สส.สหรัฐจวกสภาธุรกิจ ขายบัตรดินเนอร์ 1.4 ล้าน ร่วมโต๊ะสี จิ้นผิง "แพงไร้สติ"

15 พ.ย. 2566 | 10:36 น.

ค่าบัตรงานดินเนอร์หรูหัวละ 1.4 ล้านเพื่อร่วมโต๊ะกับ "สี จิ้นผิง" จัดโดยสภาธุรกิจสหรัฐ-จีน กลายเป็นประเด็นร้อนในสหรัฐ สส.มะกัน ประธานคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนฯ โวยลั่น "แพงไร้สติ" เรียกร้องผู้จัดเปิดเผยรายชื่อบุคคล-นิติบุคคลที่ซื้อบัตร

 

งานดินเนอร์หรูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่จัดโดย สภาธุรกิจสหรัฐ-จีน ร่วมกับ คณะกรรมาธิการแห่งชาติว่าด้วยความสัมพันธ์สหรัฐ-จีน ที่จำหน่ายให้แก่บรรดาผู้บริหารองค์กรธุรกิจหัวละ 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.4 ล้านบาท เพื่อร่วมโต๊ะแบบใกล้ชิดกับ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์สุดเผ็ดร้อนในสหรัฐ ท่ามกลางบรรยากาศการเป็นเจ้าภาพจัดงาน การประชุมผู้นำเอเปค ที่นครซานฟรานซิสโกในช่วงสัปดาห์นี้

สื่อสหรัฐตีข่าวบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านไฮเทคหลายรายยอมจ่ายค่าโต๊ะดินเนอร์หัวละ 40,000 ดอลลาร์ หรือกว่า 1.4 ล้านบาท เพื่อได้ร่วมโต๊ะรับประทานอาหารกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนที่เดินทางเยือนสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี โดยครั้งล่าสุดก่อนหน้านี้ เขามาเยือนสหรัฐในเดือนเม.ย. 2560 ซึ่งได้พบกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐในขณะนั้น ที่รัฐฟลอริดา 

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เดินทางถึงนครซานฟรานซิสโก เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำเอเปคปีนี้ที่สหรัฐเป็นเจ้าภาพ

ปธน.สี จิ้นผิง ผู้นำจีนมาเยือนสหรัฐครั้งนี้โดยมีภารกิจหลักคือ มาร่วมการประชุมระดับผู้นำของกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค ครั้งที่30 ซึ่งสหรัฐเวียนกลับมาเป็นเจ้าภาพอีกครั้งในรอบ 12 ปี ท่ามกลางบรรยากาศความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐที่ไม่ค่อยดีนัก โดยนักวิเคราะห์กล่าวว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ตกต่ำย่ำแย่มากที่สุดของประเทศมหาอำนาจสองรายนี้ในรอบ 4 ทศวรรษเลยก็ว่าได้

ขณะที่ผู้บริหารบางรายได้รับเชิญเข้าร่วมงานดินเนอร์ดังกล่าว บางรายที่ไม่ได้รับเชิญก็ยอมจ่ายค่าบัตรราคา 40,000 ดอลลาร์ (กว่า 1.4 ล้านบาท) เพื่อได้ร่วมโต๊ะรับประทานอาหารกับผู้นำจีน ทั้งสององค์กรที่เป็นเจ้าภาพจัดงานคือ สภาธุรกิจสหรัฐ-จีน (US-China Business Council:USCBC) และ คณะกรรมาธิการแห่งชาติว่าด้วยความสัมพันธ์สหรัฐ-จีน (National Committee on US-China Relations:NCUSCR) เป็นองค์กรสำหรับบริษัทอเมริกันที่ทำธุรกิจหรือร่วมลงทุนอยู่กับจีน

นายไมค์ กาลลาเกอร์ สส.พรรครีพับลิกันจากรัฐวิสคอนซิน ประธานคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐที่ดูแลเกี่ยวกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน เปิดประเด็นเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตำหนิว่า ราคาบัตรค่าดินเนอร์ร่วมโต๊ะประธานาธิบดีสี จิ้นผิงนั้น แพงแบบ “ไร้สติ” 

สส.กาลลาเกอร์ โพสต์บน X ต่อต้านการขายบัตร 40,000 ดอลลาร์สำหรับงานเลี้ยงดินเนอร์หรูร่วมโต๊ะผู้นำจีน

กาลลาเกอร์ระบุว่า ราคาบัตร 40,000 ดอลลาร์เพื่อให้ได้นั่งร่วมโต๊ะดินเนอร์กับสี จิ้นผิง เทียบเท่าราคาซื้อรถใหม่ 1 คัน

“การที่บริษัทอเมริกันหลายรายยอมจ่ายเงินหลายพันหลายหมื่นดอลลาร์เพื่อให้ได้นั่งโต๊ะอาหารเลี้ยงต้อนรับเจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนที่สั่งกวาดล้างผู้บริสุทธิ์นับล้านๆ คนทั้งชาย หญิง และเด็กในมณฑลซินเจียง มันเป็นเรื่องที่ไร้สติจริงๆ” เนื้อส่วนหนึ่งในจดหมายที่คณะกรรมาธิการของนายกาลลาเกอร์ส่งให้กับ 2 องค์กรผู้จัดงานเลี้ยงดังกล่าวระบุ

คณะกรรมาธิการชุดนี้ซึ่งทำหน้าที่ด้านนโยบายเพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงเกี่ยวกับการเผชิญหน้าและการแข่งขัน ระหว่างรัฐบาลสหรัฐและรัฐบาลจีน ยังได้กล่าวหา 2 องค์กรผู้จัดงานเลี้ยงต้อนรับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ว่าควรจะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดว่าพวกเขามีบทบาทเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนอย่างไร   

“การที่ USCBC และ NCUSCR ตัดสินใจที่จะทำกำไรจากการขายบัตรให้บริษัทอเมริกันได้เข้าถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีส่วนต้องรับผิดชอบกับการล้างเผ่าพันธุ์ชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์ทำให้เกิดคำถามว่า จริงๆแล้ว 2 องค์กรนี้มีบทบาทที่ต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนหรือไม่” 

กาลลาเกอร์ย้ำอีกครั้งบนโพสต์ X (ทวิตเตอร์)ของเขาวานนี้ (14 พ.ย.)ว่า “เงิน 40,000 ดอลลาร์อาจซื้อมื้ออาหารให้คุณได้นั่งกินกับสี จิ้นผิง แต่มันไม่สามารถซื้อจิตสำนึกให้พวกคุณได้”

นอกจากนี้ ในจดหมายของคณะกรรมาธิการฯ ยังเรียกร้องให้ทั้งสององค์กรที่จัดงานเลี้ยงดังกล่าว เปิดเผยรายชื่อทั้งหมดของบุคคล นิติบุคคล สถาบันการเงิน หรือบริษัท ที่จ่ายเงินซื้อบัตรนั่งโต๊ะดินเนอร์หรูครั้งนี้ โดยให้แยกรายชื่อออกมาด้วยว่าใครบ้างที่จ่ายเงิน 40,000 ดอลลาร์เพื่อซื้อบัตรนั่งร่วมโต๊ะดินเนอร์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง

กาลลาเกอร์ยังเรียกร้องให้ 2 องค์กรดังกล่าวแจกแจงว่า มีการแบ่งรายได้และกำไรจากงานนี้กันอย่างไร และทั้ง 2 องค์กรก่อนหน้านี้ได้ทำอะไรบ้างเพื่อคัดค้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนในจีน

นอกจากนี้ ยังกล่าวเตือนว่า สถาบันการเงินที่คิดจะเข้าหาเจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนเพราะมองว่าเป็นโอกาสที่อาจจะทำให้ได้สัญญาใหม่ๆ เพื่อจะสามารถสนับสนุนทางการเงินหรือทางเทคโนโลยีให้กับบริษัทจีน ขอให้ตระหนักว่านั่นอาจเป็นการสนับสนุนให้จีนนำทรัพยากรเหล่านั้นไปพัฒนาเขี้ยวเล็บทางการทหารและอาจส่งเสริมการละเมิดสิทธิมนุษยชนในจีนก็เป็นได้  

สำนักข่าวบลูมเบิร์กและรอยเตอร์รายงานว่า มีผู้บริหารบริษัทไฮเทคชั้นนำของสหรัฐหลายรายที่ได้รับเชิญร่วมงานเลี้ยงต้อนรับปธน.สี จิ้นผิง อย่างไรก็ตาม งานเลี้ยงดังกล่าวไม่ได้อยู่ในลิสต์กิจกรรมอย่างเป็นทางการของการประชุมเอเปค แต่กำหนดมีขึ้นในคืนนี้ (15 พ.ย.) หลังจากที่ผู้นำจีนได้พบปะหารือทวิภาคีกับปธน.โจ ไบเดนแล้วในวันเดียวกัน

แม้ว่าจีนและสหรัฐจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีนักในระยะหลังๆนี้ ทั้งในประเด็นเกี่ยวกับไต้หวัน อิทธิพลของจีนในทะเลจีนใต้ การเป็นปฏิปักษ์กันเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์ และอื่นๆ แต่บริษัทอเมริกันหลายราย รวมทั้งยักษ์ใหญ่อย่างแอปเปิล อิงค์ ก็ยังต้องพึ่งพาตลาดจีนอย่างมากทั้งในแง่การผลิตและการจำหน่าย 

ขณะเดียวกัน จีนเองซึ่งเศรษฐกิจกำลังชะลอการเติบโตลงอย่างมาก ก็ต้องการเม็ดเงินการลงทุนจากต่างประเทศ และต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนเช่นกัน   

ข้อมูลอ้างอิง