ผู้ประท้วงหลายพันคนทั่วสหรัฐฯ และยุโรปรวมตัวต่อต้านนโยบายทรัมป์ - มัสก์

05 เม.ย. 2568 | 23:21 น.
อัปเดตล่าสุด :05 เม.ย. 2568 | 23:30 น.

เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง ผู้คนกว่า 20,000 คนในวอชิงตันและอีกหลายพันในทั่วสหรัฐฯ พร้อมด้วยชาวอเมริกันในเบอร์ลิน ปารีส และลอนดอน แสดงจุดยืนต่อต้านนโยบายการตัดงบประมาณ การอพยพเข้าเมือง และการขึ้นภาษี ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก

6 เมษายน 2568 รอยเตอร์รายงานว่า ประชาชนหลายพันคนรวมตัวประท้วงในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และทั่วสหรัฐอเมริกาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวประท้วงกว่า 1,200 แห่งที่คาดว่าจะเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดเพื่อต่อต้านโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และอีลอน มัสก์ พันธมิตรมหาเศรษฐี นับตั้งแต่ทั้งคู่เริ่มดำเนินการปฏิรูปรัฐบาลและขยายอำนาจประธานาธิบดีอย่างรวดเร็ว

ผู้คนหลั่งไหลมารวมตัวกันบนสนามหญ้ากว้างใหญ่รอบอนุสาวรีย์วอชิงตันภายใต้ท้องฟ้าที่มืดครึ้มและฝนตกเบาๆ

การประท้วง ตัวต่อต้านนโยบายทรัมป์ - มัสก์ ในสหรัฐฯ

ผู้จัดงานแจ้งกับรอยเตอร์ว่าคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมการชุมนุมที่ National Mall มากกว่า 20,000 คน โดยมีกลุ่มนักกิจกรรมกว่า 150 กลุ่มลงทะเบียนเข้าร่วม ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ของงาน

 นอกจากนี้ยังมีการวางแผนจัดการประท้วงในทุกรัฐทั้ง 50 รัฐของสหรัฐฯ รวมถึงแคนาดาและเม็กซิโก

ผู้ประท้วงแสดงความไม่พอใจต่อนโยบายของทรัมป์ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น นโยบายการอพยพเข้าเมือง  โครงการ DOGE (Department of Government Efficiency) ที่บริหารโดยอีลอน มัสก์ การประกาศขึ้นภาษีนำเข้าครั้งใหญ่ นโยบายด้านการศึกษา และการตัดงบประมาณหน่วยงานรัฐบาล

เทอร์รี่ ไคลน์ นักวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์เกษียณจากเมืองพรินซ์ตัน รัฐนิวเจอร์ซีย์ กล่าวว่าเธอขับรถมาร่วมการชุมนุมเพื่อประท้วงนโยบายของทรัมป์ในทุกด้าน "ตั้งแต่การอพยพเข้าเมืองไปจนถึงเรื่อง DOGE ไปจนถึงการขึ้นภาษีในสัปดาห์นี้ ไปจนถึงการศึกษา ประเทศของเราทั้งประเทศกำลังถูกโจมตี ทุกสถาบันของเรา ทุกสิ่งที่ทำให้อเมริกาเป็นอย่างที่เป็นอยู่"

การประท้วง ตัวต่อต้านนโยบายทรัมป์ - มัสก์ ในสหรัฐฯ

ภายใต้การอนุมัติของทรัมป์ ทีม Department of Government Efficiency (DOGE) ของมัสก์ได้ตัดตำแหน่งงานมากกว่า 200,000 ตำแหน่งจากแรงงานของรัฐบาลกลางทั้งหมด 2.3 ล้านตำแหน่ง ในบางครั้งความพยายามดังกล่าวเป็นไปอย่างไร้ระเบียบและบังคับให้ต้องเรียกผู้เชี่ยวชาญที่จำเป็นกลับมา

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กรมสรรพากร (IRS) เริ่มปลดพนักงานมากกว่า 20,000 คน ซึ่งคิดเป็น 25% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด

นอกจากการประท้วงในสหรัฐฯ แล้ว ชาวอเมริกันหลายร้อยคนที่อาศัยอยู่ในยุโรปยังได้รวมตัวกันในเบอร์ลิน แฟรงก์เฟิร์ต ปารีส และลอนดอน เพื่อแสดงการคัดค้านต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศและในประเทศของสหรัฐฯ อย่างกว้างขวางของทรัมป์

ในเมืองแฟรงก์เฟิร์ตของเยอรมนี การประท้วง "Hands Off!" จัดขึ้นโดย Democrats Abroad ซึ่งเป็นองค์กรอย่างเป็นทางการของพรรคเดโมแครตสำหรับพลเมืองสหรัฐฯ ที่อาศัยอยู่ต่างประเทศ ส่วนในเบอร์ลิน ผู้ประท้วงได้ชูป้ายหน้าโชว์รูม Tesla เรียกร้องให้ชาวอเมริกันที่อาศัยอยู่ในเยอรมนีประท้วงเพื่อ "ยุติความวุ่นวาย" ในบ้านเกิด

ในกรุงปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศส ชาวอเมริกันประมาณ 200 คนรวมตัวกันที่ Place de la République เพื่อประท้วงต่อต้านทรัมป์ บางคนกล่าวสุนทรพจน์ประณามประธานาธิบดี โดยผู้ประท้วงโบกธงที่มีข้อความตั้งแต่ "ต่อต้านทรราช" "หลักนิติธรรม" "นักสตรีนิยมเพื่อเสรีภาพไม่ใช่ลัทธิฟาสซิสต์" และ "ปกป้องประชาธิปไตย"

ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีทรัมป์ใช้เวลาทั้งวันในฟลอริดา โดยเล่นกอล์ฟที่คลับของเขาในจูปิเตอร์ก่อนจะกลับไปที่ Mar-a-Lago ในช่วงบ่าย

ห่างจาก Mar-a-Lago ประมาณ 4 ไมล์ (6 กิโลเมตร) ในเวสต์ปาล์มบีช มีผู้ชุมนุมมากกว่า 400 คนรวมตัวกันในวันที่แดดจ้าเพื่อประท้วง โดยมีป้ายหนึ่งเขียนว่า "ตลาดร่วง ทรัมป์เล่นกอล์ฟ"

การประท้วง ตัวต่อต้านนโยบายทรัมป์ - มัสก์ ในสหรัฐฯ ลิซ ฮูสตัน ผู้ช่วยเลขานุการสื่อมวลชนทำเนียบขาว ได้โต้แย้งข้อกล่าวหาของผู้ประท้วงที่ว่าทรัมป์มีเป้าหมายที่จะตัดงบประมาณประกันสังคมและ Medicaid โดยกล่าวว่า จุดยืนของประธานาธิบดีทรัมป์ชัดเจน เขาจะปกป้องประกันสังคม Medicare และ Medicaid สำหรับผู้ที่มีสิทธิ์รับเสมอ

ในขณะเดียวกัน จุดยืนของพวกเดโมแครตคือการให้สิทธิประโยชน์ประกันสังคม Medicaid และ Medicare แก่ผู้อพยพที่ผิดกฎหมาย ซึ่งจะทำให้โปรแกรมเหล่านี้ล้มละลายและทำร้ายผู้สูงอายุชาวอเมริกัน