เว็บไซต์ ซีทริป (CTrip) ซึ่งเป็นเว็บไซต์ให้บริการท่องเที่ยวรายใหญ่ที่สุดของจีน เปิดเผยว่า ไทย มีแนวโน้มเป็น จุดหมายปลายทางต่างประเทศยอดนิยมอันดับหนึ่ง ของ นักท่องเที่ยวชาวจีน ตามมาด้วยเกาหลีใต้ มาเลเซีย สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร โดยชาวจีนจองทริปเยือนต่างประเทศเพิ่มขึ้นถึงประมาณ 20 เท่าในช่วงหยุดยาววันชาติปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และชาวจีนจองโรงแรมในไทยเพิ่มขึ้นถึง 6,220% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565
เกี่ยวกับปรากฏการณ์ดังกล่าว นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเอ็กซ์ (X) หรือทวิตเตอร์วานนี้ (30 ก.ย.) แสดงความยินดีที่ชาวจีนสนใจเดินทางเยือนประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น หลังรัฐบาลไทยออกนโยบายฟรีวีซ่าชั่วคราวให้กับชาวจีนและคาซัคสถาน
"อ่านรายงานของ CNN ล่าสุดเรื่องที่พี่น้องชาวจีนตอบรับนโยบายฟรีวีซ่าชั่วคราวของรัฐบาลไทยแล้วรู้สึกดีใจแทนพี่ประชาชนและผู้ประกอบการไทยเป็นอย่างยิ่งครับ เพราะชาวจีนตัดสินใจมาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น" โพสต์ของนายเศรษฐาระบุ นายกฯยังกล่าวด้วยว่า "ประเทศไทยยินดีมากที่ได้ต้อนรับพี่น้องชาวจีนทุกคนครับ ประเทศเรามีทะเลที่สวยงาม อาหารไทยที่หลายหลาก หวังว่าทุกท่านจะท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยและประทับใจครับ"
ทั้งนี้ นโยบายฟรีวีซ่าของรัฐบาลไทยมีขึ้นในช่วง "สัปดาห์ทอง" (Golden Week) ของจีน ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันชาติจีน และสัปดาห์ทองในปีนี้ยังตรงกับเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ทำให้หยุดยาวตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย. - 8 ต.ค. อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในวันหยุดยาวครั้งแรกที่ประชาชนชาวจีนสามารถเดินทางได้อย่างอิสระเสรี หลังผ่านพ้นช่วงบังคับใช้มาตรการจำกัดการระบาดของโรคโควิด-19
ทางด้านสำนักข่าวซินหัว สื่อใหญ่ของทางการจีนได้แพร่ภาพ ผู้คนคับคั่งในสถานีรถไฟจีน เป็นเสมือนเอกลักษณ์การเริ่มต้นการเดินทางในช่วงวันหยุดยาวโกลเด้นวีค โดยภาพข่าวได้สะท้อนให้เห็นถึงบรรยากาศของ “กองทัพนักเดินทาง” ที่เตรียมตัวและเข้าแถวรอขึ้นรถไฟกันอย่างคับคั่งที่สถานีรถไฟในเมืองหลายแห่งของจีน อาทิ ปักกิ่ง อู่ฮั่น เซินเจิ้น และเจิ้งโจว เพื่อออกเดินทางในช่วงวันหยุดเทศกาลไหว้พระจันทร์และวันชาติจีน (ปีนี้ตรงกับวันที่ 29 ก.ย.-8 ต.ค.) นี้ นับเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวและเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนเดินทางกันจำนวนมากที่สุดเทศกาลหนึ่งในประเทศจีน
ข้อมูลอ้างอิง