.จาก ADP, ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2568, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมิ.ย., ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.