ยูเครนสกัดแผนรัสเซียส่งสายลับลอบสังหาร “เซเลนสกี”

08 ส.ค. 2566 | 01:29 น.

ขณะที่สงครามรัสเซีย-ยูเครนยังคงระดมโจมตีกันอย่างหนักมาจนขณะนี้ รัฐบาลเคียฟเปิดเผยว่า รัสเซียได้พยายามส่ง “สายลับสาว” เข้ามาลอบสังหารปธน.เซเลนสกี ผู้นำยูเครน แต่ถูกจับกุมตัวได้เสียก่อน

 

สื่อต่างประเทศรายงานข่าวจาก ยูเครน วานนี้ (7 ส.ค.) ระบุ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของยูเครนได้เปิดเผยถึงการจับกุมสายลับของฝ่ายรัสเซีย ที่ร่วมมือดำเนิน แผนลอบสังหาร ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนแต่ไม่สำเร็จ

ทั้งนี้ หน่วยงานด้านความมั่นคงยูเครนเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวสตรีสัญชาติยูเครนรายหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับแผนลอบสังหารปธน.เซเลนสกี ขณะเดินทางเยือนเมืองมีโคลาอิฟเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่รักษากฎหมายของยูเครนยืนยันว่า ผู้ต้องสงสัยรายนี้ถูกรวบตัวได้ “คาหนังคาเขา” ในช่วงที่กำลังทำการส่งมอบข้อมูลเกี่ยวกับจุดที่ผู้นำยูเครนจะไปเยือนให้กับฝ่ายรัสเซีย เพื่อให้มีการโจมตีทางอากาศและสังหารนายเซเลนสกี

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยูเครนอ้างว่า ได้รับทราบเบาะแสแผนการลอบสังหารนี้ก่อนที่ปธน.เซเลนสกีจะเยือนเมืองมีโคลาอิฟ จึงได้ดำเนินการด้านความปลอดภัยเพิ่มเติมระหว่างที่เขาอยู่ในพื้นที่

ปธน.เซเลนสกีตกเป็นเป้าหมายการลอบสังหาร

รัสเซียถล่มหนัก “เคอร์ซอน-คาร์คิฟ”

ด้านนายโอเลกซานเดอร์ โพรคูดิน ผู้ว่าการเขตปกครองเคอร์ซอนในยูเครน เปิดเผยสถานการณ์สู้รบผ่านแอปพลิเคชันเทเลแกรมว่า รัสเซียเริ่มการโจมตีด้วยปืนใหญ่ในช่วงเที่ยงคืนก่อนหน้า ซึ่งดำเนินต่อเนื่องเป็นเวลาหลายชั่วโมง ขณะที่ อันดรีย์ เยอร์มัก หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบประธานาธิบดียูเครน กล่าวว่า การโจมตีของฝ่ายรัสเซียเข้าใส่เขตปกครองคาร์คิฟของยูเครนยังทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 3 คนด้วย

ส่วนที่เมืองโพครอฟสก์ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตปกครองดอแนตสก์ และที่เขตคูเพียนสก์ ในเขตปกครองคาร์คิฟ มีรายงานว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธเข้าใส่จนทำให้มีประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย 7 คน และบาดเจ็บอีก 31 คน

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างอิงนายเยอร์มัก หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบประธานาธิบดียูเครน ว่า ทหารยูเครนจำนวน 22 คนเพิ่งเดินทางกลับถึงประเทศ ภายใต้แผนการแลกเปลี่ยนตัวเชลยศึกเมื่อวันจันทร์ (7 ส.ค.) โดยในกลุ่มนี้มีเจ้าหน้าที่ทหารยศต่าง ๆ ที่ร่วมต่อสู้กับรัสเซียในพื้นที่ต่าง ๆ และมีบางคนที่ได้รับบาดเจ็บด้วย

การระดมโจมตีจากฝ่ายรัสเซียยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง

กระทรวงกลาโหมอังกฤษให้ความเห็นเกี่ยวกับการสู้รบรัสเซีย-ยูเครนในช่วงเวลานี้ว่า กองทัพอากาศของรัสเซียยังคงเดินหน้าใช้ทรัพยากรอย่างมหาศาลเพื่อสนับสนุนปฏิบัติการทางภาคพื้นดินในยูเครน แต่ดูเหมือนผลลัพธ์ของปฏิบัติการจะไม่เป็นตามคาดหมาย นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่า เครื่องบินรบทางยุทธวิธีของรัสเซียออกทำภารกิจถึงวันละกว่า 100 เที่ยวบิน แต่ถูกจำกัดอยู่ในอาณาเขตของยูเครนที่มอสโกควบคุมไว้เท่านั้น เนื่องจากภัยคุกคามจากระบบป้องกันภัยทางอากาศของฝ่ายยูเครน

ในส่วนของปฏิบัติการโจมตีโต้กลับของยูเครนนั้น เจ้าหน้าที่กรุงเคียฟออกมาโต้คำวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่า แผนการดังกล่าวเป็นไปอย่างเชื่องช้า โดยอธิบายว่า จุดมุ่งหมายของจังหวะการดำเนินการนี้ก็คือ การหลีกเลี่ยงการเสียชีวิตเป็นจำนวนมากของกำลังพล โดยเฉพาะเมื่อฝ่ายรัสเซียตรึงกำลังของตนไว้อย่างเข้มแข็ง ทั้งยังมีการฝังกับระเบิดเอาไว้มากมายด้วย

เวเลรี ซาลูชนี ผู้บัญชาการทหารบกยูเครน ยืนยันว่า ปฏิบัติการของยูเครนจะค่อย ๆ เดินหน้าต่อไปอย่างต่อเนื่อง และกองกำลังกรุงเคียฟก็สามารถรักษาแนวรับของตนไว้ได้ในหลายจุด ขณะที่การสู้รบกำลังหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ

ความพยายามการประชุมสันติภาพที่ซาอุดีอาระเบีย

หลังการประชุมเพื่อหารือการยุติสงครามในยูเครนที่ซาอุดีอาระเบียเป็นเจ้าภาพเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อันดรีย์ เยอร์มัก หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบประธานาธิบดียูเครน กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า การหารือที่เกิดขึ้นเป็นเหมือน “การอัดเข้าใส่หน้ารัสเซียอย่างจัง” และตัวแทนจาก 42 ประเทศที่เข้าร่วมงานตกลงกันที่จะนัดพูดคุยครั้งต่อไปภายในเดือนหรือเดือนครึ่งนับจากนี้

ทั้งนี้ ประเทศที่เข้าร่วมประชุมต่างสนับสนุนอิสรภาพและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครนอย่างเต็มที่ และมีการหารือเนื้อหาของแผนสันติภาพที่ยูเครนเป็นฝ่ายเสนอเท่านั้น แต่ก็ยอมรับว่า ยังไม่มีการบรรลุข้อตกลงตามแผนสันติภาพ 10 ข้อของปธน.เซเลนสกี ที่เกี่ยวกับการถอนกำลังของรัสเซียออกจากยูเครน เมื่อการประชุมจบลง