หนุ่ม-สาวเมียนมา แห่ทำวีซ่าเข้าไทย หลังรัฐบาลบังคับเกณฑ์ทหาร

28 ก.พ. 2567 | 10:34 น.

เมียนมา ประกาศบังคับเกณฑ์ทหาร ประชาชนนับพันคนจ่อทำวีซ่า หวังออกนอกประเทศก่อนสถานทูตระงับการเดินทาง เล็งตั้งหลักหางานทำในไทย สิงคโปร์ และไอซ์แลนด์

สำนักข่าว BBC สิงคโปร์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 รัฐบาลของเมียนมาได้มีการประกาศนำกฎหมายการเกณฑ์ทหารที่มีการเริ่มใช้ครั้งแรกในปี 2553 มาบังคับใช้ โดยกฎหมายกำหนดให้ผู้ชายทุกคนอายุ 18 ถึง 35 ปี และผู้หญิงอายุ 18 ถึง 27 ปี เข้ารับราชการทหารอย่างน้อย 2 ปี

ทั้งนี้ รัฐบาลได้ระบุในเวลาต่อมาว่า ไม่ได้มีการวางแผนที่จะรวมผู้หญิงเข้ากลุ่มทหารเกณฑ์ในเวลานี้ แต่ก็ไม่ได้มีการชี้แจงที่ชัดเจน ด้านโฆษกรัฐบาล พล.ต. Zaw Min Tun เผยจะมีการเรียกตัวหลังเทศกาลติงยาน (Thingyan) หรือ เทศกาลสงกรานต์ ของเมียนมา (วันขึ้นปีใหม่) ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 17 เมษายน ทั่วประเทศ โดยจะมีผู้สมัครชุดแรกจำนวน 5,000 คน 

หนุ่มสาวชาวเมียนมา มองหาโอกาสในการหลีกเลี่ยงเข้าเกณฑ์ทหาร

การประกาศดังกล่าวของรัฐบาลได้ส่งผลกระทบต่อคนหนุ่มสาวของเมียนมาอีกครั้ง หลังจากเกิดการรัฐประหารที่ทำให้การศึกษาในประเทศหยุดชะงักลงจำนวนมาก และยังไม่รวมไปถึงการปิดโรงเรียนในช่วงที่มีการแพร่ระบาดในระดับสูงสุดของโควิด-19 

นอกจากนี้ ในปี 2564 รัฐบาลทหารได้สั่งพักงานครูและเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัย 145,000 คน เนื่องจากพบการสนับสนุนฝ่ายค้านตามการระบุของสหพันธ์ครูเมียนมา รวมถึงมีโรงเรียนบางแห่งในพื้นที่ที่ถูกฝ่ายต่อต้านยึดครองถูกทำลายจากการสู้รบหรือการโจมตีทางอากาศ และยังมีผู้ที่หนีข้ามพรมแดนมาลี้ภัย รวมถึงคนหนุ่มสาวที่กำลังมองหางานทำเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว 

ชาวเมียนมาบางคนได้กล่าวบนโซเชียลมีเดียของตนว่า จะขอเข้าเป็นพระภิกษุหรือแต่งงานให้เร็วขึ้น เพื่อหลบเลี่ยงการรับราชการทหารและเพื่อตอบโต้ต่อกฎหมายเกณฑ์ทหาร เนื่องจากรัฐบาลทหารระบุว่า จะมีการยกเว้นให้กับสมาชิกในคณะนักบวช ผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ผู้ทุพพลภาพ ผู้ที่ถูกประเมินว่าไม่เหมาะรับราชการทหาร และผู้ที่ได้รับการยกเว้นจากคณะกรรมการเกณฑ์ทหารอย่างถาวร สำหรับคนอื่นๆ การหลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหารมีโทษจำคุก 3-5 ปี และมีโทษปรับ 

ชาวเมียนมาวางแผนย้ายครอบครัวออกนอกประเทศ เล็งไทย สิงคโปร์ ไอซ์แลนด์

ในบรรดาหนุ่มสาวที่เดินทางไปขอวีซ่าหลังจากมีการประกาศบังคับเกณฑ์ทหาร กังวลว่าทางสถานทูตจะระงับการดำเนินการเกี่ยวกับวีซ่าท่ามกลางความสับสนวุ่นวายที่เกิดขึ้น หลังผู้คนทะลักเข้าทำเรื่องออกนอกประเทศเป็นจำนวนหลายร้อยคนต่อวัน พร้อมเสริมว่าบางคนถึงขั้นต้องรอถึง 3 วันก่อนที่จะได้รับหมายเลขคิว

ด้านครอบครัวที่ร่ำรวยกว่าก็กำลังพิจารณาที่จะย้ายครอบครัวไปตั้งถิ่นฐานในต่างประเทศ โดยประเทศตัวเลือกยอดนิยม ได้แก่ ประเทศไทย และสิงคโปร์ แต่บางครอบครัวก็มองไปไกลถึงไอซ์แลนด์ ด้วยความหวังว่าลูกๆ ของพวกเขาจะได้รับถิ่นที่อยู่ถาวร หรือได้รับสัญชาติของที่นั่น เมื่อถึงวัยเกณฑ์ทหาร

ในส่วนของประเทศไทย หากอิงข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศ ประเทศไทย ชาวเมียนมาหรือผู้ถือหนังสือเดินทางเมียนมาจะได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราหรือฟรีวีซ่า เฉพาะผู้ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวผ่านท่าอากาศยานนานาชาติ และสามารถอยู่ในไทยได้ไม่เกิน 14 วัน ด้านผู้ที่ถือวีซ่าท่องเที่ยวจะสามารถอยู่ในไทยได้มากสุด 60 วัน จากนั้นต้องเดินทางไปยังกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ณ ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ

รัฐบาลทหารเมียนมาล้มเหลว ประชาชนหันพึ่งต่างประเทศ ลี้ภัยการออกรบ

นาย Tower คาดว่า ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลในครั้งนี้จะล้มเหลว เนื่องจากมีความไม่พอใจต่อรัฐบาลทหารเพิ่มมากขึ้น เยาวชนจำนวนมากที่หลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหารจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้เกิดวิกฤติด้านมนุษยธรรมและผู้ลี้ภัยในภูมิภาคที่รุนแรงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความคับข้องใจเพิ่มมากขึ้นในประเทศไทย อินเดีย จีน และบังกลาเทศ

โดยทั้งหมดนี้ อาจเบี่ยงเบนไปจากแรงสนับสนุนรัฐบาลทหารที่หลงเหลืออยู่ และแม้กองทัพจะเพิ่มจำนวนกองทหารได้ก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ช่วยรับมือกับขวัญกำลังใจในกองทหารที่ถดถอยลงได้มากนัก นอกจากนี้ ยังต้องใช้เวลาหลายเดือนในการฝึกทหารใหม่ 

ด้าน Aung Sett ผู้นำนักศึกษากล่าว “เป็นเรื่องยากมากสำหรับคนหนุ่มสาวในเมียนมา ทั้งทางร่างกายและจิตใจ เราสูญเสียความฝัน ความหวัง และวัยเยาว์ของเราไปแล้ว มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว” พร้อมทิ้งท้ายว่า 3 ปีมานี้ผ่านไปอย่างว่างเปล่า พวกเขาสูญเสียเพื่อนและเพื่อนร่วมงานไปในระหว่างการต่อสู้กับรัฐบาลเผด็จการทหาร หลายครอบครัวได้สูญเสียคนที่รัก อันเป็นฝันร้ายของประเทศนี้ และได้พบเห็นความโหดร้ายที่กระทำโดยรัฐบาลทหารเป็นประจำทุกวัน เพียงแต่แสดงออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ 

 

ขอบคุณที่มา : สำนักข่าว BBC สิงคโปร์ , กระทรวงการต่างประเทศ ประเทศไทย