ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวปราศรัยในฟอรัมเศรษฐกิจโลกที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผ่านระบบออนไลน์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการปรากฏตัวครั้งสำคัญครั้งแรกในงานระดับนานาชาติ นับตั้งแต่กลับมาที่ทำเนียบขาวเมื่อต้นสัปดาห์นี้
ตลอดเวลา 45 นาที ทรัมป์สร้างแรงกดดันต่อประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ เช่น แคนาดา เม็กซิโก และจีน ด้วยการขู่เก็บภาษีนำเข้าในอัตราที่สูง หากไม่ใช้สหรัฐฯ เป็นฐานการผลิต โดยเขาเน้นว่า
มาผลิตสินค้าในอเมริกา แล้วเราจะให้อัตราภาษีต่ำที่สุด หากไม่ทำ คุณจะต้องจ่ายภาษี มันง่ายๆ แค่นั้น
มาตรการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการผลักดันเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งทรัมป์ย้ำว่ารัฐบาลของเขาจะให้ความสำคัญกับการสร้างงานและการผลิตในสหรัฐฯ
ตั้งแต่เริ่มรับตำแหน่ง ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวว่ารัฐบาลกรุงวอชิงตันอาจเริ่มเก็บภาษีนำเข้าในอัตราที่สูงต่อประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ เช่น เเคนาดา เม็กซิโกและจีน ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์
ทรัมป์พุ่งเป้าไปที่ธนาคารกลางสหรัฐ โดยเขาจะกดดันให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย แม้จะไม่ได้กล่าวถึงเฟดโดยตรง แต่คำพูดนี้นับเป็นการวิจารณ์นโยบายของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ อย่างเปิดเผย ซึ่งทรัมป์เคยโจมตีว่าเป็น “คนโง่” และเปรียบเทียบกับนักกอล์ฟที่พัตต์ไม่เก่ง
ผมขอเรียกร้องให้อัตราดอกเบี้ยลดลงทันที และอัตราดอกเบี้ยก็ควรลดลงทั่วโลก อัตราดอกเบี้ยก็ควรลดลงตามไปด้วย
ตลาดหุ้นตอบสนองในเชิงบวกเล็กน้อยต่อคำกล่าวของทรัมป์ โดยดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปี ซึ่งไวต่อการเปลี่ยนแปลงของนโยบายการเงิน ลดลงเล็กน้อย
ทรัมป์ยังโยงประเด็นราคาน้ำมันเข้ากับความขัดแย้งในยูเครน โดยกล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ต่ำจะช่วยให้สงครามรัสเซีย-ยูเครนจบลง พร้อมระบุว่า ได้ขอความร่วมมือจากซาอุดีอาระเบียและกลุ่มโอเปกในการลดราคาน้ำมัน เพื่อกดดันรัสเซีย
ตอนนี้ราคาน้ำมันสูงเกินไป จนทำให้สงครามดำเนินต่อไปได้