“อีลอน มัสก์” แตกหัก “ทรัมป์” จุดจบมหาเศรษฐีโลกหรือจุดเริ่มอำนาจใหม่?

อีลอน มัสก์ และโดนัลด์ ทรัมป์ กลายเป็นคู่หูที่พลิกสถานะเป็น "คู่ขัดแย้ง" อย่างคาดไม่ถึงในต้นเดือนมิถุนายน 2025 เมื่อมัสก์ออกมาวิพากษ์วิจารณ์กฎหมายฉบับ "One Big Beautiful Bill Act" ของฝ่ายทรัมป์อย่างรุนแรง โดยเรียกว่าเป็น "ความน่าขยะแขยง” เพราะแม้จะลดภาษี แต่กลับเพิ่มหนี้ภาครัฐมหาศาล และตัดสิทธิประโยชน์รถยนต์ไฟฟ้าอย่าง EV tax credits ที่เป็นหัวใจสำคัญต่อธุรกิจของ Tesla หลังคำวิจารณ์นี้ ทรัมป์ตอบโต้ทันทีว่า "ความสัมพันธ์จบสิ้น" และเตรียมตัดสัญญารัฐบาลมูลค่ากว่า 22 พันล้านดอลลาร์ของ SpaceX รวมถึงยกเลิกงบสนับสนุนบริษัทในเครือมัสก์

ผลจากความขัดแย้งฉับพลันนี้ ทำให้ Tesla หุ้นร่วงถึง 14% วันเดียว กระทบมูลค่าตลาดกว่า 150,000 ล้านดอลลาร์ และทำให้ อีลอน มัสก์ สูญสินทรัพย์ส่วนตัวไป 34 พันล้านดอลลาร์ ถึงแม้ตลาดสั่นสะเทือนอย่างหนัก แต่นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley, Business Insider และ Politico ต่างเชื่อว่าสถานการณ์ในระยะยาวอาจถูกจำกัดให้อยู่ในกรอบ โดยเฉพาะภาคธุรกิจ AI, เทคโนโลยีอวกาศ และพลังงานสะอาดยังเดินหน้าท่ามกลางการเมืองที่หวือหวาชั่วคราว

สำหรับด้านโอกาส มัสก์ไม่ได้ยอมจำนน แต่เสนอยุทธศาสตร์ใหม่ที่น่าสนใจ ผ่านโพลบนแพลตฟอร์ม X ที่มีคนโหวตสนับสนุนมากถึง 80% ในแนวคิดจัดตั้ง "America Party" พรรคการเมืองสายกลาง เน้นเป็นทางเลือกระหว่างพรรคใหญ่ โดยร่วมกับ Andrew Yang ผู้ก่อตั้ง Forward Party ที่แสดงท่าทีพร้อมร่วมมือ ทำให้การเจาะฐานผู้มีแนวคิดใหม่ๆ อาจไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป

แม้ฝ่ายเดโมแครตจะยังไม่พร้อมอ้าแขนรับ มาร์กซิสต์อย่าง เบอร์นี่ แซนเดอร์ส เรียกมัสก์ว่าเป็น "คนขวาจัด" และไม่เห็นด้วยต่อการกลับดีลร่วมกับแพลตฟอร์มเดโมแครต ขณะที่นักการเมืองเดโมแครตบางคนมองว่ามีโอกาสทางกลยุทธ์ แต่ก็ระวังในการรับเงินบริจาคจากมัสก์โดยตรง

ด้านธุรกิจอวกาศ แม้มีกระแสข่าวว่ามัสก์เตรียมปิดการใช้งานแคปซูล Dragon เพื่อกดดัน แต่ก็ยอมถอนแนวทางดังกล่าวท่ามกลางแรงกดดันจากกฎหมายและสาธารณะ นักลงทุนมองว่าสัญญาของ SpaceX ยังมีแนวโน้มเสถียร แม้ต้องเผชิญแรงกดดันจากรัฐบาลก็ตาม

ทว่า ภายใต้กระแสความท้าทายนี้ มัสก์กำลังเดินหน้าสร้างความหลากหลายให้อนาคตของตน จากการตั้งพรรคการเมืองใหม่ ขยายธุรกิจด้าน AI‑หุ่นยนต์ หรือเร่งเดินหน้าโครงการ Tesla Robotaxi และ Starship เพื่อลดการพึ่งพิงแรงกดดันจากรัฐบาลใดโดยเฉพาะ

ขณะเดียวกัน แวดวงธุรกิจ นักลงทุน และนักวิเคราะห์เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยคาดการณ์ว่า มัสก์อาจได้รับผลตอบแทนด้านอำนาจต่อรองจากการสร้าง "อาณาจักรทางเลือก" ไม่ว่าจะเป็นพรรคกลางที่สร้างฐานเสียงใหม่ หรือเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ยุคหลังรัฐนิยม การแตกหักกับทรัมป์จึงไม่ได้เป็นเพียงข่าวฉาว แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ทางกลยุทธ์ สำหรับมหาเศรษฐีที่ก่อนหน้านี้ถูกมองว่า "อยู่ในร่มทรัมป์" อาจกำลังเดินเกมสู่โลกใหม่ของตนเอง

อีลอน มัสก์กำลังเดินทางอยู่บนเส้นขนานระหว่าง โอกาสใหม่ที่เปิดกว้าง เช่นโครงการ Robotaxi, พรรคการเมืองใหม่, และพลังของ AI อวกาศ กับ ความเสี่ยงทางการเมือง ที่อาจทำให้ฐานฝ่ายของเขาหลุดลุ่ย เช่น EV credits ถูกถอน และการถดถอยของภาพลักษณ์ Tesla ท่ามกลางคู่ขัดแย้ง สิ่งสำคัญคือการเลือกกลยุทธ์ใหม่เพื่อสร้าง "อาณาจักร" ที่ไม่ขึ้นอยู่กับสัญญากับรัฐบาลใดๆ เท่านั้น แต่หันไปสร้างอิทธิพลผ่านเทคโนโลยีใหม่และความนิยมทางสังคมอย่างจริงจัง